"เฮงซัง" วิทยา เลาหกุล ผู้จัดการทีมป้ายแดงของ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ประกาศกร้าวปีนี้พาทีมล้มแชมป์เก่าไทยพรีเมียร์ลีกได้อย่างแน่นอนพร้อมชูสตาฟฟ์โค้ชระดับโลกหวังถ้วยเอเอฟซี คัพ ขณะที่ "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทีมทั่วไป "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด มั่นใจขุมกำลังที่ดีพอมุ่งเป้าใหญ่พาทีมลิ่วรอบแบ่งกลุ่มเอเอฟซี แชมป์เปียนลีก
หลังจากที่ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี แชมป์เอฟเอคัพ สามารถคว้าถ้วยพระราชทาน ก. ประจำปี 2553 ได้สำเร็จโดยการย้ำแผลเก่าของ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ด้วยการเฉือนชนะสกอร์ 2-1 ณ สนามศุภชลาศัย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา
โดย "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทีมทั่วไป "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดเผยถึงความพ่ายแพ้ว่า "เรายอมรับในจุดนี้ว่าทำไม่ได้ อีกทั้งชลบุรีฯ ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแต่อย่างที่บอกว่าเกมนี้เป็นเพียงแค่เกมหนึ่งที่ไม่ได้มี 3 แต้มให้เก็บ จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เราเห็นจุดด้อยของทีมก่อนเปิดฤดูกาลไทยพรีเมียร์ลีก จากสิ่งที่เห็นในวันนี้คาดว่าในอนาคตที่จะลงทำการแข่งขันกับเกมที่หนักหน่วงใน 4 ถ้วย มีความสดใสแน่นอน"
"นอกจากนี้เรามีเป้าหมายใหญ่คือต้องการผ่านรอบเพลย์ออฟ รายการเอเอฟซี แชมป์เปียนลีก เพื่อเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มดังนั้นในวันเสาร์ที่ 12 ก.พ.นี้เราจะเอาชัยชนะจากทีมศรีวิจายากลับมาให้ได้ ส่วนไทยพรีเมียร์ลีกจากรูปเกมวันนี้เราได้เปลี่ยนตัวผู้เล่นทำให้มีผลต่อเกม ต้องยอมรับว่าวันนี้โชคเราไม่ดี สำหรับนักเตะรายใหม่อย่าง เชซ เรห์มาน ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งได้แต่แนวหลังอาจจะยังไม่ดีเพราะว่าเขายืนผิดตำแหน่งเนื่องจากตำแหน่งจริงเป็นเซ็นเตอร์ฮาฟ ซึ่งเรามีแนวหลังที่เพียงพอแล้วทว่าแดนหน้าคงต้องใช้เวลาปรับตัวพร้อมมี จักรพันธ์ พรใส เข้ามาเสริมจึงสามารถเปลี่ยนเกมได้ ดังนั้นผมเชื่อว่าเรามีขุมกำลังที่ดีพอ"
ด้าน "เฮงซัง" วิทยา เลาหกุล ผู้จัดการทีม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี กล่าวถึงชัยชนะว่า "วันนี้เกมรับของเรายังทำได้ไม่ดีในสภาวะที่ต้องโดนกดดัน ความจริงเราวางแผนไว้คงจะยิงในนาทีที่ 80 กว่าขึ้นไปพราะว่าทางเมืองฯ กดดันเราตลอดเวลาซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่นักเตะจะต้องเรียนรู้อีกนิดนึงในฤดูกาลไทยพรีเมียร์ใหม่ แต่ผมเชื่อว่าด้วยทีมเวิร์คและคอนเซ็บผสมผสานกับสไตล์การเล่นปีนี้เราเป็นทีมหนึ่งที่จะสามารถล้มแชมป์อย่าง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ พีอีเอ และ บีอีซี เทโรศาสนได้ ทั้งนี้เรามีความหวังในถ้วยเอเอฟซี คัพ เนื่องจากในปีนี้เรามีสตาฟฟ์โค้ชที่เป็นโค้ชระดับโลกอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าส่วนนี้เราได้ใส่ขั้นตอนรายละเอียดเป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เราประสบความสำเร็จในถ้วยเอเอฟซีคัพได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ทีมเรายังอาจจะต้องเสริมบางตำแหน่งโดยเฉพาะตัวเซ็นเตอร์คู่กลางเพื่อช่วยให้ทีมสมบูรณ์แบบอย่างยิ่งขึ้น"