ASTVผู้จัดการรายวัน - แม้ว่าสโมสร "เสือสามย่าน" บีบีซียู หรือจุฬา ยูไนเต็ด จะมีโอกาสลงเล่นในลีกสูงสุดเพียงแค่ 2 ฤดูกาล ก็ต้องหวนคืนสู่ดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 2010 พร้อมกับทำได้เพียงอันดับ 10 เมื่อจบฤดูกาล ส่งผลให้ผู้บริหารทีมต้องมีการปรับทัพกันขนานใหญ่โดยการดึง "ซิโก" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กลับมากุมบังเหียนทีม แถมคว้าตัว อิศวะ สิงห์ทอง มิดฟิลด์จอมบู๊ เพื่อเป้าหมายก้าวสู่ไทยพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
โดย "ซิโก" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือผู้เคยปลุกปั้นทีมน้องใหม่อย่าง จุฬา ยูไนเต็ด ลุยไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2008 ก่อนก้าวสู่อันดับ 8 ของตาราง เปิดเผยถึงการตัดสินใจกลับมารับงานหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสรเก่าที่เคยสร้างชื่อให้ตัวเองอีกครั้ง ว่าเป็นเพราะได้รับอิสระ และการสนับสนุนจากผู้บริหารที่เข้าใจฟุตบอลเป็นอย่างดี
"การตัดสินใจกลับมาร่วมงานกับทีม บีบีซียู อีกครั้ง ก็เพราะได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารที่แสดงความต้องการตัวผมอย่างแท้จริงในการกลับมาทำหน้าที่เดิมอีกครั้ง เพราะประทับใจผลงานที่เคยผ่านมา อีกทั้งผมยังรู้จักและคุ้นเคยกับผู้เล่นในทีมเป็นอย่างดี จึงไม่จำเป็นต้องปรับตัวมาก เหมือนการไปรับงานกับสโมสรอื่นๆ ที่สำคัญผมไม่ได้มองว่าตัวเองจะไปทำงานกับทีมเล็ก หรือใหญ่ ขอเพียงแค่ผู้บริหารทีมให้ความไว้วางใจ และสนับสนุนทีมเป็นอย่างดี"
ทั้งนี้อดีตกุนซือ "ฉลามชล" กล่าวต่อไปอีกถึงการทุ่มงบประมาณจำนวน 30 ล้านบาทของบอร์ดบริหารในฤดูกาลนี้ว่า "เม็ดเงินจำนวน 30 ล้านบาทที่ได้รับจากบอร์ดฯ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการทำงานของผู้บริหาร ซึ่งเงินจำนวนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นตัวผู้เล่นฝีเท้าดีทั้งชาวไทย และต่างประเทศถึง 10 รายด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ อิศวะ สิงห์ทอง อดีตนักเตะกองกลางทีมชาติไทย ที่จะมาเป็นกำลังหลักของทีมในฤดูกาลนี้"
พร้อมกันนี้อดีตดาวยิงทีมชาติไทยยังกล่าวต่อไปถึงเป้าหมายของสโมสรว่า "ผมกับสโมสร บีบีซียู มีสัญญาทำงานร่วมกัน 1 ปี อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ แต่ผมและสโมสรมีความต้องการร่วมกันอยู่ที่การพาทีมเลื่อนชั้นให้ได้ หรือหากว่าผิดไปจากนี้แล้วอย่างน้อยๆ ทีมของเราควรจะติดอันดับ 6 เมื่อจบฤดูกาล แค่นี้ผมคิดว่าเป็นเป้าหมายระดับต่ำสุดที่ตัวเองจะยอมรับได้ เพราะคู่แข่งในดิวิชั่น 1 นั้นน่ากลัวทุกทีม เนื่องจากต่างก็อยากขึ้นไปเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกกันทั้งนั้น อีกทั้งระดับฝีเท้าก็ไม่ต่างกันมาก เพื่อไปให้ถึงจุดหมายเราจำเป็นต้องเริ่มต้นฤดูกาลด้วยฟอร์มที่ดีที่สุด และเป็นที่น่าพอใจว่าสภาพทีมก่อนออกสตาร์ทนั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ไม่มีผู้เล่นมีอาการบาดเจ็บเลย ถือเป็นเรื่องน่ายินดีมาก"
ซึ่ง "ซิโก" กล่าวถึงการได้ตัว "หนุ่มฮอต" อิศวะ มาร่วมทีมว่า "ต้องยอมรับว่าฝีเท้าของเขานั้น สามารถเล่นให้ทีมระดับสูงได้เลย ตอนคุยกันแรกๆ ว่าเขาสนใจจะมาร่วมทีม ผมยังคิดว่าเขาพูดเล่นอยู่เลย แต่เมื่อได้รับคำยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าต้องการมาช่วยผม ก็รู้สึกดีใจที่เขาเลือกทีมของเรา ซึ่งแม้ว่า อิศวะ จะมีอายุที่มากขึ้นตามวัย แต่ประสบการณ์ที่ไปเล่นในลีกเวียดนาม 8 ปี กับสโมสรชั้นนำอย่าง บินห์ดินห์ และ ด่องทับ ย่อมเป็นประโยชน์อย่างมากกับทีมของเรา อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นที่มีระเบียบวินัยสูง และยังเป็นผู้เล่นที่มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่ดีของนักเตะรุ่นน้องในทีมอีกด้วย"
ขณะที่ อิศวะ สิงห์ทอง ยอดกองกลางพันธุ์ดุวัย 31 ปี กล่าวถึงการตัดสินใจมาร่วมทีม บีบีซียู ในฤดูกาลนี้ว่า "มีหลายทีมในไทยพรีเมียร์ลีก และต่างประเทศติดต่อเข้ามา เมื่อทราบว่าผมหมดสัญญากับทีม ด่องทับ ในวีลีก แต่ที่ตัดสินใจเลือกมาอยู่กับ บีบีซียู ก็เพราะส่วนตัวมีความรู้สึกเคารพ และศรัทธาในตัวพี่ซิโกที่เป็นรุ่นพี่ในทีมชาติไทยมานานแล้ว เมื่อทราบว่าทางนี้ต้องการตัวผมจึงสามารถตัดสินใจได้ทันที"
นอกจากนี้ "หนุ่มฮอต" ยอมรับว่าสนใจอนาคตของสโมสร มากกว่าที่จะสนใจอนาคตของตัวเองกับทีมชาติไทย "เป้าหมายของผมก็เป็นเป้าหมายเดียวกับสโมสร และผู้เล่นทุกคนคือการนำสโมสรกลับสู่ไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้ในฤดูกาล 2012 ซึ่งหมายถึงโควตาแชมป์ดิวิชั่น 1 เท่านั้น ไม่ใช่เพียงแค่การทำอันดับไปเล่นเพลย์ออฟ ส่วนเรื่องโอกาสกลับไปติดทีมชาติไทยอีกครั้งนั้น ไม่ได้อยู่ในความคิดของผม ขอแค่เพียงทำหน้าที่กับสโมสรให้ดีที่สุดเท่านั้นเป็นพอ"