xs
xsm
sm
md
lg

เรือใบแค่ 1-0 ตก 16 ทีมยูโรปา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แมนเชสเตอร์ ซิตี จบเส้นทางในยูโรปา ลีก ที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
แมนเชสเตอร์ ซิตี เหลือผู้เล่น 10 คนในช่วงกลางครึ่งแรก หลังจาก มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าอารมณ์ร้อนโดนไล่ออก ทำให้บดเอาชนะ ดินาโม เคียฟ ได้เพียง 1-0 ก่อนตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกยูโรปาลีก ด้วยประตูรวม 1-2

ฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
แมนเชสเตอร์ ซิตี (อังกฤษ) 1-0 ดินาโม เคียฟ (ยูเครน)
(รวม 2 นัด ดินาโม เคียฟ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 2-1)

เกมชี้ชะตาของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่เปิดสนามซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ ต้อนรับ ดินาโม เคียฟ ซึ่งชนะมาก่อน 2-0 นัดนี้เจ้าถิ่นได้ ไนเจล เดอ ยอง มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติฮอลแลนด์หายเจ็บข้อเท้าฟิตทันลงสนาม ส่วนแดนหน้าวาง คาร์ลอส เตเวซ กัปตันทีมชาวอาร์เจนตินาล่าตาข่ายร่วมกับ มาริโอ บาโลเตลลี ขณะที่ทีมเยือนมี โรมัน เอเรเมนโก ขับเคลื่อนแดนกลาง พร้อมด้วย อังเดร เชฟเชนโก อดีตดาวยิงเชลซีเป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก

เปิดฉากมาได้เพียง 3 นาทีเศษ “เรือใบสีฟ้า” พลาดโอกาสทองในการเจาะตาข่าย เมื่อ ไมกาห์ ริชาร์ดส แบ็กขวาเติมขึ้นมาในเขตโทษแล้วปาดเรียดไปที่เสาสอง บาโลเตลลี สอดเข้ามาแปโล่งๆ โดยที่ โอเล็กซานเดอร์ ชอฟคอฟสกี นายทวารเคียฟขยับตัวมาป้องกันไม่ทันแล้ว แต่หัวหอกชาวอิตาเลียนกลับส่งลูกโด่งข้ามคานอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้น เดอ ยอง มีโอกาสจากการโหม่งลูกเตะมุมในนาทีที่ 13 แต่ก็ข้ามคานออกไป

นัดนี้ดูเหมือนว่า บาโลเตลลี จะทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด เมื่อไปยืนขวางลูกวอลเลย์ของ ดาบิด ซิลบา ที่กำลังจะพุ่งเข้าเสียบเสาแรกในนาทีที่ 26 ทำให้บอลแฉลบออกหลังไป กระทั่งนาทีที่ 36 ดาวเตะแบดบอยก็มาโดนอัปเปหิออกจากสนาม หลังไปยกเท้ายันใส่ โกรัน โปปอฟ อย่างน่าเกลียด ผู้ตัดสิน คูนีย์ท คาเกียร์ จึงชักใบแดงให้อย่างไม่ลังเล อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี มาได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 39 เมื่อ ซิลบา เขี่ยฟรีคิกสั้นๆ ให้ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ แตะหาช่องซัดเต็มข้อส่งลูกพุ่งผ่านมือ ชอฟคอฟสกี เสียบมุมไกล ทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

เข้าสู่ครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้าเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่า แม้ว่าจะเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน แต่ก็ยังทะลวงประตูเพิ่มไม่ได้ กระทั่งนาทีที่ 71 โรแบร์โต มันชินี กุนซือชาวอิตาลีแก้เกมด้วยการส่ง อดัม จอห์นสัน ปีกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษที่เพิ่งหายเจ็บลงไปแทน แกเร็ธ แบร์รี ต่อด้วย เอดิน เชโก ดาวยิงทีมชาติบอสเนียลงไปแทน ซิลบา แต่ก็เกือบโดน เคียฟ ตอกกลับด้วยลูกยิงไกลของ เอเรเมนโก ในนาทีที่ 87 แต่ โจ ฮาร์ท ยังกระโดดปัดข้ามคานออกไปได้

ถัดมานาทีเดียว เจ้าถิ่นทั้งไพ่ใบสุดท้ายด้วยการส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาแทน โคลารอฟ ผู้ทำประตู แต่ก็พังสกอร์เพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนฯ ซิตี ชนะแค่ 1-0 ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ ทำให้ ดินาโม เคียฟ ได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 2-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี - โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส, แว็งซ็องต์ กอมปานี, โจลีออน เลสคอตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ดาบิด ซิลบา, ยายา ตูเร, ไนเจล เดอ ยอง, แกเร็ธ แบร์รี, คาร์ลอส เตเวซ, มาริโอ บาโลเตลลี

ดินาโม เคียฟ - โอเล็กซานเดอร์ ชอฟคอฟสกี, ดานิโล ซิลวา, เลอันโดร อัลเมดา, โกรัน โปปอฟ, โอเล็ก กูเซฟ, อายิลา ยุสซุฟ, โรมัน เอเรเมนโก, ออกเนียน วูโคเยวิช, มิลอส นินโควิช, อังเดร ยาร์โมเลนโก, อังเดร เชฟเชนโก

ผลฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
แมนเชสเตอร์ ซิตี (อังกฤษ) ชนะ ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) 1-0 (รวม 2 นัด ดินาโม เคียฟ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 2-1)

สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) ชนะ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) 3-0 (รวม 2 นัด สปาร์ตัก มอสโก เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 4-0)

เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) ชนะ เอฟซี ทเวนเต (ฮอลแลนด์) 2-0 (รวม 2 นัด เอฟซี ทเวนเต เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 3-2)

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) เสมอ เบนฟิกา (โปรตุเกส) 1-1 (รวม 2 นัด เบนฟิกา เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 3-2)

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) เสมอ บรากา (โปรตุเกส) 0-0 (รวม 2 นัด บรากา เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายสกอร์ 1-0)

ปอร์โต (โปรตุเกส) ชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) 2-1 (รวม 2 นัด ปอร์โต เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 3-1)

กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) แพ้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (ฮอลแลนด์) 0-1 (รวม 2 นัด พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 1-0)

บียาร์รีล (สเปน) ชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี) 2-1 (รวม 2 นัด บียาร์รีล เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 5-3)
บาโลเตลลี (ซ้าย) ตบะแตกจนโดนไล่ออก
ชอฟคอฟสกี (เสื้อเหลือง) นายทวารเคียฟป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น
เตเวซ (ซ้าย) กระดิกไม่ออกในนัดนี้
ร่วมยืนไว้อาลัยให้ผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่นก่อนเกม
กำลังโหลดความคิดเห็น