คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
ออสเตรเลียน โอเพ่นปี 1995 ไม่มีคอลัมนิสต์เทนนิสรายใดไม่พูดถึงศีรษะที่ปราศจากเส้นผมของอังเดร อากัสซี่ แน่นอนว่าเจ้าตัวเตรียมใจเอาไว้แล้วว่า ต้องพบกับคำพูดหรือ บทความที่กล่าวถึงเขาในรูปแบบที่แตกต่างกัน อังเดร เขียนไว้ในหนังสือของตนเองว่า
“ออสเตรเลี่ยน โอเพ่นปี 1995 คือครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับแกรนด์สแลม บนทวีปดาวน์อันเดอร์แฟนเทนนิสในออสเตรเลียน่ารักเป็นอย่างยิ่ง ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงรออยู่นานนักในการเข้าร่วมสแลมรายการนี้ทั้งที่เมลเบิร์นปาร์ค มีเสน่ห์ไม่ต่างไปจาก วิมเบิลดัน หรือ ยูเอส โอเพ่นแม้แต่น้อย”
“การแข่งขันครั้งนี้ผมลงสนามในฐานะแชมป์ ยูเอส โอเพ่น แต่ด้วยลุคใหม่ที่โล้นเตียนโล่งทำให้สื่อพุ่งความสนใจไปที่เรื่องบนศีรษะมากกว่าฝีมือ และยังเป็นประเด็นให้บรรดาแฟนที่ชอบ และไม่ชอบผมได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงกันต่อไป”
ถ้าเป็นในอดีตเจ้าของผมทรงพังค์ และ กางเกงเทนนิสบลูยีนส์ อย่างอากัสซี่ คงหมดความมั่นใจไม่น้อยกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ครั้งนี้ อังเดร บอกกับตนเองว่า “ปล่อยให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันไป แล้วเราจะปิดปากคนเหล่านี้ด้วยผลการแข่งขันด้วยโทรฟี่แชมป์แกรนด์สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น”
และเจ้าของแชมป์ยูเอส โอเพ่นเมื่อปลายปี 1994 ก็ทำได้ดั่งที่ตั้งใจ เขาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับคู่ปรับตลอดกาล “พีท แซมพราส” ที่ต้องลงสนามด้วยสภาพจิตใจที่ไม่เต็มร้อยนัก เมื่อโค้ชคู่ใจอย่าง ทิม กัลลิคสันป่วยหนักด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก และ ยังตรวจพบเนื้องอกในสมอง ( กัลลิคสัน เสียชีวิตในเวลาต่อมาในเดือนพฤษภาคมปี 1996 ด้วยวัย 44 ปี)
แน่นอนว่า อังเดร เป็นฝ่ายได้เปรียบในเรื่องของสภาพจิตใจ แต่เจ้าตัวไม่ประมาทแม้ว่าจะสงสารพีท เพียงใด หากเหตุการณ์เมื่อครั้งที่ยอมเลื่อนการแข่งขันเนื่องจาก แซมพราส มีอาการอาหารเป็นพิษได้สอนให้อากัสซี่ รู้ว่าต้องปฎบัติตัวเช่นไรกับคู่แข่งในสนาม และเมื่อการแข่งขันเริ่มต้น ดูเหมือน พีท แซมพราส จะลืมทุกสิ่งที่ทำให้ทุกข์ใจได้หมดสิ้น การต่อสู้ของสองคู่ปรับแห่งยุคในรอบชิงชนะเลิศออสเตรเลียน โอเพ่นดำเนินมาถึงเซตที่สี่ และอากัสซี่ ควบคุมเกมได้ทั้งหมดโฟร์แฮนด์จากท้ายคอร์ต เป็นลูกตัดสินที่ทำให้ อดีตไอ้หนุ่มบลูยีนส์คว้าแชมป์ออสเตรเลียนโอเพ่นได้เป็นสมัยแรก และ เป็นชัยชนะครั้งแรกเหนือ พีท แซมพราสในรอบชิงชนะเลิศ ของแกรนด์สแลม ขณะที่เจ้าตัว กล่าวถึงแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น 1995 ของตนเองว่า “เป็นแกรนด์สแลมครั้งแรกที่บนศีรษะนั้นปราศจากเส้นผม”
ออสเตรเลียน โอเพ่นปี 1995 ไม่มีคอลัมนิสต์เทนนิสรายใดไม่พูดถึงศีรษะที่ปราศจากเส้นผมของอังเดร อากัสซี่ แน่นอนว่าเจ้าตัวเตรียมใจเอาไว้แล้วว่า ต้องพบกับคำพูดหรือ บทความที่กล่าวถึงเขาในรูปแบบที่แตกต่างกัน อังเดร เขียนไว้ในหนังสือของตนเองว่า
“ออสเตรเลี่ยน โอเพ่นปี 1995 คือครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับแกรนด์สแลม บนทวีปดาวน์อันเดอร์แฟนเทนนิสในออสเตรเลียน่ารักเป็นอย่างยิ่ง ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงรออยู่นานนักในการเข้าร่วมสแลมรายการนี้ทั้งที่เมลเบิร์นปาร์ค มีเสน่ห์ไม่ต่างไปจาก วิมเบิลดัน หรือ ยูเอส โอเพ่นแม้แต่น้อย”
“การแข่งขันครั้งนี้ผมลงสนามในฐานะแชมป์ ยูเอส โอเพ่น แต่ด้วยลุคใหม่ที่โล้นเตียนโล่งทำให้สื่อพุ่งความสนใจไปที่เรื่องบนศีรษะมากกว่าฝีมือ และยังเป็นประเด็นให้บรรดาแฟนที่ชอบ และไม่ชอบผมได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงกันต่อไป”
ถ้าเป็นในอดีตเจ้าของผมทรงพังค์ และ กางเกงเทนนิสบลูยีนส์ อย่างอากัสซี่ คงหมดความมั่นใจไม่น้อยกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ครั้งนี้ อังเดร บอกกับตนเองว่า “ปล่อยให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันไป แล้วเราจะปิดปากคนเหล่านี้ด้วยผลการแข่งขันด้วยโทรฟี่แชมป์แกรนด์สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น”
และเจ้าของแชมป์ยูเอส โอเพ่นเมื่อปลายปี 1994 ก็ทำได้ดั่งที่ตั้งใจ เขาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับคู่ปรับตลอดกาล “พีท แซมพราส” ที่ต้องลงสนามด้วยสภาพจิตใจที่ไม่เต็มร้อยนัก เมื่อโค้ชคู่ใจอย่าง ทิม กัลลิคสันป่วยหนักด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก และ ยังตรวจพบเนื้องอกในสมอง ( กัลลิคสัน เสียชีวิตในเวลาต่อมาในเดือนพฤษภาคมปี 1996 ด้วยวัย 44 ปี)
แน่นอนว่า อังเดร เป็นฝ่ายได้เปรียบในเรื่องของสภาพจิตใจ แต่เจ้าตัวไม่ประมาทแม้ว่าจะสงสารพีท เพียงใด หากเหตุการณ์เมื่อครั้งที่ยอมเลื่อนการแข่งขันเนื่องจาก แซมพราส มีอาการอาหารเป็นพิษได้สอนให้อากัสซี่ รู้ว่าต้องปฎบัติตัวเช่นไรกับคู่แข่งในสนาม และเมื่อการแข่งขันเริ่มต้น ดูเหมือน พีท แซมพราส จะลืมทุกสิ่งที่ทำให้ทุกข์ใจได้หมดสิ้น การต่อสู้ของสองคู่ปรับแห่งยุคในรอบชิงชนะเลิศออสเตรเลียน โอเพ่นดำเนินมาถึงเซตที่สี่ และอากัสซี่ ควบคุมเกมได้ทั้งหมดโฟร์แฮนด์จากท้ายคอร์ต เป็นลูกตัดสินที่ทำให้ อดีตไอ้หนุ่มบลูยีนส์คว้าแชมป์ออสเตรเลียนโอเพ่นได้เป็นสมัยแรก และ เป็นชัยชนะครั้งแรกเหนือ พีท แซมพราสในรอบชิงชนะเลิศ ของแกรนด์สแลม ขณะที่เจ้าตัว กล่าวถึงแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น 1995 ของตนเองว่า “เป็นแกรนด์สแลมครั้งแรกที่บนศีรษะนั้นปราศจากเส้นผม”