เดิร์ก เคาท์ กองหน้าชาวดัตช์ โหม่งประตูชัยช่วงท้ายเกมช่วยให้ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ สปาร์ตา ปราก 1-0 พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลยูโรปา ลีก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผลฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1-0 สปาร์ตา ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) (รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 1-0)
หลังจากบุกเสมอ 0-0 มาในนัดแรก ลิเวอร์พูล กลับมาเปิดสนามแอนฟิลด์ รับมือ สปาร์ตา ปราก โดยนัดนี้เจ้าบ้านยังขาด สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมที่ไม่ฟิต แต่ โจ โคล ได้กลับมาเป็นตัวจริงนัดแรกภายใต้การคุมทีมของ เคนนี เดลกลิช ทางฝั่งทีมเยือนฝากหวังในการล่าตาข่ายที่ เลียวนาร์ด ควูเก และ วัคลาฟ คัดเลช
เริ่มครึ่งแรก สปาร์ตา ปราก ทำเกมดีกว่าจนมีโอกาสลุ้นประตูก่อนในนาที 3 หลังจาก โซติริออส คีร์เกียกอส กองหลังเจ้าถิ่นโหม่งบอลจากลูกทุมพลาดจนบอลมาเข้าทาง ลิบอร์ ซิออนโก ได้ยิงเสาแรก แต่ เปเป เรนา ออกมาบล็อกเร็วจน ซิออนโก ยิงไม่ถนัดหลุดกรอบออกไป
หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็ทำเกมดีขึ้นเป็นลำดับ กระทั่งนาที 17 ก็มีลุ้นบ้างจากลูกเตะมุม ราอูล เมเรเลส โยนบอลมาทางเสาไกล คีร์เกียกอส โดดสูงกว่ากองหลังทีมเยือนก่อนโหม่งเกือบเสียบโคนเสา แต่ถูก ยาโรมีร์ บลาเซ็ก เซฟได้ อีก 5 นาทีถัดมา มาร์ติน เคลลี กระชากบอลขึ้นมาทางกราบขวาสวย ก่อนเปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ เมเรเลส ได้ยิงโล่งๆด้วยขวา แต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานออกไป
เจ้าถิ่นกดดันอย่างต่อเนื่อง ในนาที 24 ลูคัส จ่ายบอลให้ โจ โคล หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่มิดฟิลด์ชาวอังกฤษล็อกมายิงด้วยซ้ายถูก บลาเซ็ก ปัดออกมาได้ หลังจากนั้นนาที 36 เดิร์ก เคาท์ ฉกบอลได้จากกองหลังทีมเยือน ก่อนไหลบอลมาให้ดาวิด เอ็นกอก วางเท้ายิงเน้นๆด้วยขวาติดเซฟ บลาเซ็ก บอลเกือบมาเข้าทาง โคล แต่ บลาเซ็ก ยังไวตามมาเคลียร์ทิ้งได้ แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล ยังเจาะไม่เข้าทำให้จบครึ่งแรก 0-0
เกมครึ่งหลังผ่านมา 3 นาที เอ็นกอก กระชากบอลจากระยะ 25 หลาเข้าเขตโทษ ดาวยิงชาวฝรั่งเศสกำลังจะง้างเท้ายิง แต่จังหวะสุดท้ายถูก มาร์ติน อาเบนา ตามมาสกัดหวุดหวิด หลังจากนั้นนาที 51 เมเรเลส วางบอลมาให้ เคาท์ ทางเขตมุมธงด้านซ้าย ก่อนที่กองหน้าชาวดัตช์เปิดบอลเข้ากลาง เอ็นกอก กลับยิงแป้กไปเอง
เกมมาถึงนาที 58 เป็นโอกาสของ ปราก เมื่อ คามิล วาเซ็ก ได้บอลทางขวา ก่อนเปิดมาเสาไกล อาเบนา โหม่งหลุดกรอบประตู หลังจากนั้นนาที 75 แดนนี วิลสัน จ่ายบอลให้ เอ็นกอก หลุดเข้าไปยิงมุมแคบ แต่ถูก บลาเซ็ก ออกมาบล็อกออกหลังไป
กระทั่ง 5 นาทีสุดท้าย ความพยายามของ ลิเวอร์พูล ก็ประสบผลสำเร็จจากลูกเตะมุม เคาท์ จัดการโหม่งเต็มศีรษะผ่านมือ บลาเซ็ก ตุงตาข่ายให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นก็ไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันได้อีกจนครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับ บรากา จากโปรตุเกส
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, โซติริออส คีร์เกียกอส, ดาเนียล แอกเกอร์, มาร์ติน เคลลี, แดนนี วิลสัน, โจ โคล, คริสเตียน โพลเซน, ราอูล เมเรเลส, ลูคัส, เดิร์ก เคาท์, ดาวิด เอ็นกอก
สปาร์ตา ปราก : ยาโรมีร์ บลาเซ็ก, โทมัส เรปกา, เอริช บราเบ็ก, มาร์ติน อาเบนา, ลิบอร์ ซิออนโก, คามิล วาเซ็ก, มาร์เร็ก มาเตยอฟสกี, มานูเอล ปามิช, อองเดรจ คุสเนียร์, เลียวนาร์ด ควูเก, วัคลาฟ คัดเลช
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) ชนะ สปาร์ตา ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) 1-0
รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 1-0
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (เนเธอร์แลนด์) ชนะ ลีลล์ (ฝรั่งเศส) 3-1
รวมผลสองนัด พีเอสวี ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3
สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) เสมอ บาเซิล (สวิตเซอร์แลนด์) 1-1
รวมผลสองนัด สปาร์ตัก ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3
สปอร์ตติง ลิสบอน (โปรตุเกส) เสมอ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 2-2
รวมผลสองนัดเสมอ 3-3 เรนเจอร์ ผ่านเข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน
เซนิต เซนต์-ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) ชนะ ยัง บอยส์ เบิร์น (สวิตเซอร์แลนด์) 3-1
รวมผลสองนัด เซนิต ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3
อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์) ชนะ อันเดอร์เลชท์ (เบลเยียม) 2-0
รวมผลสองนัด อาแจ็กซ์ ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-0
บรากา (โปรตุเกส) ชนะ เลช พอซนัน (โปแลนด์) 2-0
รวมผลสองนัด บรากา ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1
ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) ชนะ เบซิคตัส (ตุรกี) 4-0
รวมผลสองนัด เคียฟ ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 8-1
ทเวนเต (เนเธอร์แลนด์) เสมอ รูบิน คาซาน (รัสเซีย) 2-2
รวมผลสองนัด ทเวนเต ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-2
แมนฯ ซิตี (อังกฤษ) ชนะ อาริส ซาโลนิกา (กรีซ) 3-0
รวมผลสองนัด แมนฯ ซิตี ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-0
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) เสมอ บาเต บอริซอฟ (เบลารุส) 0-0
รวมผลสองนัดเสมอ 2-2 แซงต์ แชร์กแมง ผ่านเข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน
สตุตการ์ท (เยอรมัน) แพ้ เบนฟิกา (โปรตุเกส) 0-2
รวมผลสองนัด เบนฟิกา ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1
บียาร์รีล (สเปน) ชนะ นาโปลี (อิตาลี) 2-1
รวมผลสองนัด บียารีล ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1
ผลฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1-0 สปาร์ตา ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) (รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 1-0)
หลังจากบุกเสมอ 0-0 มาในนัดแรก ลิเวอร์พูล กลับมาเปิดสนามแอนฟิลด์ รับมือ สปาร์ตา ปราก โดยนัดนี้เจ้าบ้านยังขาด สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมที่ไม่ฟิต แต่ โจ โคล ได้กลับมาเป็นตัวจริงนัดแรกภายใต้การคุมทีมของ เคนนี เดลกลิช ทางฝั่งทีมเยือนฝากหวังในการล่าตาข่ายที่ เลียวนาร์ด ควูเก และ วัคลาฟ คัดเลช
เริ่มครึ่งแรก สปาร์ตา ปราก ทำเกมดีกว่าจนมีโอกาสลุ้นประตูก่อนในนาที 3 หลังจาก โซติริออส คีร์เกียกอส กองหลังเจ้าถิ่นโหม่งบอลจากลูกทุมพลาดจนบอลมาเข้าทาง ลิบอร์ ซิออนโก ได้ยิงเสาแรก แต่ เปเป เรนา ออกมาบล็อกเร็วจน ซิออนโก ยิงไม่ถนัดหลุดกรอบออกไป
หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็ทำเกมดีขึ้นเป็นลำดับ กระทั่งนาที 17 ก็มีลุ้นบ้างจากลูกเตะมุม ราอูล เมเรเลส โยนบอลมาทางเสาไกล คีร์เกียกอส โดดสูงกว่ากองหลังทีมเยือนก่อนโหม่งเกือบเสียบโคนเสา แต่ถูก ยาโรมีร์ บลาเซ็ก เซฟได้ อีก 5 นาทีถัดมา มาร์ติน เคลลี กระชากบอลขึ้นมาทางกราบขวาสวย ก่อนเปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ เมเรเลส ได้ยิงโล่งๆด้วยขวา แต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานออกไป
เจ้าถิ่นกดดันอย่างต่อเนื่อง ในนาที 24 ลูคัส จ่ายบอลให้ โจ โคล หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่มิดฟิลด์ชาวอังกฤษล็อกมายิงด้วยซ้ายถูก บลาเซ็ก ปัดออกมาได้ หลังจากนั้นนาที 36 เดิร์ก เคาท์ ฉกบอลได้จากกองหลังทีมเยือน ก่อนไหลบอลมาให้ดาวิด เอ็นกอก วางเท้ายิงเน้นๆด้วยขวาติดเซฟ บลาเซ็ก บอลเกือบมาเข้าทาง โคล แต่ บลาเซ็ก ยังไวตามมาเคลียร์ทิ้งได้ แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล ยังเจาะไม่เข้าทำให้จบครึ่งแรก 0-0
เกมครึ่งหลังผ่านมา 3 นาที เอ็นกอก กระชากบอลจากระยะ 25 หลาเข้าเขตโทษ ดาวยิงชาวฝรั่งเศสกำลังจะง้างเท้ายิง แต่จังหวะสุดท้ายถูก มาร์ติน อาเบนา ตามมาสกัดหวุดหวิด หลังจากนั้นนาที 51 เมเรเลส วางบอลมาให้ เคาท์ ทางเขตมุมธงด้านซ้าย ก่อนที่กองหน้าชาวดัตช์เปิดบอลเข้ากลาง เอ็นกอก กลับยิงแป้กไปเอง
เกมมาถึงนาที 58 เป็นโอกาสของ ปราก เมื่อ คามิล วาเซ็ก ได้บอลทางขวา ก่อนเปิดมาเสาไกล อาเบนา โหม่งหลุดกรอบประตู หลังจากนั้นนาที 75 แดนนี วิลสัน จ่ายบอลให้ เอ็นกอก หลุดเข้าไปยิงมุมแคบ แต่ถูก บลาเซ็ก ออกมาบล็อกออกหลังไป
กระทั่ง 5 นาทีสุดท้าย ความพยายามของ ลิเวอร์พูล ก็ประสบผลสำเร็จจากลูกเตะมุม เคาท์ จัดการโหม่งเต็มศีรษะผ่านมือ บลาเซ็ก ตุงตาข่ายให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นก็ไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันได้อีกจนครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับ บรากา จากโปรตุเกส
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, โซติริออส คีร์เกียกอส, ดาเนียล แอกเกอร์, มาร์ติน เคลลี, แดนนี วิลสัน, โจ โคล, คริสเตียน โพลเซน, ราอูล เมเรเลส, ลูคัส, เดิร์ก เคาท์, ดาวิด เอ็นกอก
สปาร์ตา ปราก : ยาโรมีร์ บลาเซ็ก, โทมัส เรปกา, เอริช บราเบ็ก, มาร์ติน อาเบนา, ลิบอร์ ซิออนโก, คามิล วาเซ็ก, มาร์เร็ก มาเตยอฟสกี, มานูเอล ปามิช, อองเดรจ คุสเนียร์, เลียวนาร์ด ควูเก, วัคลาฟ คัดเลช
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) ชนะ สปาร์ตา ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) 1-0
รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 1-0
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (เนเธอร์แลนด์) ชนะ ลีลล์ (ฝรั่งเศส) 3-1
รวมผลสองนัด พีเอสวี ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3
สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) เสมอ บาเซิล (สวิตเซอร์แลนด์) 1-1
รวมผลสองนัด สปาร์ตัก ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3
สปอร์ตติง ลิสบอน (โปรตุเกส) เสมอ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 2-2
รวมผลสองนัดเสมอ 3-3 เรนเจอร์ ผ่านเข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน
เซนิต เซนต์-ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) ชนะ ยัง บอยส์ เบิร์น (สวิตเซอร์แลนด์) 3-1
รวมผลสองนัด เซนิต ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3
อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์) ชนะ อันเดอร์เลชท์ (เบลเยียม) 2-0
รวมผลสองนัด อาแจ็กซ์ ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-0
บรากา (โปรตุเกส) ชนะ เลช พอซนัน (โปแลนด์) 2-0
รวมผลสองนัด บรากา ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1
ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) ชนะ เบซิคตัส (ตุรกี) 4-0
รวมผลสองนัด เคียฟ ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 8-1
ทเวนเต (เนเธอร์แลนด์) เสมอ รูบิน คาซาน (รัสเซีย) 2-2
รวมผลสองนัด ทเวนเต ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-2
แมนฯ ซิตี (อังกฤษ) ชนะ อาริส ซาโลนิกา (กรีซ) 3-0
รวมผลสองนัด แมนฯ ซิตี ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-0
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) เสมอ บาเต บอริซอฟ (เบลารุส) 0-0
รวมผลสองนัดเสมอ 2-2 แซงต์ แชร์กแมง ผ่านเข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน
สตุตการ์ท (เยอรมัน) แพ้ เบนฟิกา (โปรตุเกส) 0-2
รวมผลสองนัด เบนฟิกา ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-1
บียาร์รีล (สเปน) ชนะ นาโปลี (อิตาลี) 2-1
รวมผลสองนัด บียารีล ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 2-1