ASTVผู้จัดการรายวัน - หลังจาก “วรวีร์ มะกูดี” ทำผลงานไม่เข้าตาในการนั่งเก้าอี้ประมุขลูกหนังมา 2 สมัยเป็นเวลา 4 ปี มวลชนจึงคาดหวังว่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงหลังการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา กระทั่งบุรุษปริศนาผู้ท้าชิงคนที่ 3 นอกเหนือจาก “พิเชฐ มั่นคง” ปรากฏตัวเป็น “วิรัช ชาญพานิชย์” ทำให้เกิดภาวะฝุ่นตลบไปทั่วห้องประชุมศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติหนองจอกจนนำมาสู่เกมล้มโต๊ะ กลายเป็นดราม่าและน้ำเน่าไม่แพ้กับ “ดอกส้มสีทอง” ซึ่งกำลังเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ในขณะนี้ เจ้าของตำแหน่งคนเดิมจึงได้รับฉายาล้อเลียนจากโลกไซเบอร์ว่า “เรยี” อันมาจากชื่อตัวละคร “เรยา” ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดในแง่ของพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม
แม้ “บังยี” จะแถลงว่าทำไปเพื่อความโปร่งใสในเรื่องสิทธิ์เลือกตั้งที่ซ้ำซ้อนกันของสโมสรสมาชิก พร้อมทั้งบอกว่าไม่ต้องผ่านมติจากที่ประชุมใหญ่ โดยให้เหตุผลว่ามีตัวแทนสโมสรสมาชิกที่ระบุไม่ได้ว่ารับมอบฉันทะอย่างถูกต้องอยู่ซึ่งถือว่าขาดคุณสมบัติ แต่ส่วนใหญ่มองว่าเป็นการซื้อเวลาเพราะกลัวแพ้การเลือกตั้ง หลังจากมีกระแสว่าฐานเสียงเปลี่ยนขั้วไปที่ม้ามืดกว่า 100 คะแนนจาก 160 เสียงที่มาในวันนั้น
ผู้สื่อข่าว MGR Sport จึงสอบถาม วิรัช ชาญพานิชย์ ถึงประเด็นล้มทั้งการเลือกตั้งและการประชุมใหญ่ที่ไม่ชอบมาพากล ซึ่ง “บิ๊กกร๊อง” หนึ่งในสภากรรมการบริหารสมาคมฯ บอกว่า “ในข้อบังคับลักษณะปกครองสมาคมฟุตบอลฯ หากจะยกเลิกการประชุมใหญ่ต้องมีมติ 2 ใน 3 ของสมาชิกในที่ประชุม แต่นี่เป็นมติเฉพาะสภากรรมการฯ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้อยู่ตอนลงมติ อีกทั้งยังยกเลิกวาระการประชุมอื่นๆ ก่อนถึงวาระเลือกตั้งในลำดับที่ 5 ดื้อๆ ทั้งที่จริงไม่ต้องยกเลิกทั้งหมดก็ได้ ปัญหาจริงๆ มีเพียงสิทธิ์เลือกตั้งซ้ำซ้อนของสโมสรสมาชิก 2 รายเท่านั้น (สมาคมศิษย์เก่าไชยฉิมพลีวิทยาคม จากถ้วยพระราชทานประเภท ค , สมาคมฟุตบอลอำเภอตะพานหิน จากถ้วยพระราชทานประเภท ง) ซึ่งนับเป็นเรื่องน่าละอายอย่างยิ่ง”
อดีตผู้จัดการทีมชาติไทย ยุครั้งอันดับสูงสุดที่ 43 ของโลก, แชมป์ซีเกมส์ 5 สมัยซ้อน รวมถึงพาไทยเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เผยต่อว่า “อันที่จริงตัวแทนของ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่มาสังเกตการณ์ได้ท้วงติงเรื่องยกเลิกการประชุมโดยไม่ขอมติจากที่ประชุมใหญ่แล้วว่าอาจขัดต่อ พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2528 แต่ก็ยังดึงดัน จึงเข้าข่ายการทำความผิดต่อหน้าเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่ง กกท.คงเรียกสมาคมฯ ไปชี้แจงเหตุผลเรื่องยกเลิกการประชุมภายหลัง แต่ กกท.จะเข้ามาจัดการเลือกตั้งครั้งหน้าเองเพื่อความโปร่งใสหรือไม่ก็สุดแล้วแต่เขา ส่วนตัวผมหากได้รับการเสนอชื่อจากสโมสรสมาชิกในการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็ยังยินดีสู้ไม่ถอย แต่เกมจะพลิกอีกหรือเปล่าผมไม่รู้”
เวลานี้นับว่า วรวีร์ ถึงคราวจนมุมอย่างแท้จริง แม้จะรอดจากการเสียบัลลังก์ แต่กระแสต่อต้านกลับรุนแรงมากขึ้น ไม่ใช่แค่แฟนบอลที่ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับผลงานของทีมชาติไทย ตลอดจนการบริหารงานของสมาคมฯชุดนี้ที่เพิ่งถูกปรับตกรอบปรีโอลิมปิกเพราะส่งผู้เล่นติดโทษแบนตกค้าง สโมสรสมาชิกส่วนใหญ่ก็ไม่สบอารมณ์นักกับการล้มการเลือกตั้งครั้งนี้ การอ้างว่ามีนัดไปเคลียร์เรื่องปรีโอลิมปิกกับ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ในสัปดาห์นี้แท้จริงอาจถอยไปตั้งหลักเพื่อรวบรวมคะแนนเสียงใหม่อีกรอบ
อย่างไรก็ตาม กกท.อาจเร่งรัดให้จัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ใหม่โดยเร็ว เนื่องจาก“บังยี” หมดวาระมาตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว เท่ากับว่าเหลืออีกไม่ถึง 60 วันตามกรอบเวลาที่กำหนด ทว่าเขาจะหาทางพลิกเกมอย่างไรในสภาวะบีบคั้น เพราะถ้าเหตุผลที่ล้มกระดานคือการกลัวตกเก้าอี้ หมายความว่าหากมันเป็นจริงอาจเสียหายหลายแสน (หรือหลายล้าน) อย่างน้อยก็ในโครงการมูลค่า 1,250 ล้านบาทเพื่อเนรมิตสนามสำหรับจัดฟุตซอลโลก 2012 ในย่านหนองจอกที่ตัวเองเป็นหัวหอกให้ไทยได้รับหน้าเสื่อ
สำหรับ “เรยา” ในละคร “ดอกส้มสีทอง” จะใช้เล่ห์เหลี่ยมสารพัดจนเธอได้สิ่งที่ต้องการโดยไม่คำนึงถึงความถูกผิด แต่ตอนจบก็ลงเอยด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวเพราะคนที่เธอหมายปองเอง ส่วน “เรยี” ฉบับ “ดอกส้ม ส.บอล” จะลงเอยอย่างไรโปรดติดตามต่อไปจนกว่าจะถึงบทอวสาน