ASTVผู้จัดการรายวัน - แม้ว่าศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2010 จะปิดฤดูกาลการแข่งขันลงไปแล้ว แต่ปัญหาที่ยังเป็นข้อถกเถียงของผู้คนในแวดวงลูกหนังไทย คือการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ซึ่งถูกยกเป็นส่วนหนึ่งของต้นตอการใช้ความรุนแรงในสนามกีฬา โดย มงคล รุ่งคล้าย ประธานจัดผู้ตัดสิน และตรวจสอบการทำหน้าที่ของ "สิงห์เชิ้ตดำ" ลีกไทย ยอมรับว่าต้องมีการปรับปรุงกันขนานใหญ่ เพื่อสางปัญหาดังกล่าวไม่เช่นนั้นอาจลุกลามถึงขั้นวิกฤติ
หลังเกิดเหตการณ์แฟนบอลทีมนครปฐม เอฟซี จัดการปิดล้อมตะลุมบอนผู้ตัดสิน อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ และแฟนบอลศรีสะเกษ เอฟซี ในเกมเพลย์ออฟ เพื่อเลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา โดย มงคล รุ่งคล้าย ประธานจัดผู้ตัดสินและผู้ตรวจสอบการทำหน้าของผู้ตัดสินของสมาคมผู้ตัดสินแห่งประเทศไทย ชี้แจงถึงความรุ่นแรงที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความไม่เข้าใจกติกาและการทำหน้าที่ของ "สิงห์เชิ้ตดำ" อย่างถ่องแท้ "ผู้ชมบางท่านที่มาชมทีมฟุตบอลที่ตนเองชื่นชอบแน่นอนว่าส่วนใหญ่เขาต้องเข้าข้างทีมรัก และอาจจะสวนทางกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินเนื่องจากผู้ชม หรือ แฟนคลับบางท่านอาจจะไม่รู้เรื่องระเบียบ กฏ กติกา กีฬาฟุตบอลที่ถูกต้อง ทั้งนี้หากกองเชียร์ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้เข้าใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินให้มีความกระจ่างมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ตัดสินถูกตำหนิน้อยลง รวมทั้งช่วยลดเหตุการณ์รุนแรงได้ หากทุกสโมสรสามารถให้ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวนี้ได้จะเป็นการช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลได้มากทีเดียว"
"ปัจจุบันการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินไทยถือว่าเข้าสู่การพัฒนาอีกระดับหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าก่อนการแข่งขันในแต่ละแมตช์ คณะกรรมการผู้ตัดสินจะชี้แจงเรื่องกฏ กติกาให้ทราบก่อนการแข่งขันแก่ทุกสโมสรไม่ว่าจะเป็นระดับไทยพรีเมียร์ลีก จนถึงระดับภูมิภาค ทางสมาคมผู้ตัดสินเชื่อว่าการให้ความรู้แนวปฏิบัติของผู้ตัดสินจะช่วยลดเหตุการณ์รุนแรงของกองเชียร์ เนื่องจากเมื่อผู้ชมเกิดความเข้าใจเรื่องกฏ กติกา ก็จะเข้าใจการทำหน้าที่ผู้ตัดสินมากขึ้น ความไม่พอใจก็จะลดลงไปเอง"
ซึ่งอดีตผู้ตัดสินสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า นาน 6 ปี เผยถึงความอึดอัดในการจัดผู้ตัดสินแต่ละแมตช์ว่า "หากจัดผู้ตัดสินในถิ่นนักการเมืองจะรู้สึกกดดันเป็นพิเศษ เนื่องจากบางครั้งที่จัดผู้ตัดสินไปผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นบางรายก็แสดงอาการคุกคามถึงขั้นขู่ว่าหากจัดคนนี้มาจะไม่รับรองความปลอดภัยให้ ซึ่งต้องยอมรับว่าการจัดผู้ตัดสินของสมาคมฯ ไม่ใช่จะจัดแบบชี้ผู้ตัดสินลงไปได้เลย แต่จะมีการพิจารณาหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นที่นิสัยใจคอ หรือ การทำหน้าที่ ฯลฯ นอกจากนี้หลังจากที่จัดรายชื่อลงตัวแล้วจะส่งต่อไปยัง อ.ชูชัย บัวบูชา ประธานสมาคมผู้ตัดสินฯ ร่วมกับ เลขาธิการของสมาคมฯ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมต่อไป"
นอกจากนี้ มงคล รุ่งคล้าย กล่าวต่อไปถึงการลงโทษ "สิงห์เชิ้ตดำ" ที่ทำหน้าที่ผิดพลาดด้วยว่า "หากผู้ตัดสินปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาดจริงทางสมาคมผู้ตัดสินจะมีการรวบรวมเทปบันทึกภาพจากผู้ควบคุมการแข่งขัน พร้อมนำกลับไปพิจารณาลงโทษผู้ตัดสินเสมอ เพียงแต่ข่าวลงโทษไม่ได้ออกตามหน้าสื่อเท่านั้น เนื่องจากผู้ตัดสินส่วนใหญ่เป็นครูบาอาจารย์ที่มีลูกศิษย์จำนวนมาก ดังนั้นหากมีข่าวลงโทษผู้ตัดสินจะทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่ออาจารย์ที่นับถือ ทางสมาคมฯ จึงจำเป็นที่จะต้องรักษาชื่อเสียงผู้ตัดสินไว้ อย่างเช่น ผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ตัดสินในฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ ระหว่างแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่มีการส่งผู้เล่นต่างชาติเกินโควต้า ทางสมาคมฯก็ได้ทำโทษผู้ตัดสินคนดังกล่าวโดยการแบน 3 เดือน"
ขณะเดียวกัน "บิ๊กเชิ้ตดำ" กล่าวต่อไปว่า "สำหรับแนวทางการรักษาความปลอดภัยของผู้ตัดสินที่ดีที่สุดในตอนนี้ได้ร่วมปรึกษากับบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด และสมาคมฟุตบอลฯ ว่าในฤดูกาล 2011 จะขอให้ผู้ตัดสินไปรถคันเดียวกับคณะทำงานของสมาคมฟุตบอลฯ รวมถึงอาจมีตำรวจหรือสารวัตรทหารคุ้มกันด้วย เพราะขณะนี้ผู้ตัดสินเดินทางไปลำพังจึงอาจเกิดอันตรายระหว่างทาง นอกจากนี้การรักษาความปลอดภัยในแต่ละแมตช์อยากให้ใช้ สารวัตรทหารมากกว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่จัดจ้างมา เพราะผู้ชมในสนามไม่เกรงกลัวเท่าตำรวจ หรือ สห."
"ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน เราได้เน้นนโยบายปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ยุติธรรมที่สุด โปร่งใสที่สุด ไม่เกรงกลัวต่อแรงกดดัน โดยจะนำมาเป็นบทเรียน ซึ่งเท่าที่สังเกต ผมมองว่าการทำหน้าที่ในเลกที่ 2 นั้นดีกว่าในเลกแรก ทั้งนี้ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง คือ การพนัน หากไม่มีการพนันการแพ้ หรือ ชนะ ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของกีฬา ผลการแข่งขันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน เพราะผู้ตัดสินทำหน้าที่ตามกฏกติกา" ประธานจัดผู้ตัดสินกล่าวทิ้งท้าย