"นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ซิตี หวนคืนเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สำเร็จ หลังบุกจิก "ปอมปีย์" ปอร์ทสมัธ 1-0 ในศึกฟุตบอลเดอะแชมเปียนชิป อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2554
หลังจาก "เดอะบลูเบิร์ดส" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี พลิกล็อกปราชัยคาถิ่นต่อ มิดเดิลสโบรช์ 0-3 ในเกมช่วงหัวค่ำวันจันทร์ นั่นหมายความว่าหาก นอริช ซิตี บุกคว้าชัยเหนือ ปอร์ทสมัธ ถึงแฟรตตัน ปาร์ค ก็จะได้เลื่อนกลับสู่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอีกครั้ง ทำให้ พอล แลมเบิร์ต กุนซือคนเก่งสั่งแข้ง "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" เน้นกันเป็นพิเศษ
ซึ่งเกมการแข่งขัน ปรากฏว่าเป็นทาง นอริช สร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้เหนือกว่า ปอร์ทสมัธ ก่อนมาได้ประตูชัยในนาทีที่ 50 จาก ซิโมน แจ็คสัน ทำให้ต้นสังกัดบุกมาเฮถึงทางตอนใต้ของอังกฤษ เก็บเพิ่มเป็น 83 คะแนนจาก 45 นัด คว้าอันดับ 2 ได้เลื่อนสู่พรีเมียร์ลีก พร้อมกับ "ทหารเสือราชินี" ควีนปาร์ค เรนเจอร์ส แชมป์เดอะแชมเปียนชิป ที่กดไป 88 แต้ม ขณะที่โปรแกรมเหลืออีกแค่นัดเดียว
ทั้งนี้ แฟนๆ "นกขมิ้น" ต้องชื่นชมบอร์ดบริหารที่สายตาเฉียบขาด ไปดึง แลมเบิร์ต มาทำงานในถิ่นแคร์โรว์ โรด แทน ไบรอัน กันน์ ที่โดนปลดจากตำแหน่งไปเมื่อช่วงหน้าร้อนปี 2009 โดย แลมเบิร์ต สามารถพาทีมเลื่อนสู่แชมเปียนชิปได้ทันทีในปีต่อมา จากนั้นอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสกอตแลนด์ วัย 41 ปี สร้างผลงานชิ้นโบแดงนำ นอริช เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้ทันควัน
ขณะที่ คาร์ดิฟฟ์ แม้พลาดหวังเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แบบอัตโนมัติ แต่ลูกทีมของ เดฟ โจนส์ รั้งอันดับ 3 ณ ปัจจุบัน ได้สิทธิในการเตะเพลย์ออฟเช่นเดียวกับ สวอนซี ซิตี และ เรดดิง ส่วนโควตาสุดท้ายน่าจะเป็นของ "สิงห์สั่งป่า" น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (อันดับ 6) ที่นำ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3 แต้ม ก่อนเข้าสู่โปรแกรมนัดสุดท้ายกันในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้
หลังจาก "เดอะบลูเบิร์ดส" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี พลิกล็อกปราชัยคาถิ่นต่อ มิดเดิลสโบรช์ 0-3 ในเกมช่วงหัวค่ำวันจันทร์ นั่นหมายความว่าหาก นอริช ซิตี บุกคว้าชัยเหนือ ปอร์ทสมัธ ถึงแฟรตตัน ปาร์ค ก็จะได้เลื่อนกลับสู่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอีกครั้ง ทำให้ พอล แลมเบิร์ต กุนซือคนเก่งสั่งแข้ง "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" เน้นกันเป็นพิเศษ
ซึ่งเกมการแข่งขัน ปรากฏว่าเป็นทาง นอริช สร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้เหนือกว่า ปอร์ทสมัธ ก่อนมาได้ประตูชัยในนาทีที่ 50 จาก ซิโมน แจ็คสัน ทำให้ต้นสังกัดบุกมาเฮถึงทางตอนใต้ของอังกฤษ เก็บเพิ่มเป็น 83 คะแนนจาก 45 นัด คว้าอันดับ 2 ได้เลื่อนสู่พรีเมียร์ลีก พร้อมกับ "ทหารเสือราชินี" ควีนปาร์ค เรนเจอร์ส แชมป์เดอะแชมเปียนชิป ที่กดไป 88 แต้ม ขณะที่โปรแกรมเหลืออีกแค่นัดเดียว
ทั้งนี้ แฟนๆ "นกขมิ้น" ต้องชื่นชมบอร์ดบริหารที่สายตาเฉียบขาด ไปดึง แลมเบิร์ต มาทำงานในถิ่นแคร์โรว์ โรด แทน ไบรอัน กันน์ ที่โดนปลดจากตำแหน่งไปเมื่อช่วงหน้าร้อนปี 2009 โดย แลมเบิร์ต สามารถพาทีมเลื่อนสู่แชมเปียนชิปได้ทันทีในปีต่อมา จากนั้นอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสกอตแลนด์ วัย 41 ปี สร้างผลงานชิ้นโบแดงนำ นอริช เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้ทันควัน
ขณะที่ คาร์ดิฟฟ์ แม้พลาดหวังเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แบบอัตโนมัติ แต่ลูกทีมของ เดฟ โจนส์ รั้งอันดับ 3 ณ ปัจจุบัน ได้สิทธิในการเตะเพลย์ออฟเช่นเดียวกับ สวอนซี ซิตี และ เรดดิง ส่วนโควตาสุดท้ายน่าจะเป็นของ "สิงห์สั่งป่า" น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (อันดับ 6) ที่นำ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3 แต้ม ก่อนเข้าสู่โปรแกรมนัดสุดท้ายกันในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้
