ศึกกอล์ฟแห่งศักดิ์ศรี "เดอะ รอยัล โทรฟี" ระหว่างเอเชียและยุโรปจะจัดการแข่งขันบนทวีปเอเชียต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากฝ่ายจัดการแข่งขันมองว่ากีฬากอล์ฟกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้ โดยมีอย่างน้อย 8 ประเทศแสดงความสนใจรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพแล้ว
การแข่งขันเดอะ รอยัล โทรฟี ครั้งที่ 5 ซึ่งจบลงด้วยการที่ ยุโรป พลิกสถานการณ์จากการตามหลัง 4 คะแนนกลับมาเอาชนะ เอเชีย 9 ต่อ 7 คะแนน จนป้องกันแชมป์ได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 4 บนสนามแบล็ก เมาน์เทน คันทรี คลับ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เป็นครั้งสุดท้ายที่จัดการแข่งขันในประเทศไทย
ล่าสุด ลินคอล์น เวอร์นันซิโอ ผู้อำนวยการด้านการจัดการของ "เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป" ฝ่ายจัดการแข่งขัน เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เกี่ยวกับการหาเจ้าภาพจัดการแข่งขันเดอะ รอยัล โทรฟี ในอีก 5 ครั้งถัดไปว่า "เราจะไม่ไปจัดการแข่งขันที่ทวีปยุโรปในอีก 5 ปีข้างหน้าเพราะเราเชื่อว่าเอเชียได้ประโยชน์มากกว่าจากการแข่งขันรายการนี้ กีฬากอล์ฟเติบโตอย่างรวดเร็วในทวีปเอเชียและเดอะ รอยัล โทรฟี มีบทบาทสำคัญกว่าหากจัดในเอเชียแทนที่จะเป็นยุโรปในอีก 5 ปีข้างหน้า"
เวอร์นันซิโอ กล่าวต่อว่ามีกลุ่มทุนมากกว่า 20 กลุ่มจากประเทศเอเชียอย่างน้อย 8 ประเทศแสดงความสนใจรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเดอะ รอยัล โทรฟี แม้ยังไม่ขอระบุชื่อกลุ่มทุนหรือประเทศ แต่ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะจัดการแข่งขันในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งกีฬากอล์ฟเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งจำนวนผู้เล่นและสนาม
"มีหลายกลุ่มจากประเทศจีนแสดงความสนใจและเราไม่ได้พูดถึงปริมาณแค่หยิบมือเดียว" เวอร์นันซิโอ กล่าวทิ้งท้าย โดย เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป จะรับข้อเสนอจากกลุ่มต่างๆ กระทั่งวันที่ 15 เมษายน ก่อนตัดสินให้ประเทศใดเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเดอะ รอยัล โทรฟี ในอีก 5 ครั้งถัดไปภายในวันที่ 30 เมษายนนี้
ทั้งนี้ ศึกกอล์ฟเดอะ รอยัล โทรฟี จัดการแข่งขันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2005 จากการริเริ่มของ เซวี บาเยสเตรอส ตำนานนักกอล์ฟชาวสเปน โดยใช้รูปแบบเหมือนกับการแข่งขันไรเดอร์ คัพ ระหว่างยุโรปและสหรัฐอเมริกา
