ASTVผู้จัดการรายวัน - พ้นช่วงสงกรานต์บ้านเรา ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ได้ฤกษ์เปิดฉากโพสต์ซีซันกันในวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2554 ซึ่งฤดูกาล 2010/11 ถือว่าเข้มข้น เมื่อหลายทีมจากฝั่งตะวันออก พร้อมขึ้นมาทวงคืนแชมป์จากฟากตะวันตก ขณะที่เหล่าซูเปอร์สตาร์เตรียมประชันฝีมือกันในสังเวียนยัดห่วง ซึ่งบรรทัดต่อจากนี้คือ 4 เหตุผลสำหรับการติดตามชม "เพลย์ออฟ" ให้สนุกยิ่งขึ้น
1. เมื่อตะวันออกขึ้นมาสูสีตะวันตก
ฤดูกาลนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบรายปีที่ฟากตะวันออกจะทวงคืนศักดิ์ศรีลุ้น "แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี" กันแบบเต็มตัวบ้าง การก่อกำเนิดขึ้นของ "บิ๊กทรี" (เลอบรอน เจมส์, ดเวย์น เหว็ด และ คริส บอช) ที่ไมอามี ฮีท และการข้ามมาสร้างสีสันให้ อีสต์เทิร์น คอนเฟอเรนซ์ ทั้ง คาร์ลอส บูเซอร์ (บูลส์) อมาเร สเตาดาไมร์ และ คาร์เมโล แอนโธนีย์ (นิวยอร์ก นิกส์) ได้ยกระดับการแข่งขันทำให้ได้เห็น 4 ทีมหัวแถวตะวันออกอย่าง บูลส์, บอสตัน เซลติกส์, ฮีท และ ออร์แลนโด แมจิก สามารถขึ้นมาประชันแฟรนไชส์หัวกะทิฝั่งตะวันตกทั้ง เลเกอร์ส, สเปอร์ส, ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ และ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ได้สูสีมากกว่าช่วง 12 ปีที่ผ่านมา
2. "บิ๊กทรี" ดวลกันสนั่นเมือง
นี่จะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่เหล่า “ซูปฯตาร์” แทบจะเดินชนกันในเพลย์ออฟ แต่จุดที่น่าสนใจกว่านั้นคือ การที่หลายทีมพร้อมส่ง "บิ๊กทรี" ลงมาห้ำหั่นกันอย่างถึงพริกถึงขิง พอล เพียร์ซ, เควิน การ์เนตต์ และ เรย์ อัลเลน เตรียมขุดความเก๋าออกมาช่วย เซลติกส์ ได้เลย เพราะนอกจากโดนท้าทายจากสามเกลอ ฮีท ต้องไม่ลืมว่า บูลส์ ก็พร้อมกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ทางฝั่งตะวันออก เมื่อมี บูเซอร์, โจอาคิม โนอาห์ และ เดอร์ริค โรส ว่าที่ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) เป็นตัวชูโรง ส่วนตะวันตก การกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งของ "บิ๊กทรี" ฉบับออริจินัลของสเปอร์สทั้ง ทิม ดันแคน, มานู จิโนบิลี กับ โทนี พาร์เกอร์ พร้อมเขย่าบัลลังก์ เลเกอร์ส ของ โคบี ไบรอันท์, เพา กาซอล และ ดีเร็ค ฟิสเชอร์ ได้ในปีนี้
3. ได้เวลาประชันดาวดวงใหม่
ถือเป็นเส้นทางสายหนึ่งสำหรับการเป็นซูเปอร์สตาร์ เมื่อดาวรุ่งต้องขึ้นมาแบกแฟรนไชส์ไว้บนบ่า เหมือนกับที่ โรส กำลังทำอยู่ที่วันนี้ที่ชิคาโก การนำ บูลส์ คว้าอันดับ 1 ฝั่งตะวันออก ความเป็นผู้นำที่ฉายออกมาทุกค่ำคืนทำให้อดีตนัมเบอร์วัน ดราฟท์ ปี 2008 คู่ควรกับตำแหน่ง MVP อย่างไม่ต้องสงสัย (ถ้าสื่อมะกันเลิกปักใจกับ เลอบรอน) ผลงานในเวทีใหญ่อย่างเพลย์ออฟจะยิ่งเป็นบทพิสูจน์เพชรเม็ดนี้ว่าล้ำค่าแค่ไหน ทว่านี่ไม่ใช่ดาวรุ่งดวงเดียวในโพสต์ซีซัน เมื่อมันถึงเวลาแล้วที่ ราจอน รอนโด จะขึ้นมานำทัพแทนรุ่นพี่ในทีมเซลติกส์ ส่วนทางตะวันตก ธันเดอร์ จะคำรามเสียงดังขนาดไหนคงต้องขึ้นอยู่กับการประสานงานกันของดูโอที่น่าจับตามองอย่าง เควิน ดูแรนท์ และ รัสเซลล์ เวสต์บรูก ขณะที่ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ไปได้ไกลเพียงใดนั้น คงต้องฝากอนาคตไว้กับ ไท ลอว์สัน การ์ดจ่ายดาวรุ่งที่ขึ้นมาคุมบอลแทน ชอนซีย์ บิลล์อัพส์ อย่างเต็มตัว
4. โอกาสแชมป์ที่เปิดกว้าง
เมื่อพูดถึงโอกาสการเป็นแชมป์ ตามแนวโน้มมีสิทธิที่จะได้เห็น เลเกอร์ส รีแมตช์รอบชิง NBA กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เซลติกส์ หรือ แมจิก ขอกลับเข้าไปท้าบัลลังก์ เลเกอร์ส อีกสักตั้ง แต่ถ้าใครอยากดู "บิ๊กทรี" ฉบับดั่งเดิมปะทะกันคงต้องเชียร์ให้ เซลติกส์ เข้าไปดวล สเปอร์ส แต่นั่นคงไม่ใช่ทางเลือกเดียว เมื่อต้องบอกว่า บูลส์ ในปีนี้มาดีจริงๆ นอกจาก โรส ถือว่า "กระทิงเปลี่ยว" มีแผงฟรอนท์คอร์ตที่แกร่งไม่เป็นรองใคร ขณะที่ ฮีท การสร้างทีมด้วยการทุ่มดึง เลอบรอน กับ บอช มาประสานงาน ดี-เหว็ด ก็เพื่อภารกิจเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ส่วนฟากตะวันตก หากไม่นับ เลเกอร์ส กับ สเปอร์ส ทีมที่แกร่งที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น แมฟเวอร์ริกส์ อดีตคู่ชิงของ ฮีท เมื่อปี 2005/06 ที่มาพร้อมกับ "แมฟส์แมน" ซึ่งแกร่งทุกขุมพลัง เรียกได้ว่ามองข้ามไม่ได้เลย
