xs
xsm
sm
md
lg

พิเชฐจวกยีไม่พัฒนาแข้งไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิเชฐ มั่นคง มั่นใจว่าจะเป็นได้มากกว่าสีสันศึกชิงประมุขลูกหนังไทย
"บิ๊กเชฐ" พิเชฐ มั่นคง ออกโรงจวกยับ วรวีร์ มะกูดี ทำวงการฟุตบอลไทยพายเรือในอ่าง มั่นใจพัฒนาเทียบเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น หากได้รับเลือกนั่งประมุขสมาคมลูกหนังไทย ยอมรับหวั่นทีม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี แตกหลังบอร์ด กทท.ยึกยักเตะถ่วง MOU

เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันอังคารที่ 26 เมษายน 2554 ณ ห้องวีไอพี สนามแพท สเตเดียม มีการแถลงนโยบายของนายพิเชฐ มั่นคง อดีตประธานสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ในการลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย แข่งกับนายวรวีร์ มะกูดี เจ้าของเก้าอี้เดิม ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้

โดยนายพิเชฐ เปิดเผยถึงการตัดสินใจในครั้งนี้ว่า "ผมตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวที่ได้รับความสนับสนุนจากคุณชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รวมถึงต้องปฏิเสธข่าวลือเรื่องที่มีการใช้เงินซื้อเสียงสโมสรสมาชิกเสียงละ 30,000 บาทด้วยว่าไม่เป็นความจริง ในฐานะคนที่เคยทำทีมการท่าเรือฯ ประสบความสำเร็จก็อยากเห็นวงการฟุตบอลไทยก้าวหน้ามากไปกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ที่คนเก่าบริหารงานกันมานานแต่ก็ไร้การพัฒนาในทุกด้าน"

ทั้งนี้ "บิ๊กเชฐ" กล่าวถึงนโยบายที่จะมัดใจสมาชิกประกอบด้วย "ข้อแรกผมต้องการทำแผนพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติ ยกตัวอย่างตารางแข่งขันทีมชาติไทยตั้งแต่ปี 2011-2013 ต้องเป็นระบบไม่ใช่ไร้ระบบเหมือนปัจจุบัน อีกทั้งผลงานต้องจับต้องได้ และซีเกมส์ต้องได้เหรียญทองเท่านั้น ส่วนข้อถัดมาจะมีการปรับโครงสร้างสภากรรมการบริหารสมาคมฯ โดยมอบโอกาสให้นักกีฬาทีมชาติ, สื่อมวลชน และ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างมีส่วนรวม ขณะที่ข้อสุดท้ายจะมีการเลือกผู้ฝึกสอนชาวไทยมาทำหน้าที่ดูแลทีมชาติ เนื่องจากโค้ชชาวต่างชาติจะอย่างไรก็ไม่เต็มที่กับการทำงานเหมือนคนไทยด้วยกัน"

ขณะเดียวกัน "บิ๊กเชฐ" กล่าวฝากไปถึงคู่แข่งอย่าง "บังยี" ด้วยว่า "อย่ามากังวลกับการลงสมัครของผม ให้เป็นห่วงตัวเองจะดีกว่า ขอให้มั่นใจได้เลยว่าผมมาเพื่อต้องการพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างจริงจัง และมีดีกว่าคนเก่า โดยจะยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง อีกทั้งตั้งใจพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ทัดเทียมกับชาติแถวหน้าในเอเชียอย่างเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นให้ได้"

"ผมมั่นใจว่าขณะนี้ไม่ได้มีแค่ชื่อของ พิเชฐ มั่นคง และ วรวีร์ มะกูดี ในการเลือกตั้งวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ น่าจะมีอีกกลุ่มที่เสนอรายชื่อร่วมแข่งขันด้วย ซึ่งคงพูดอะไรไม่ได้ในตอนนี้ แต่ขอให้เชื่อว่าผมจะสร้างความประหลาดใจในการเลือกตั้งได้แน่นอน เพราะเท่าที่ทราบตอนนี้มีเสียงที่พร้อมสนับสนุนอีกถึง 30 กว่าคะแนนแล้ว และผมไม่ใช่แค่สีสันเท่านั้น แต่จะเป็นการสร้างสรรค์ที่ดีสำหรับการแข่งขันครั้งสุดท้ายในชีวิตของผม"

นอกจากนี้อดีตประธานสโมสร "สิงห์เจ้าท่า" ยังยอมรับหวั่นใจว่าทีมเก่าจะประสบปัญหาทีมแตกจากการดื้อรั้นของบอร์ดบริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่ไม่ยอมทำ MOU กับสโมสรด้วย "กทท.อยากได้สิทธิ์ทำทีมเอง แต่ว่ามีปัญหาที่ทำงานไม่เป็น การดึงเรื่องเช่นนี้มีผลเสียกับการท่าเรือไทย เอฟซี ผมรู้จักคุ้นเคยกับลูกเล่นดังกล่าวดี และไม่อยากเห็นทีมในตำนานอย่างนี้ต้องล้มหายตายจากไป อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถยุติปัญหาได้ก็คงจะต้องปล่อยผู้เล่นฝีเท้าดีออกจากทีม เพื่อให้นักเตะเหล่านี้มีอนาคตที่ดีต่อไป"
กำลังโหลดความคิดเห็น