“วิชั่น ไทยแลนด์” รากแก้วลูกหนังอาชีพ

ASTVผู้จัดการรายวัน-การพัฒนาฟุตบอลให้เป็นอาชีพต้องเริ่มจากการวางรากฐานให้มั่นคงอย่างเป็นระบบ ซึ่ง สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ได้ริเริ่มโครงการ “วิชั่นเอเชีย” ขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานให้กับวงการฟุตบอลในภาคพื้นทวีปเอเชียในทุกๆ ด้านอย่างยั่งยืน จนก้าวขึ้นสู่มาตรฐานสากลในอนาคต โดยเริ่มจากการปลูกฝังวางรากฐานจากพื้นที่เล็กๆ ในประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาจากระดับท้องถิ่น โดยโครงการวิชั่นเอเชียจะเน้นในด้านการสร้างบุคลากรและหน่วยงานในด้านต่างๆ ที่เป็นแกนหลักของการจัดการบริหารวงการฟุตบอล

ซึ่ง ไทย เป็น 1 ใน 14 ชาติที่ได้รับเลือกให้อยู่ในโครงการวิชั่นเอเชีย ภายใต้ชื่อ “วิชั่นไทยแลนด์” (Vision Thailand) โดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เลือกให้จังหวัดชลบุรีเป็นฐานเริ่มต้นของโครงการ เนื่องจากมีโครงสร้างด้านฟุตบอลที่เข้มแข็งทั้งในระดับสโมสรอาชีพอย่าง ชลบุรี เอฟซี ที่เป็นสโมสรต้นแบบของไทยที่สามารถปลุกกระแสท้องถิ่นนิยมได้ บวกกับการมีทีมเยาวชนอย่าง โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ซึ่งมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน รวมถึงกระแสตอบรับฟุตบอลกับความเป็นท้องถิ่นนิยมในจังหวัดชลบุรี และความพร้อมของบุคลากร ทำให้โครงการวิชั่นไทยแลนด์ ถือกำเนิดขึ้นที่จังหวัดชลบุรีเป็นโครงการแรกของประเทศในชื่อ วิชั่นไทยแลนด์ โปรเจคชลบุรี

โดย เอเอฟซี ได้มีข้อบังคับให้ โครงการวิชั่นไทยแลนด์ ก่อตั้งสมาคมฟุตบอลของจังหวัดขึ้น เพื่อเป็นองค์กรที่จะประสานงานตามระเบียบข้อบังคับ และดำเนินงานตามแผนงานของวิชั่นเอเชีย โดยให้เป็นองค์กรที่สามารถบริหารงานเพื่อพัฒนาฟุตบอลในจังหวัดตามบันได 7 ขั้นที่วางไว้ภายใต้การดูแลของ เอเอฟซี

ขั้นแรก จะต้องมีการสร้างและพัฒนาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของวงการฟุตบอลทั้งในระดับอาชีพและท้องถิ่น โดยสมาคมฟุตบอลจังหวัดจะจัดอบรมผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน ผู้ควบคุมการแข่งขัน และผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดการกีฬาฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเน้นทั้งทฤษฎี การปฏิบัติจริง และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์

ขั้นที่ 2 พัฒนาเยาวชนและฟุตบอลระดับรากหญ้า เน้นให้เล่นด้วยความรัก ความสนุกมากกว่าคำนึงถึงกฎกติกาหรือผลการแข่งขัน รวมถึงเปิดอบรมผู้ฝึกสอนในระดับรากหญ้า เพื่อหาผู้มีคุณสมบัติไปประจำตามโรงเรียนต่างๆ

ขั้นที่ 3 จัดการแข่งขันฟุตบอลระดับโรงเรียนโดยเริ่มจากระดับห้องเรียน เพื่อให้เด็กเรียนรู้ เคารพกฎกติกาสากลและการเล่นเป็นทีม แต่ยังคงการเล่นอย่างสนุกสนานและมีน้ำใจนักกีฬา สร้างมิตรภาพอันดีระหว่างผู้เล่น

ขั้นที่ 4 จัดการแข่งขันฟุตบอลลีกระดับกึ่งอาชีพภายในจังหวัด ซึ่งต้องเปลี่ยนสถานะจากทีมฟุตบอลท้องถิ่นมาเป็นสโมสรฟุตบอล โดยมีใบอนุญาตสโมสรกำหนดความรับผิดชอบในการบริหารอย่างเต็มรูปแบบ เริ่มจากผู้ทำทีม ผู้จัดการสนาม ผู้จัดการแข่งขัน การหาผู้สนับสนุนด้านการเงิน การตลาด ซึ่งถือเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นอีกด้วย

ขั้นที่ 5 หลังผ่านทั้ง 4 ขั้นตอนจนมีประสบการณ์มากมายแล้วก็พร้อมที่จะใช้ความรู้ความสามารถก้าวสู่การทำงานในฟุตบอลระดับอาชีพ ซึ่งบุคลากรเหล่านี้ถือเป็นขุมทรัพย์สำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืนในวงการฟุตบอลไทย

ขั้นที่ 6 จากนักฟุตบอลในระดับรากหญ้าที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งในและนอกสนามจนไต่ระดับขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ จากนั้นจึงพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนมีโอกาสได้ไปเล่นให้กับสโมสรในต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนทางที่จะได้แสดงความสามารถในระดับเอเชีย/นานาชาติ และยังเป็นการสร้างมูลค่าให้กับตัวนักฟุตบอลเอง

ขั้นที่ 7 เมื่อไต่ขึ้นมาจากระดับรากหญ้าจนประสบความสำเร็จในระดับสโมสรแล้วก็จะได้รับเลือกให้ติดทีมชาติ ซึ่งถือเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจในชีวิตของนักฟุตบอลอาชีพ

ในปัจจุบันโครงการวิชั่นไทยแลนด์ โปรเจคชลบุรี เดินทางมาถึงขั้นตอนที่ 5 ซึ่งได้รับคำชมจาก โมฮาเหม็ด บิน ฮัมมัม ประธานเอเอฟซีว่าเติบโตเร็วมากที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาชาติที่เข้าร่วมโครงการ โดยกิจกรรมที่เห็นชัดที่สุดในเวลานี้คือการแข่งขันฟุตบอลวิชั่น ชลบุรี ลีก รวมถึงอบรมโค้ชให้จนถึงระดับเอ ไลเซนส์ ซึ่งเปิดอบรมมาแล้ว 5 ครั้งตั้งแต่ปี 2008 โดยที่ “จั๊บ” สุรชัย จิระศิริโชติ อดีตกองหลังทีมชาติไทยคือ 1 ในผู้ผ่านการอบรมจนนำไปใช้ในการเป็นกุนซือของ เอฟซี ภูเก็ต สู้ศึกดิวิชัน 1 ฤดูกาลนี้ ส่วน พิภพ อ่อนโม้ และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น สองตัวเก๋าของ ชลบุรี เอฟซี ก็กำลังอบรมโค้ช เพื่อให้ได้เอ ไลเซนส์ ไว้ใช้ประกอบอาชีพในอนาคตเช่นกัน

นอกจาก ชลบุรี แล้วยังมี ขอนแก่น และ ภูเก็ต ที่ได้รับเลือกจากเอเอฟซีให้เข้าร่วมโครงการวิชั่นไทยแลนด์ด้วย ส่วน บุรีรัมย์ ที่มีกระแสนิยมฟุตบอลเติบโตชนิดก้าวกระโดดเตรียมเสนอแผนงานเพื่อให้เป็นจังหวัดที่ 4 ที่เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งการนำโมเดลข้างต้นมาปรับใช้กับบ้านเราอย่างจริงจังน่าจะเป็นหนทางในการพัฒนาฟุตบอลไทยสู่ความเป็นมืออาชีพได้อย่างยั่งยืน ดีกว่ามาคัดเลือกตัวติดทีมชาติแล้วขายฝันว่าจะไปฟุตบอลโลกอย่างที่เคยเป็นมา