"บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธ์ จุุลเกษม ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยงบกองทุนส่งเสริมกีฬาอาชีพทั้ง 12 ชนิดกีฬาประจำปี 2554 ทั้งสิ้นกว่า 163 ล้านบาท โดยกระหน่ำให้สมาคมฟุตบอลฯ ไม่อั้นจำนวน 87 ล้านบาท รองลงมา คือ สมาคมกอล์ฟฯ จำนวน 40 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14.00 น. วันศุกร์ที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธ์ จุุลเกษม ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมกีฬาอาชีพครั้งที่ 1 ประจำปี 2554 ณ ห้องประชุมอาคาร 4 ที่พักนักกีฬา 300 เตียง
โดยที่ประชุมได้พิจารณาสนับสนุนตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบสนันสนุนเงินรางวัลการจัดการแข่งขันเทนนิสหญิงอาชีพเวิล์ดทัวร์รายการ "พีทีที พัทยา โอเพน 2011" จำนวน 2,500,000 บาท พร้อมสนับสนุนการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลอาชีพ ประจำปี 2554 รายการ "ไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 6" จำนวน 4,000,000 บาท และการจัดการแข่งขันตะกร้อลอดห่วงอาชีพ จำนวน 2,245,000 บาท อีกทั้งการจัดการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพเก็บสะสมคะแนน ดิวีชั่น 1 รายการที่ 7 จำนวน 865,000 บาท รวมทั้ง 4 รายการเป็นจำนวนทั้งสิ้น 9,610,000 บาท อย่างไรก็ตามงบประมาณจากปี 2553 ยังคงเหลือจำนวน 10 ล้านบาท หากสมาคมใดต้องการนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาก็สามารถยื่นเรื่องเพื่อให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองตามความเหมาะสม
สำหรับระเบียบวาระอื่นๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการยื่นเรื่องพิจารณางบประมาณของสมาคมราชยานยนต์ จำนวน 1,500,000 บาท เพื่อจัดการแข่งขันในการเปิดฤดูกาลปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทางคณะอนุกรรมการกลั่นกรองจะทำการพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
นอกจากนี้งบประมาณประจำปี 2554 ของฝ่ายกีฬาอาชีพ 9 กีฬาจาก 12 ชนิดกีฬา มีทั้งสิ้นจำนวน 163,438,700 บาท เนื่องจาก 3 สมาคมคือ มวยไทยนั้นมีกองทุนมวยอยู่แล้ว ส่วนสมาคมจักรยานยนต์และราชยานยนต์ไม่เคยของบ นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางได้อนุมัติงบสนับสนุนให้แก่สมาคมฟุตบอลฯ จำนวน 87,000,000 บาท ซึ่งมากที่สุดในจำนวน 12 ชนิดกีฬา รองลงมาคือสมาคมกอล์ฟฯ จำนวน 40,000,000 บาท
ขณะเดียวกัน "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่า กกท. กล่าวว่า "ในปี 2554 เรายังคงให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาอาชีพทั้ง 12 สมาคม การพัฒนากีฬาอาชีพถือเป็นเรืื่่องใหม่ทุกชนิดกีฬาก็มีวิวัฒนาการของเขา เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาในการพัฒนาไปทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านสนามการแข่งขัน มาตรการผู้ตัดสิน การประชาสัมพันธ์ สิทธิประโยชน์ และอื่นๆอีกมากมาย ที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นให้เกิดการจัดการแข่งขันต่างๆ เพื่อให้มีการพัฒนาโดยทาง กกท.ได้ประชุมร่วมกับสมาคมกีฬาเพื่อให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ จนกระทั่งแต่ละสมาคมสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตนเองจากนั้นภาครัฐบาลจะให้การสนับสนุนไม่เกิน 20 % เพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งในประเทศและสามารถต่อสู้กับนานาประเทศได้"