แฟรงค์ แลมพาร์ด เหมาคนเดียว 4 ประตูช่วยให้ เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ถล่ม แอสตัน วิลลา แบบขาดลอย 7-1 ขึ้นมาเป็นจ่าฝูงชั่วคราว ขณะที่ อาร์เซนอล พลาดท่าถูก เบอร์มิงแฮม ตามตีเสมอ 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 7-1 แอสตัน วิลลา
เชลซี ต้องพยายามเอาชนะเพื่อกดดัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะลงสนามเป็นคู่หลัง แต่เกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ ตัดสินใจพัก ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงตัวสำคัญเป็นเพียงสำรอง นิโกลาส์ อเนลกา ยืนหน้าคนเดียวมี ฟลอรองต์ มาลูดา และ โจ โคล คอยสนับสนุน ทางฝั่ง แอสตัน วิลลา ก็ต้องลุ้นพื้นที่ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก โดยนัดนี้สภาพทีมของ มาร์ติน โอนีลล์ ค่อนข้างสมบูรณ์มี แอชลีย์ ยัง, เจมส์ มิลเนอร์ และ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ เป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุกเหมือนเดิม
เปิดฉากครึ่งแรก วิลลา ทำเกมบุกแบบไม่กลัวเจ้าถิ่น แต่หาจังหวะส่องประตูแบบชัดเจนไม่ได้ กลายเป็น เชลซี เมื่อตั้งเกมของตัวเองได้และบุกอยู่ไม่นานก็มาทำประตูออกนำได้สำเร็จในนาที 15 เมื่อ มาลูดา เปิดบอลจากริมเขตโทษด้านซ้าย บอลผ่านกองหลังทีมเยือนจนเลยไปถึง แลมพาร์ด ทางเสาสองจัดการสไลด์บอลเข้าประตูไป เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0
แต่กองหลังของ "สิงห์บลูส์" ก็ป้องกันไม่ดีจนทีมมาถูกตามตีเสมอในนาที 28 เมื่อ แอชลีย์ ยัง ทำเกมขึ้นมาทางซ้าย ก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามา บอลผ่านหน้า เซอร์คอฟ เลยมาถึง คาริว จัดการซัดไม่เหลือซากผ่านตัว เช็ก เข้าซุกก้นตาข่ายให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1
หลังถูกตีเสมอ ลูกทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ พยายามโหมบุกอย่างหนักกระทั่งก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว เซอร์คอฟ เติมเกมบุกขึ้นมาจนไปถูก คอลลินส์ สกัดล้มลงในเขตโทษ กรรมการเป่าให้เจ้าถิ่นได้จุดโทษทันที แลมพาร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ เชลซี ออกนำอีกครั้ง 2-1 ก่อนจบ 45 นาทีแรกไป
เกมครึ่งหลัง เชลซี ลงสนามมาบุกเข้าใส่ทันที โคล กระชากบอลขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนวางบอลให้ อเนลกา โหม่งเสาแรกหลุดออกหลังไปเอง กระทั่งนาที 56 เจ้าถิ่นขยับหนีห่าง 3-1 เริ่มจาก เดโก จ่ายบอลจากหน้าเขตโทษให้ เซอร์คอฟ หลุดขึ้นมาทางซ้าย ก่อนผ่านบอลให้ มาลูดา ชาร์จเข้าประตูไป
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง "สิงห์บลูส์" มาได้ลูกจุดโทษอีกครั้งจากจังหวะที่ เซอร์คอฟ เจ้าเก่าเติมเกมขึ้นไปในเขตโทษ แต่คราวนี้ถูก ดันน์ สกัดล้มลงและเป็น แลมพาร์ด จัดการสังหารไม่พลาดเหมือนเดิมเป็นแฮตทริกของมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ พร้อมกับช่วยให้เจ้าถิ่นหนีห่าง 4-1
เชลซี ยังเดินเครื่องต่อกระทั่งนาที 68 ก็มายิงประตูอีกลูกจนสกอร์ขยับเป็น 5-1 จากจังหวะที่ แลมพาร์ด ไหลบอลให้ มาลูดา หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษแสกหน้า ฟรีเดล เสียบคานเข้าไป ทางฝั่งทีมเยือนเกือบได้ประตูไล่ตีตื้นเช่นกันในนาที 73 เมื่อ นาธาน เดลฟูเนโซ ตัวสำรองปั่นบอลโค้งหน้าเขตโทษ แต่ไปแฉลบ อเล็กซ์ หลุดเสาเพียงนิดเดียว
แต่เจ้าถิ่นหนีทำสกอร์ห่างออกไปอีก 6-1 ในอีก 10 นาทีต่อมาจังหวะที่ อเนลกา ได้บอลในเขตโทษ ก่อนไหลมาให้ ซาโลมง กาลู ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมาจัดการซัดผ่าน ฟรีเดล เข้าเสาสองไป ก่อนที่ แลมพาร์ด จะมาซัดประตูที่ 4 ของตัวเองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจนจบ 90 นาที เชลซี คว้าชัยชนะแบบสวยหรู 7-1 พร้อมเก็บคะแนนเพิ่มเป็น 71 แต้ม ขึ้นมารั้งจ่าฝูงชั่วคราวกดดัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะสนามคู่ดึกพบกับ โบลตัน
สำหรับผลการแข่งขันของคู่อื่น อาร์เซนอล แม้อุตสาห์ได้ประตูขึ้นนำในนาที 81 จาก ซามีร์ นาสรี แต่มาถูกเจ้าถิ่น เบอร์มิงแฮม ตามตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก เควิน ฟิลลิปส์ จนทำได้เพียงเสมอ 1-1 ขณะที่ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส ได้ประตูจาก ปีเตอร์ เคราช์ และ นิโก ครานชาร์ เปิดบ้านเอาชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, อเล็กซ์, ยูริ เซอร์คอฟ, เปาโล แฟร์ไรรา, จอห์น โอบี มิเกล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เดโก, ฟลอรองต์ มาลูดา, นิโกลาส์ อเนลกา, โจ โคล
แอสตัน วิลลา : แบร็ด ฟรีเดล, ริชาร์ด ดันน์, เจมส์ คอลลินส์, สตีเฟน วอร์น็อก, ลุก ยัง, สตีฟ ซิดเวลล์, สติลิยัน เปตรอฟ, แอชลีย์ ยัง, เจมส์ มิลเนอร์, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, ยอห์น คาริว
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เบอร์มิงแฮม เสมอ อาร์เซนอล 1-1
[1-1 : ซามีร์ นาสรี น.81], [1-1 : เควิน ฟิลลิปส์ น.90]
เชลซี ชนะ แอสตัน วิลลา 7-1
[1-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด น.15], [1-1 : ยอห์น คาริว น.29], [2-1 : แฟรงค์ แลมพาร์ด ลูกจุดโทษ น.44], [3-1 : ฟลอรองต์ มาลูดา น.57], [4-1 : แฟรงค์ แลมพาร์ด ลูกจุดโทษ น.62], [5-1 : ฟลอรองต์ มาลูดา น.68], [6-1 : ซาโลมง กาลู น.83], [7-1 : แฟรงค์ แลมพาร์ด น.90]
ฮัลล์ ซิตี ชนะ ฟูแลม 2-0
[1-0 : จิมมี บูลลาร์ด ลูกจุดโทษ น.16], [2-0 : เคร็ก ฟาแกน น.48]
ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0
[1-0 : ปีเตอร์ เคราช์ น.27], [2-0 : นิโก ครานชาร์ น.41]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ สโต๊ก ซิตี 0-1
[0-1 : ริคาร์โด ฟูลเลอร์ น.69]
วูลฟ์แฮมป์ตัน เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0
โบลตัน แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-4
[0-1 : เจลอยด์ ซามูเอล ทำเข้าประตูตัวเอง น.38], [0-2 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.68], [0-3 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.78], [0-4 : ดาร์รอน กิ๊บสัน น.82]
