โหมโรงเอฟวัน / เด็กปั๊ม

คอลัมน์ ON TRACK โดย เด็กปั๊ม

ปล่อยให้ศึกมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกแซงหน้าเปิดฤดูกาลไปก่อนหนึ่งสัปดาห์ สุดสัปดาห์นี้ในวันที่ 27 มี.ค.ที่ประเทศออสเตรเลีย ถึงเวลาที่ศึกฟอร์มูลา วัน ฤดูกาล 2011 จะได้ฤกษ์เปิดฉากเสียที หลังศึกบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ที่มีตามคิวเป็นการแข่งขันสนามแรกวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ

พื้นที่ "ออนแทร็ก" ในวันนี้ผมเองจึงขอหยิบเอาสิ่งที่น่าจับตามองในซีซันใหม่มาพูดคุยกัน เริ่มจากเรื่องของนักขับปีนี้ บรรดาทีมใหญ่ทั้งเรดบูลล์ เรซซิง ,เฟอร์รารี ,แม็คลาเรน และเมอร์เซเดสยังคงยึดนักแข่งหน้าเดิมจากปีที่แล้ว ซึ่งจากผลการทดสอบในช่วงวินเตอร์เทสต์ บริษัทรับพนันแบบถูกกฎหมายในยุโรปต่างยกให้ เซ็บ เวทเทล แชมป์โลก 2010 จากเรดบูลล์ เป็นเต็งหนึ่ง โดยมีเฟร์นานโด อลอนโซ ของเฟอร์รารี บี้ตามมาไม่ห่าง

ส่วนนักซิ่งรายอื่นๆที่ถูกคาดว่าน่าจะเป็นตัวสอดแทรก ก็มีทั้งนักขับดีกรีแชมป์โลกจากแม็คลาเรน อย่างลูอิส แฮมิลตัน และเจนสัน บัตตัน แม้ทั้งคู่จะต้องปรับเซ็ตรถ MP4-26 ให้ลงตัวอีกระยะ แต่อีก 2 คนที่เด็กปั๊มอยากให้จับตามอง คือมาร์ค เว็บเบอร์ (เรดบูลล์) ที่แม้หลายคนจะมองข้ามแต่อย่าลืมว่าเขาก็มีรถ RB7 ซึ่งเป็นรถที่ว่ากันว่าเร็วที่สุดในเอฟวัน ส่วนอีกคนผมมองว่า นิโค รอสเบิร์ก นักขับขวัญใจแม่ยกจากเมอร์เซเดสก็อาจมีเซอร์ไพรส์เช่นกัน

ขณะที่เรื่องของกติกาปีนี้ สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) หวังให้การแข่งขันสนุกตื่นเต้นขึ้นด้วยการอนุญาตทั้งเทคโนโลยี KERS รวมถึงระบบปีกหลังปรับระดับได้ ที่นักขับสามารถบังคับได้จากปุ่มที่พวงมาลัยของตัวเอง ซึ่งจากการเทสต์ในช่วงหน้าหนาว หลายคนออกมาบ่นว่าเทคโนโลยีใหม่ๆแบบนี้สร้างความยุ่งยากและทำให้เสียสมาธิในขณะแข่ง ก็ต้องไปดูกันว่างานนี้ใครจะปรับตัวได้เร็วกว่ากัน

นอกจากนี้เรื่องของยางอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของรถฟอร์มูลา วัน ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากบริดสโตนค่ายยางญี่ปุ่นตัดสินใจไม่ต่อสัญญาหลังปี 2010 ก็ทำให้พิเรลลีค่ายยางของอิตาลีได้สัมปทานนี้ไป ซึ่งในช่วงปิดฤดูกาลทีมงานพิเรลลีทำงานหนักพอสมควรครับ เพื่อที่จะให้นักขับใช้ยางที่ถูกใจที่สุด ซึ่งในปีนี้ไม่ต้องแปลกใจหากเห็นโลโกยางเป็นสีสันแตกต่างกันไป เพราะนั่นหมายถึงชนิดของยางแต่ะละประเภท

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าจะกระทบต่อทีมท้ายแถว คือกฏ 107 เปอร์เซนต์ ซึ่งระบุว่าหากนักขับคนได้ทำเวลาช้ากว่า 107% ของรถที่ได้อันดับหนึ่งในรอบแรกของการควอลิฟายก็จะหมดสิทธิ์นำรถลงแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศวันอาทิตย์ทันที ฉะนั้นปีนี้เราจะไม่ได้เห็นรถที่ขับช้ามากๆบนแทร็กอีกต่อไป

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเอฟวัน 2011 กำลังจะดวลความเร็วกันไปตลอด 9 เดือนนับจากนี้ ซึ่งผมเองมั่นใจว่าจะได้เห็นการขับเคี่ยวที่สูสีของเรดบูลล์และเฟอร์รารีไปจนถึงสนามสุดท้ายของปีอีกครั้ง แล้วไปลุ้นกันครับ