คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
หลังความพ่ายแพ้ต่อ พีท แซมพราส ชนิดที่สร้างบทเรียนให้อังเดร ต้องจำไปจนถึงวันสุดท้ายบนเส้นทางนักเทนนิสอาชีพ หากแต่จุดเริ่มต้นอันแท้จริงระหว่าง โค้ชแบรด กิลเบิร์ต และ อังเดร อากัสซี่ เพิ่งจะได้เริ่มต้นและเป็นการเริ่มต้นด้วยสถิติที่อังเดร ระบุไว้ในหนังสือ “ดิ โอเพ่น” ของตนเองว่า “ทั้งผมและแบรดต้องเผชิญหน้ากับผลงานพ่ายแพ้ติดต่อกันชนิดยับเยิน”
ตามแนวทางของแบรด กิลเบิร์ต นั้นเหมือนเป็นการเปลี่ยนโลกทัศน์ใหม่ให้กับอากัสซี่ เปลี่ยนความถนัดจากด้านขวา ให้มาเป็นด้านซ้าย อังเดร นั้นบรรยายไว้ว่า “การได้ แบรด มาเป็นโค้ช เหมือนได้กลับเข้าโรงเรียนอีกครั้ง เป็นการฝึกฝนเพื่อเค้นเอาส่วนที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของตนเองออกมา มันเป็นแนวทางที่ผมเรียกว่า “Braditude” (ทัศนคติแบบ แบรด)
แต่ถึงแม้ว่า อากัสซี่ จะซึมซับเอาทัศนคติและวิธีคิดแบบ แบรด มาใช้ หากผลงานของเขายังไม่กระเตื้อง แม้ว่าในสนาม รูปแบบเกมของ อากัสซี่ จะ สุขุมและหนักแน่นขึ้นก็ตาม ความพ่ายแพ้ติดต่อกัน นัดแล้วนัดเล่าทำให้นักเทนนิสหนุ่มจากลาสเวกัส เริ่มไม่แน่ใจ หากแต่แบรด ยังคงเชื่อมั่นและบอกเขาด้วยข้อความสามประโยคสั้นๆ ว่า “คุณมันดีเดือด, คุณกำลังเรียนรู้, คุณแข็งแกร่ง และวันหนึ่งคุณจะเห็นความสำเร็จจากสิ่งเหล่านี้”
ในการแข่งขันเฟรนช์ โอเพ่นปี 1994 คำทำนายสี่ประโยคของ กิลเบิร์ต ยังไม่เป็นความจริง อากัสซี่ พ่ายให้กับ โธมัส มุสเตอร์ และมาพ่ายอีกครั้งให้กับ ทอดด์ มาร์ติน ในแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ผลงานทั้งสองแกรนด์สแลม ในสายตาของ อังเดร นั้นมันเป็นสิ่งที่เกินทน ผิดกันกับกิลเบิร์ต ที่มองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ และยังให้ความเชื่อมั่นอากัสซี่ว่าจะได้สัมผัสแชมป์รายการใหญ่ในเร็ววันนี้
แกรนด์สแลมปิดท้ายฤดูกาล ยูเอส โอเพ่น 1994 คือบทพิสูจน์คำพูดของยอดโค้ชอย่าง กิลเบิร์ต เมื่ออากัสซี่ ต้องลงสนามโดยไม่ได้เป็นมือวาง สถานะดังกล่าวเป็นสิ่งที่ แบรด บอกกับ อังเดร ว่าเป็นเรื่องที่ดีและถ้าสามารถเอาชนะคู่แข่งที่เป็นมือวางได้ในรอบแรกๆ จะทำให้แชมป์รายการนี้ตกเป็นของลูกศิษย์หนุ่มทันที
หลังความพ่ายแพ้ต่อ พีท แซมพราส ชนิดที่สร้างบทเรียนให้อังเดร ต้องจำไปจนถึงวันสุดท้ายบนเส้นทางนักเทนนิสอาชีพ หากแต่จุดเริ่มต้นอันแท้จริงระหว่าง โค้ชแบรด กิลเบิร์ต และ อังเดร อากัสซี่ เพิ่งจะได้เริ่มต้นและเป็นการเริ่มต้นด้วยสถิติที่อังเดร ระบุไว้ในหนังสือ “ดิ โอเพ่น” ของตนเองว่า “ทั้งผมและแบรดต้องเผชิญหน้ากับผลงานพ่ายแพ้ติดต่อกันชนิดยับเยิน”
ตามแนวทางของแบรด กิลเบิร์ต นั้นเหมือนเป็นการเปลี่ยนโลกทัศน์ใหม่ให้กับอากัสซี่ เปลี่ยนความถนัดจากด้านขวา ให้มาเป็นด้านซ้าย อังเดร นั้นบรรยายไว้ว่า “การได้ แบรด มาเป็นโค้ช เหมือนได้กลับเข้าโรงเรียนอีกครั้ง เป็นการฝึกฝนเพื่อเค้นเอาส่วนที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของตนเองออกมา มันเป็นแนวทางที่ผมเรียกว่า “Braditude” (ทัศนคติแบบ แบรด)
แต่ถึงแม้ว่า อากัสซี่ จะซึมซับเอาทัศนคติและวิธีคิดแบบ แบรด มาใช้ หากผลงานของเขายังไม่กระเตื้อง แม้ว่าในสนาม รูปแบบเกมของ อากัสซี่ จะ สุขุมและหนักแน่นขึ้นก็ตาม ความพ่ายแพ้ติดต่อกัน นัดแล้วนัดเล่าทำให้นักเทนนิสหนุ่มจากลาสเวกัส เริ่มไม่แน่ใจ หากแต่แบรด ยังคงเชื่อมั่นและบอกเขาด้วยข้อความสามประโยคสั้นๆ ว่า “คุณมันดีเดือด, คุณกำลังเรียนรู้, คุณแข็งแกร่ง และวันหนึ่งคุณจะเห็นความสำเร็จจากสิ่งเหล่านี้”
ในการแข่งขันเฟรนช์ โอเพ่นปี 1994 คำทำนายสี่ประโยคของ กิลเบิร์ต ยังไม่เป็นความจริง อากัสซี่ พ่ายให้กับ โธมัส มุสเตอร์ และมาพ่ายอีกครั้งให้กับ ทอดด์ มาร์ติน ในแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ผลงานทั้งสองแกรนด์สแลม ในสายตาของ อังเดร นั้นมันเป็นสิ่งที่เกินทน ผิดกันกับกิลเบิร์ต ที่มองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ และยังให้ความเชื่อมั่นอากัสซี่ว่าจะได้สัมผัสแชมป์รายการใหญ่ในเร็ววันนี้
แกรนด์สแลมปิดท้ายฤดูกาล ยูเอส โอเพ่น 1994 คือบทพิสูจน์คำพูดของยอดโค้ชอย่าง กิลเบิร์ต เมื่ออากัสซี่ ต้องลงสนามโดยไม่ได้เป็นมือวาง สถานะดังกล่าวเป็นสิ่งที่ แบรด บอกกับ อังเดร ว่าเป็นเรื่องที่ดีและถ้าสามารถเอาชนะคู่แข่งที่เป็นมือวางได้ในรอบแรกๆ จะทำให้แชมป์รายการนี้ตกเป็นของลูกศิษย์หนุ่มทันที