คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือน ฤดูกาลปกติของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ก็จะปิดฉากลง เพื่อรูดม่านลุยเพลย์ออฟกันต่อ ณ เวลานี้สถานการณ์การขับเคี่ยวชิงอันดับ รวมถึงคว้าตั๋วเข้าสู่โพสต์ซีซันของทั้งฝั่งตะวันออก และฟากตะวันตกกำลังเข้มข้น อีกสัก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าคงได้มาแจกแจงโอกาสของแต่ละคอนเฟอเรนซ์ แต่ตอนนี้ผู้เขียนอยากชวนท่านผู้อ่านมาแลกเปลี่ยนทรรศนะ คิดเห็นตรงกันหรือไม่ที่ว่า "กระทิงเปลี่ยว" ชิคาโก บูลส์ มีลุ้นสัมผัสแชมป์เป็นสมัยแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดมหากาพย์ที่สร้างขึ้นโดยตำนานที่ชื่อว่า "ไมเคิล จอร์แดน"
ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเคยชำแหละ "บิ๊กโฟร์" ที่มีลุ้นกระชาก "แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี" มาจากพลพรรค แอลเอ เลเกอร์ส ซึ่งได้แก่ บอสตัน เซลติกส์, ออร์แลนโด แมจิก, ไมอามี ฮีท และ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส โดยมีคอมเมนต์ตามมาทักท้วงว่าลืม ชิคาโก บูลส์ ไปหรือไม่ ซึ่งผู้เขียนอาจมีความคิดอนุรักษ์นิยมไปนิดที่ให้เครดิตกับ 4 ทีมข้างต้น ภาพรวมถึงวันนี้แน่นอน "กระทิงเปลี่ยว" ไม่เป็นรองใคร ความสมดุลดูดีกว่าบางทีมลุ้นแชมป์ด้วยซ้ำ แต่หากมองถึง "ประสบการณ์" ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในการมาตัดสินหาผู้ชนะในแต่ละซีรีส์ ต้องยอมรับว่าลูกทีมของ ทอม ธิโบดัว ยังด้อยนักกับการฟันฝ่าเกมหฤโหดช่วงเพลย์ออฟ
ถึงอย่างไรก็ดี คงพูดได้เช่นกันว่าแฟนๆ บูลส์ ที่รอการเกิดใหม่หลังสิ้นยุค "แอร์ จอร์แดน" เริ่มเห็นแสงเรืองรอง เมื่อ เดอร์ริค โรส นำทัพได้สมกับดีกรีนัมเบอร์วัน ดราฟท์ (ปี 2008) โจอาคิม โนอาห์, คาร์ลอส บูเซอร์ และ ลูออล เดง คือฟรอนท์คอร์ตที่โดดเด่นที่สุดของชั่วโมงนี้ก็ว่าได้ ถ้ามีชู้ตติ้งการ์ดแม่นระดับ 4-5 ดาว "สตาร์ททิง ไลน์อัพ" คงไม่เป็นสองรองใคร
ประเด็นนี้ทำให้ผู้เขียนคิดเล่นๆ มองย้อนกลับไปถึงยุคที่ "แอร์ จอร์แดน" นำบูลส์ขวิดแชมป์ 6 สมัย โดยช่วงที่สอง (ปี 1996-98) คงปฏิเสธไม่ได้ว่า จอร์แดน คือหัวใจของทีม ซึ่งตอนนี้ ธิโบดัว กำลังปลูกฝังความมั่นใจให้ โรส ที่มีลุ้นตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) คิดไปถึงขั้นนั้น เพื่อนำเพื่อนเผชิญหน้ากับคู่แข่งสุดหินแบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม หากพูดถึงตัวช่วย จอร์แดน มี สกอตตี พิพเพน, รอน ฮาร์เปอร์, เดนนิส ร็อดแมน และ ลุค ลองลีย์ ช่วยงาน ขณะที่บูลส์เลือดใหม่ ผู้เขียนเทียบแล้วว่า โนอาห์ เจ๋งกว่า ลองลีย์ ในตำแหน่ง"เซ็นเตอร์" บูเซอร์ รีบาวด์สถิติเป็นรอง ร็อดแมน แต่การทำแต้มเหนือกว่าเหลือๆ ตรงนี้หน้าที่ "พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด" แตกต่างกันไป ส่วน "สมอล ฟอร์เวิร์ด" เดง ยังห่างไกลจาก พิพเพน แต่ก็เป็น จอร์แดน ที่เอ่ยปากชมรุ่นน้องอย่าง เดง ว่าคือผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง ด้าน ฮาร์เปอร์ ลูกแม่นไม่ถึงกับเด่นเช่นเดียวกับ คีธ โบแกนส์ ชู้ตติ้งการ์ดคนปัจจุบัน ทว่าบนม้านั่งสำรอง ไคล คอร์เวอร์ ถือว่าแม่นเข้าขั้น ทำให้นึกไปถึง สตีฟ เคอร์
แค่นี้ผู้เขียนก็เริ่มเห็นอย่างที่ จอร์แดน เคยเปรยเอาไว้ว่า "กระทิงเปลี่ยว" ชุดนี้มีองค์ประกอบที่ดีสำหรับการลุ้นนั่งบัลลังก์แชมป์ แต่จะสำเร็จในฤดูกาล 2010/11 มันอาจยังเร็วเกินไป ในเมื่อทั้งทีมมีผู้เล่นซึ่งมีประสบการณ์สัมผัสเกมใหญ่ในเพลย์ออฟจริงๆ แค่สองคนคือ บูเซอร์ สมัยนำ ยูทาห์ แจซซ์ เข้าชิงแชมป์สาย เช่นเดียวกับ เคิร์ต โธมัส เซ็นเตอร์รุ่นปู่ที่เคยเป็นแบ็กอัพชั้นดีให้สเปอร์ส และเชื่อเถิดว่าเมื่อเข้าสู่โพสต์ซีซัน เซลติกส์ ของ ด็อกซ์ ริเวอร์ส จะขุดความเก๋าออกมาใช้ไม่ใช่ทีมสามวันดีสี่วันไข้แบบตอนนี้แน่นอน ด้านของ ฮีท ก็เช่นกัน ด้วยศักยภาพ "บิ๊กทรี" เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด กับ คริส บอช พร้อมถล่มทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง ขณะที่ แมจิก ชั่วโมงนี้หาใครหยุด "ซูเปอร์แมน" ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ก็ยากเต็มทน นี่ยังไม่รวมถึงทีมแกร่งจากฝั่งตะวันตกทั้ง เลเกอร์ส, สเปอร์ส หรือว่า ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์
เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือน ฤดูกาลปกติของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ก็จะปิดฉากลง เพื่อรูดม่านลุยเพลย์ออฟกันต่อ ณ เวลานี้สถานการณ์การขับเคี่ยวชิงอันดับ รวมถึงคว้าตั๋วเข้าสู่โพสต์ซีซันของทั้งฝั่งตะวันออก และฟากตะวันตกกำลังเข้มข้น อีกสัก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าคงได้มาแจกแจงโอกาสของแต่ละคอนเฟอเรนซ์ แต่ตอนนี้ผู้เขียนอยากชวนท่านผู้อ่านมาแลกเปลี่ยนทรรศนะ คิดเห็นตรงกันหรือไม่ที่ว่า "กระทิงเปลี่ยว" ชิคาโก บูลส์ มีลุ้นสัมผัสแชมป์เป็นสมัยแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดมหากาพย์ที่สร้างขึ้นโดยตำนานที่ชื่อว่า "ไมเคิล จอร์แดน"
ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเคยชำแหละ "บิ๊กโฟร์" ที่มีลุ้นกระชาก "แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี" มาจากพลพรรค แอลเอ เลเกอร์ส ซึ่งได้แก่ บอสตัน เซลติกส์, ออร์แลนโด แมจิก, ไมอามี ฮีท และ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส โดยมีคอมเมนต์ตามมาทักท้วงว่าลืม ชิคาโก บูลส์ ไปหรือไม่ ซึ่งผู้เขียนอาจมีความคิดอนุรักษ์นิยมไปนิดที่ให้เครดิตกับ 4 ทีมข้างต้น ภาพรวมถึงวันนี้แน่นอน "กระทิงเปลี่ยว" ไม่เป็นรองใคร ความสมดุลดูดีกว่าบางทีมลุ้นแชมป์ด้วยซ้ำ แต่หากมองถึง "ประสบการณ์" ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในการมาตัดสินหาผู้ชนะในแต่ละซีรีส์ ต้องยอมรับว่าลูกทีมของ ทอม ธิโบดัว ยังด้อยนักกับการฟันฝ่าเกมหฤโหดช่วงเพลย์ออฟ
ถึงอย่างไรก็ดี คงพูดได้เช่นกันว่าแฟนๆ บูลส์ ที่รอการเกิดใหม่หลังสิ้นยุค "แอร์ จอร์แดน" เริ่มเห็นแสงเรืองรอง เมื่อ เดอร์ริค โรส นำทัพได้สมกับดีกรีนัมเบอร์วัน ดราฟท์ (ปี 2008) โจอาคิม โนอาห์, คาร์ลอส บูเซอร์ และ ลูออล เดง คือฟรอนท์คอร์ตที่โดดเด่นที่สุดของชั่วโมงนี้ก็ว่าได้ ถ้ามีชู้ตติ้งการ์ดแม่นระดับ 4-5 ดาว "สตาร์ททิง ไลน์อัพ" คงไม่เป็นสองรองใคร
ประเด็นนี้ทำให้ผู้เขียนคิดเล่นๆ มองย้อนกลับไปถึงยุคที่ "แอร์ จอร์แดน" นำบูลส์ขวิดแชมป์ 6 สมัย โดยช่วงที่สอง (ปี 1996-98) คงปฏิเสธไม่ได้ว่า จอร์แดน คือหัวใจของทีม ซึ่งตอนนี้ ธิโบดัว กำลังปลูกฝังความมั่นใจให้ โรส ที่มีลุ้นตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) คิดไปถึงขั้นนั้น เพื่อนำเพื่อนเผชิญหน้ากับคู่แข่งสุดหินแบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม หากพูดถึงตัวช่วย จอร์แดน มี สกอตตี พิพเพน, รอน ฮาร์เปอร์, เดนนิส ร็อดแมน และ ลุค ลองลีย์ ช่วยงาน ขณะที่บูลส์เลือดใหม่ ผู้เขียนเทียบแล้วว่า โนอาห์ เจ๋งกว่า ลองลีย์ ในตำแหน่ง"เซ็นเตอร์" บูเซอร์ รีบาวด์สถิติเป็นรอง ร็อดแมน แต่การทำแต้มเหนือกว่าเหลือๆ ตรงนี้หน้าที่ "พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด" แตกต่างกันไป ส่วน "สมอล ฟอร์เวิร์ด" เดง ยังห่างไกลจาก พิพเพน แต่ก็เป็น จอร์แดน ที่เอ่ยปากชมรุ่นน้องอย่าง เดง ว่าคือผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง ด้าน ฮาร์เปอร์ ลูกแม่นไม่ถึงกับเด่นเช่นเดียวกับ คีธ โบแกนส์ ชู้ตติ้งการ์ดคนปัจจุบัน ทว่าบนม้านั่งสำรอง ไคล คอร์เวอร์ ถือว่าแม่นเข้าขั้น ทำให้นึกไปถึง สตีฟ เคอร์
แค่นี้ผู้เขียนก็เริ่มเห็นอย่างที่ จอร์แดน เคยเปรยเอาไว้ว่า "กระทิงเปลี่ยว" ชุดนี้มีองค์ประกอบที่ดีสำหรับการลุ้นนั่งบัลลังก์แชมป์ แต่จะสำเร็จในฤดูกาล 2010/11 มันอาจยังเร็วเกินไป ในเมื่อทั้งทีมมีผู้เล่นซึ่งมีประสบการณ์สัมผัสเกมใหญ่ในเพลย์ออฟจริงๆ แค่สองคนคือ บูเซอร์ สมัยนำ ยูทาห์ แจซซ์ เข้าชิงแชมป์สาย เช่นเดียวกับ เคิร์ต โธมัส เซ็นเตอร์รุ่นปู่ที่เคยเป็นแบ็กอัพชั้นดีให้สเปอร์ส และเชื่อเถิดว่าเมื่อเข้าสู่โพสต์ซีซัน เซลติกส์ ของ ด็อกซ์ ริเวอร์ส จะขุดความเก๋าออกมาใช้ไม่ใช่ทีมสามวันดีสี่วันไข้แบบตอนนี้แน่นอน ด้านของ ฮีท ก็เช่นกัน ด้วยศักยภาพ "บิ๊กทรี" เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด กับ คริส บอช พร้อมถล่มทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง ขณะที่ แมจิก ชั่วโมงนี้หาใครหยุด "ซูเปอร์แมน" ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ก็ยากเต็มทน นี่ยังไม่รวมถึงทีมแกร่งจากฝั่งตะวันตกทั้ง เลเกอร์ส, สเปอร์ส หรือว่า ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์