ลิเวอร์พูล โหมบุกอย่างหนักใส่ บรากา ตลอดทั้งเกม แต่ไม่สามารถหาทางเจาะตาข่ายได้ ทำให้จบเกมด้วยผลเสมอ 0-0 ยุติเส้นทางในศึกยูโรปา ลีก ไว้เพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย พร้อมทั้งหมดลุ้นความสำเร็จทุกรายการในฤดูกาลนี้
ฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 0-0 บรากา (โปรตุเกส)
(รวม 2 นัด บรากา เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 1-0)
ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านต้อนรับ บรากา ที่กุมความได้เปรียบเอาไว้จากการคว้าชัยมาก่อนในนัดแรก 1-0 เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง แอนดี คาร์โรลล์ หัวหอกค่าตัวสถิติสโมสรลงประเดิมตัวจริงเป็นครั้งแรก โดยมี เดิร์ก เคาท์, โจ โคล, ราอูล เมเรเลส ร่วมประสานงานในแนวรุก ขณะที่ทีมเยือนนำทัพโดย ฮูโก วิอานา อดีตกองกลางนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, ลิมา และ อลัน ผู้ยิงจุดโทษนำชัยในนัดที่แล้ว
เปิดฉากมาได้เพียง 8 นาที “หงส์แดง” ก็บุกกดดันจนเกือบพังประตูได้ถึง 2 ครั้ง เริ่มจากจังหวะที่ คาร์โรลล์ โหม่งตั้งให้ โจ โคล กระทุ้งในเขตโทษถูก อาร์ตูร์ เซฟไว้ได้ ก่อนที่ คาร์โรลล์ จะยิงซ้ำแฉลบออกหลัง จากนั้นลูกเตะมุมต่อเนื่อง คาร์โรลล์ ได้โขกที่เสาสองเฉี่ยวกรอบประตูออกหลังไปเพียงนิดเดียว นาทีที่ 15 บรากา ตอบโต้บ้างด้วยลูกยิงไกลเกือบ 30 หลาของ ลิมา แต่ โฆเซ เรนา ยังขยับตัวมารับเข้าซองไว้ได้
ถัดมา บรากา เริ่มตั้งหลักได้และมีโอกาสกดดัน ลิเวอร์พูล บ้าง นาทีที่ 26 ลิมา แตะลอดขาผู้เล่นหงส์แดงเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่ยังมี ราอูล เมเรเลส ยืนบล็อกออกหลังไปได้ จากนั้นเจ้าถิ่นพยายามเปิดเกมรุก แต่ก็ยังทำสกอร์ไม่ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 58 เจ้าบ้านมีลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ เคาท์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปทางซ้ายของเขตโทษแล้วหยอดเข้ากลาง เมเรเลส โหม่งคนเดียวแบบไม่มีตัวประกบ ทว่ากลับส่งบอลโด่งข้ามคานออกไปแบบไม่ใกล้เคียง ล่วงมาถึงนาทีที่ 75 หงส์แดง แก้เกมด้วยการส่ง เจย์ สเปียริง ลงมาแทน มักซี โรดริเกซ ที่ไม่มีบทบาท ตามด้วย ดาวิด เอ็นก๊อก แทน โจ โคล ซึ่ง เอ็นก๊อก เกือบแผลงฤทธิ์ในนาทีที่ 78 ด้วยการพลิกหาจังหวะสับไกในเขตโทษ แต่ก็ตรงตัว อาร์ตูร์
เวลาเริ่มบีบคั้นเข้ามาเรื่อยๆ นาทีที่ 85 คาร์โรลล์ เทกตัวขึ้นโขกลูกเตะมุมทำท่าจะเสียบมุมแต่ไปติด เคาท์ ที่ยืนอยู่หน้าประตู ลูกถูกสกัดออกมาที่ เกล็น จอห์นสัน หยอดเข้าไปอีกทีให้ มาร์ติน สเคอร์เทล จับบอลลงแล้วยิงก็ยังติด อาร์ตูร์ ที่ถลำออกมาบล็อกไว้ได้ทันเวลา ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 เมเรเลส หยอดฟรีคิกเข้าไปหน้าประตู เอ็นก๊อก สอดเข้ามาโหม่งโดนแค่ถากๆ ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอ 0-0 ทำให้จอดป้ายแต่เพียงเท่านี้ ส่วน บรากา เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบหักปากกาเซียนด้วยสกอร์รวม 1-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล - โฆเซ เรนา, เกล็น จอห์นสัน, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดนนี วิลสัน, มักซี โรดริเกซ, ลูคัส เลวา, ราอูล เมเรเลส, โจ โคล, เดิร์ก เคาท์, แอนดี คาร์โรลล์
บรากา - อาร์ตูร์, มิเกล การ์เซีย, อัลแบร์โต โรดริเกซ, ซิลวิโอ, เปาโล ซานโตส, เลอันโดร ซาลิโน, ฮูโก วิอานา, วานดินโญ, อลัน, ลิมา, เปาโล เซซาร์
ผลฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
แมนเชสเตอร์ ซิตี (อังกฤษ) ชนะ ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) 1-0 (รวม 2 นัด ดินาโม เคียฟ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 2-1)
สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) ชนะ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) 3-0 (รวม 2 นัด สปาร์ตัก มอสโก เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 4-0)
เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) ชนะ เอฟซี ทเวนเต (ฮอลแลนด์) 2-0 (รวม 2 นัด เอฟซี ทเวนเต เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 3-2)
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) เสมอ เบนฟิกา (โปรตุเกส) 1-1 (รวม 2 นัด เบนฟิกา เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 3-2)
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) เสมอ บรากา (โปรตุเกส) 0-0 (รวม 2 นัด บรากา เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายสกอร์ 1-0)
ปอร์โต (โปรตุเกส) ชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) 2-1 (รวม 2 นัด ปอร์โต เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 3-1)
กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) แพ้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (ฮอลแลนด์) 0-1 (รวม 2 นัด พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 1-0)
บียาร์รีล (สเปน) ชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี) 2-1 (รวม 2 นัด บียาร์รีล เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 5-3)