ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ อาศัยขุมกำลังสำรองโชว์ฟอร์มสุดยอดช่วยกันกวาดซีรีส์ใส่ "แชมป์เก่า" แอลเอ เลเกอร์ส พร้อมทะลุเข้าสู่รอบชิงแชมป์สายตะวันตกของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2554
ที่ดัลลัส : ตลอดซีรีส์ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ แสดงให้เห็นถึงขุมกำลังสำรองที่มีทีเด็ดกว่า แอลเอ เลเกอร์ส ซึ่ง เจสัน เทอร์รี ทำให้เห็นอีกครั้งด้วยการส่อง 3 แต้มลงห่วงถึง 9 หน (สถิติมากที่สุดร่วมในเพลย์ออฟ) มีส่วนนำต้นสังกัดเปิดบ้านต้อนตือ แอลเอ เลเกอร์ส 122-86 คะแนน ปิดซีรีส์ลงอย่างราบคาบ 4-0 เกม
เกมที่ เลเกอร์ส ต้องการรักษาหน้าแชมป์เก่า หวังโอกาสกลับไปแก้ตัวที่สเตเปิล เซ็นเตอร์ อีกสักครั้ง แต่ แมฟเวอร์ริกส์ ไม่ปล่อยให้ซีรีส์ต้องยืดเยื้อระดมชู้ตลงห่วงเป็นว่าเล่น โดยเหล่า "แมฟส์แมน" ส่องฟิลด์โกลลง 20 จาก 32 ครั้ง คิดเป็น 60.3 เปอร์เซ็นต์ เป็นการชู้ตสามแต้มซวบห่วง 20 จาก 32 หน (62.5 เปอร์เซ็นต์) ซึ่ง เจสัน เทอร์รี รับสัมปทานไป 32 แต้ม 4 แอสซิสต์ นำกำลังสำรองอย่าง เจ.เจ.บาเรีย 22 แต้ม 8 แอสซิสต์ เพยา สโตยาโควิช เสริม 21 แต้ม ช่วยงาน เดิร์ก โนวิตซกี ฟอร์เวิร์ดสตาร์ประจำทีมที่ได้ไปเบาะๆ 17 แต้ม 7 รีบาวด์ แต่ก็เพียงพอให้ แมฟเวอร์ริกส์ กลับสู่รอบชิงคอนเฟอเรนซ์หนแรกตั้งแต่ซีซัน 2005/06
โดย แมฟเวอร์ริกส์ (อันดับ 3) เข้าไปยืนรอพบผู้ชนะระหว่าง โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ (อันดับ 4) หรือ เมมฟิส กริซลีย์ส (อันดับ 8) ต่อไป ซึ่งปัจจุบัน "เจ้าหมี" กริซลีย์ส นำซีรีส์อยู่ 2-1 เกม
ในส่วนของ เลเกอร์ส อาศัย โคบี ไบรอันท์ การ์ดแม่ทัพทำไป 17 แต้ม รอน อาร์เตสท์ กลับมาจากโทษแบนช่วย 11 แต้ม แอนดรูว์ บายนัม มีเพียง 6 แต้ม 6 รีบาวด์ ก่อนโดนไล่ออกจากสนามช่วงต้นควอเตอร์สี่ เช่นเดียวกับ ลามาร์ โอดอม ฟอร์เวิร์ดสำรองที่เก็บ 10 แต้ม เพา กาซอล ได้มา 10 แต้ม 8 รีบาวด์ 6 แอสซิสต์ แต่ไม่ดีพอ ขุนพล "ม่วง-ทอง" ต้องไปตั้งหลักกันใหม่ในฤดูกาลหน้าที่จะไม่มี ฟิล แจ็คสัน ตำนานโค้ชคุมบังเหียนอีกต่อไป
หลังเกม "บิ๊กฟิล" ออกมาให้สัมภาษณ์ "เราต่างก็ผิดหวังที่มันจบลงแบบนี้ เราได้แต่วิ่งดูพวกเขาเล่น แบบนี้คุณไม่มีทางชนะได้ คุณอยากได้โอกาสในการขึ้นไปท้าทายบ้าง ทว่าเราไม่สามารถทำเช่นนั้น โดยผมพูดมาตลอดว่า ดัลลัส (แมฟเวอร์ริกส์) เป็นทีมชั้นดี เรามีสถิติเท่ากับพวกเขาในฤดูกาลปกติ แต่เป็นพวกเขาที่ทำได้ดีกว่าเรา (เข้าสู่โพสต์ซีซัน)"
ส่วนผลการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศฝั่งตะวันออกเกมที่ 4 "กระทิงเปลี่ยว" ชิคาโก บูลส์ ทีมสถิติอันดับหนึ่งของลีกยังคงต้องเจองานหนักต่อไป หลังบุกไปพ่ายแอตแลนตา ฮอร์คสถึงถิ่นด้วยสกอร์ 88-100 ส่งผลให้ "เหยี่ยวน้อย" ตีเสมอซีรีย์สเป็น 2-2 เกม โดยจอร์จ สมิธเป็นพระเอกของเจ้าถิ่นทำไปคนเดียว 23 แต้ม 16 รีบาวน์ด
ที่ดัลลัส : ตลอดซีรีส์ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ แสดงให้เห็นถึงขุมกำลังสำรองที่มีทีเด็ดกว่า แอลเอ เลเกอร์ส ซึ่ง เจสัน เทอร์รี ทำให้เห็นอีกครั้งด้วยการส่อง 3 แต้มลงห่วงถึง 9 หน (สถิติมากที่สุดร่วมในเพลย์ออฟ) มีส่วนนำต้นสังกัดเปิดบ้านต้อนตือ แอลเอ เลเกอร์ส 122-86 คะแนน ปิดซีรีส์ลงอย่างราบคาบ 4-0 เกม
เกมที่ เลเกอร์ส ต้องการรักษาหน้าแชมป์เก่า หวังโอกาสกลับไปแก้ตัวที่สเตเปิล เซ็นเตอร์ อีกสักครั้ง แต่ แมฟเวอร์ริกส์ ไม่ปล่อยให้ซีรีส์ต้องยืดเยื้อระดมชู้ตลงห่วงเป็นว่าเล่น โดยเหล่า "แมฟส์แมน" ส่องฟิลด์โกลลง 20 จาก 32 ครั้ง คิดเป็น 60.3 เปอร์เซ็นต์ เป็นการชู้ตสามแต้มซวบห่วง 20 จาก 32 หน (62.5 เปอร์เซ็นต์) ซึ่ง เจสัน เทอร์รี รับสัมปทานไป 32 แต้ม 4 แอสซิสต์ นำกำลังสำรองอย่าง เจ.เจ.บาเรีย 22 แต้ม 8 แอสซิสต์ เพยา สโตยาโควิช เสริม 21 แต้ม ช่วยงาน เดิร์ก โนวิตซกี ฟอร์เวิร์ดสตาร์ประจำทีมที่ได้ไปเบาะๆ 17 แต้ม 7 รีบาวด์ แต่ก็เพียงพอให้ แมฟเวอร์ริกส์ กลับสู่รอบชิงคอนเฟอเรนซ์หนแรกตั้งแต่ซีซัน 2005/06
โดย แมฟเวอร์ริกส์ (อันดับ 3) เข้าไปยืนรอพบผู้ชนะระหว่าง โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ (อันดับ 4) หรือ เมมฟิส กริซลีย์ส (อันดับ 8) ต่อไป ซึ่งปัจจุบัน "เจ้าหมี" กริซลีย์ส นำซีรีส์อยู่ 2-1 เกม
ในส่วนของ เลเกอร์ส อาศัย โคบี ไบรอันท์ การ์ดแม่ทัพทำไป 17 แต้ม รอน อาร์เตสท์ กลับมาจากโทษแบนช่วย 11 แต้ม แอนดรูว์ บายนัม มีเพียง 6 แต้ม 6 รีบาวด์ ก่อนโดนไล่ออกจากสนามช่วงต้นควอเตอร์สี่ เช่นเดียวกับ ลามาร์ โอดอม ฟอร์เวิร์ดสำรองที่เก็บ 10 แต้ม เพา กาซอล ได้มา 10 แต้ม 8 รีบาวด์ 6 แอสซิสต์ แต่ไม่ดีพอ ขุนพล "ม่วง-ทอง" ต้องไปตั้งหลักกันใหม่ในฤดูกาลหน้าที่จะไม่มี ฟิล แจ็คสัน ตำนานโค้ชคุมบังเหียนอีกต่อไป
หลังเกม "บิ๊กฟิล" ออกมาให้สัมภาษณ์ "เราต่างก็ผิดหวังที่มันจบลงแบบนี้ เราได้แต่วิ่งดูพวกเขาเล่น แบบนี้คุณไม่มีทางชนะได้ คุณอยากได้โอกาสในการขึ้นไปท้าทายบ้าง ทว่าเราไม่สามารถทำเช่นนั้น โดยผมพูดมาตลอดว่า ดัลลัส (แมฟเวอร์ริกส์) เป็นทีมชั้นดี เรามีสถิติเท่ากับพวกเขาในฤดูกาลปกติ แต่เป็นพวกเขาที่ทำได้ดีกว่าเรา (เข้าสู่โพสต์ซีซัน)"
ส่วนผลการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศฝั่งตะวันออกเกมที่ 4 "กระทิงเปลี่ยว" ชิคาโก บูลส์ ทีมสถิติอันดับหนึ่งของลีกยังคงต้องเจองานหนักต่อไป หลังบุกไปพ่ายแอตแลนตา ฮอร์คสถึงถิ่นด้วยสกอร์ 88-100 ส่งผลให้ "เหยี่ยวน้อย" ตีเสมอซีรีย์สเป็น 2-2 เกม โดยจอร์จ สมิธเป็นพระเอกของเจ้าถิ่นทำไปคนเดียว 23 แต้ม 16 รีบาวน์ด
