xs
xsm
sm
md
lg

อย่าประมาท “หงส์” แดงเดือดภาคเอฟเอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฟร์นานโด ตอร์เรส
เอฟเอ คัพ ฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลกได้ฤกษ์งามอย่างดีเปิดฉากโม่แข้งอย่างเป็นทางการสุดสัปดาห์นี้ เพราะว่าบรรดาสโมสร พรีเมียร์ชิป อังกฤษ จะตบเท้าลงแข่งตั้งแต่รอบ 3 นี้เป็นต้นไป มีคู่เอกตั้งแต่หัววัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำศึก "วันแดงเดือด" กับ ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคมนี้เวลา 20.30น.

หลายคนอาจจะบ่นว่า "วันแดงเดือด" สมัยนี้ลดดีกรีความร้อนแรงลงไปพอสมควร โดยเฉพาะปีนี้ ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 12 ห่างจาก แมนฯยูไนเต็ด 19 แต้ม ทว่านัดแรกที่ทั้งคู่เจอกันในศึก พรีเมียร์ชิป ก็เรียกได้ว่าทำเอาทุกคนลุ้นชนิดนั่งไม่ติดเก้าอี้เมื่อ "ผีแดง" นำห่าง 2-0 ก่อนจะถูก สตีเวน เจอร์ราร์ด เหมาซัดตีเสมอและเป็น ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ซัดแฮตทริกให้ "ผีแดง" เบียดชนะ 3-2 จนต้องติดดาวให้ขึ้นทำเนียบเป็นเกมสุดมันไปทันที

อีกทั้งถึงแม้ แมนฯยู จะยังสะกดคำว่า "แพ้" ไม่เป็นในลีกหลังผ่านพ้นไป 20 นัด แต่ก็บุกไปพ่ายต่อ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ตอนนั้นเป็นบ๊วยของตาราง 0-4 ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย คาร์ลิง คัพ มาแล้ว ดังนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้และห้ามประมาทศึกแห่งศักดิ์ศรีอย่าง "วันแดงเดือด" เป็นอันขาด เพราะว่า ลิเวอร์พูล มักจะมีแรงกระตุ้นกับเกมใหญ่แบบนี้เสมอ

หนสุดท้ายที่ทั้งคู่เจอกันในศึก เอฟเอ คัพ ต้องย้อนไปในปี 2006 เป็นเกมรอบ 5 ลิเวอร์พูล เอาชนะ 1-0 จากประตูของ ปีเตอร์ เคราช์ แต่ที่สาวก "เดอะ ค็อป" ยังจำติดตาและตามหลอกหลอนมาจนทุกวันนี้คือเมื่อปี 1996 นัดชิงชนะเลิศ แมนฯยู คว้าแชมป์ด้วยสกอร์ 1-0 จากลูกถอยหลังฮาล์ฟวอลเลย์ของ เอริค คันโตนา ที่เข้าไปอย่างเว่อร์

แชมป์ เอฟเอ คัพ สูงสุด 11 สมัย แมนฯยู เพิ่งเอาชนะ สโต๊ก ซิตี 2-1 สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเกมรับเสียประตู 3 นัดติดต่อกัน เพราะว่าสังขารของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เริ่มร่วงโรยมีเพียง เนมานยา วิดิช ที่พอจะฝากผีฝากไข้เอาไว้ได้ เกมนี้ต้องลุ้นว่า ริโอ จะลงสนามได้หรือไม่หลังบาดเจ็บจนวืดลงเล่นเกมดังกล่าวเช่นเดียวกับ เวย์น รูนีย์ ส่วนกองหน้าถือว่ามีตัวเลือกหลากหลายทั้ง เบอร์บาตอฟ, ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ ที่ซัดไปแล้ว 9 ประตูรวมถึง ไมเคิล โอเวน ที่หายเจ็บมีลุ้นลงพบทีมเก่าพอดี

ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทัพของ รอย ฮ็อดจ์สัน ที่เวลานี้อำลาทีมไปแล้ว ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ จนเป้าหมายคว้าอันดับ 4 เพื่อกลับไปลุยศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ริบหรี่ แถมปีนี้เล่นนอกบ้านห่วยแตกในลีกชนะแค่นัดเดียวเท่านั้น แม้ว่าชื่อชั้นนักเตะอย่าง เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส, เคิร์ก เคาท์ และ โจ โคล ถือว่าไม่น้อยหน้าทีมอันดับหัวตารางด้วยกันเลย

เกมนี้ ลิเวอร์พูล อดีตแชมป์ 7 สมัย ไม่มี เจมี คาร์ราเกอร์ คุมแนวรับ เนื่องจากไหล่หลุดต้องเข้ารับการผ่าตัดเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา รองกัปตันทีม "หงส์แดง" ออกมากระตุ้นเพื่อนๆ ไปก่อนหน้านี้แล้วว่าให้ช่วยกันคว่ำ แมนฯยูไนเต็ด เพราะต้องการลงเล่นที่ เวมบลีย์ ในปีนี้ นอกนั้นไม่มีปัญหาในการจัดทัพคงมาในระบบ 4-5-1 ดาวิด เอ็นก็อก คงจะหลุดไปเป็นสำรองหลังช่วงที่ผ่านมาได้จับคู่กับ ตอร์เรส ในแดนหน้าแต่ไม่สร้างความประทับใจเท่าที่ควร

ส่วนทีมใหญ่ที่เหลือ อาร์เซนอล จะพบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด, เชลซี พบ อิปสวิช ทาวน์, ท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ส พบ ชาร์ลตัน แอธเลติก และคู่ที่น่าสนใจ เลสเตอร์ ซิตี ภายใต้การบริหารงานของเจ้าของทีมชาวไทย คุมทัพมาโดย สเวน โกรัน อิริคส์สัน อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ จะเปิด วอล์คเกอร์ สเตเดียม พบกับทีมเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี
กำลังโหลดความคิดเห็น