"สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดถ้ำขย้ำ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 แซงหน้า "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นไปนั่งจ่าฝูงศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 4-1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
คาร์โล อันเชล็อตติ จัดทัพใหญ่ "สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดรังรับมือ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แม้มีศึกยุโรปถ้วยใบใหญ่กับ อินเตอร์ มิลาน รออยู่ช่วงกลางสัปดาห์หน้า โดยนัดนี้ได้ มิชาเอล บัลลัค พ้นโทษแบนกลับมาเสริมแดนกลาง แนวรุกมี ฟลอรองต์ มาลูดา กับ แฟรงค์ แลมพาร์ด เคลื่อนเกมให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ นิโกลาส์ อเนลกา ลุ้นสกอร์ ด้าน จานฟรังโก โซลา ปรับหมากในทีมเยือนหลายตำแหน่ง คู่หน้าสลับมาใช้ อเราโญ อิลาน กับ อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี ค่อยๆ รุกคืบทำเกมบุกใส่ เวสต์แฮม แฟรงค์ แลมพาร์ด แปะอกคืนหลังให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ซัดจากนอกกรอบบอลแฉลบตัว แม็ทธิว อัพสัน ออกหลังไป นาทีที่ 13 ความผิดพลาดของ เปาโล แฟร์ไรรา ที่โดน โจนาธาน สเป็คเตอร์ พัวพันจนทำให้ อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด ฉกบอลมาได้สุดเส้นหลังฝั่งขวาจ่ายใส่พานเข้ากลางให้ อเราโญ อิลาน ได้ตะบันเต็มๆ แต่ข้ามคาน แต่สามนาทีถัดมา "สิงห์บลูส์" ตะปบนำ 1-0 สำเร็จ ฟลอรองต์ มาลูดา เปิดจากกราบซ้ายให้ อเล็กซ์ โถมเข้ามาโขกบอลจมตาข่ายอย่างเด็ดขาด
พอได้ประตูเบิกร่อง ขุนพลเจ้าถิ่นลุยใส่ต่อเนื่องทันทีกดดันจน อัพสัน เกือบทำเข้าประตูตัวเองดีที่ โรเบิร์ต กรีน ไปควักบอลจากเส้นประตูได้ทัน นาทีที่ 27 เชลซี ดันเกมขึ้นมาอีกครั้ง แลมพาร์ด ล็อกก่อนเปิดด้วยขวาไปเสาสองให้ ดร็อกบา โหนโหม่งออกหลังไป แต่ครึ่งชั่วโมงพอดีแฟนๆ ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเจ้าบ้านต้องเงียบกริบเมื่อสกอร์มาเสมอกัน 1-1 สกอตต์ พาร์เกอร์ สบโอกาสส่องไกลจากระยะ 25 หลาบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม หมดสิทธิที่ รอสส์ เทิร์นบูลล์ จะป้องกันได้ด้วยประการทั้งปวง
โดนกระตุกหนวดสิงห์ เชลซี ทำเกมขึ้นมาอีกครั้ง มิชาเอล บัลลัค แตะให้ แลมพาร์ด ได้กระหน่ำเต็มข้อร้อนถึง กรีน ต้องพุ่งไปปัดปลายมือออกหลัง เจ้าบ้านบี้กันต่อไป มาลูดา เปิดจากกราบซ้ายให้ แฟร์ไรรา ขึ้นโหม่งแต่ตรงตัว กรีน ท้ายครึ่งแรก "สิงห์บลูส์" พยายามโถมขึ้นไปแต่ เวสต์แฮม ลงไปตั้งรับแน่นหนาหน้าประตู ทำให้จบ 45 นาทีแรก เกมลอนดอน ดาร์บีแมตช์ ยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบเรื่องของสกอร์
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี ไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินหน้าลุยทันที จอห์น โอบี มิเกล ตักขึ้นหน้า อัพสัน โหม่งคืนหลังพลาด ดร็อกบา กำลังจะโฉบแต่ กรีน ยังไวออกมาคว้าบอลได้ทัน นาทีที่ 56 จอห์น เทอร์รี ตัดบอลได้บริเวณกลางสนามลากตะลุยขึ้นมาแตะให้ ดร็อกบา จ่ายออกข้าง มาลูดา เปิดมาที่จุดนับพบ ดร็อกบา โหม่งจ่อๆ ไม่เหลือ "สิงห์บลูส์" ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 เจ้าบ้านโถมเป็นชุด อเล็กซ์ เติมขึ้นมาขวิดจะเสียบเสา กรีน พุ่งไปคว้าออกมาได้ เทอร์รี เข้าซ้ำด้วยหัวเกือกจิ้มบอลเข้าแค่ข้างตาข่าย
ผ่านหนึ่งชั่วโมง คาร์โล อันเชล็อตติ มีการปรับหมากใส่ โจ โคล ไปช่วยเดินเกมรุกและก็ถอดเอา นิโกลาส์ อเนลกา ที่ไม่ค่อยมีบทบาทออกมา ด้านทีมเยือนส่ง คาร์ตัน โคล ลงมาเช่นกันดึงเอา มิโด ออกมา เช่นเดียวกับ จูเนียร์ สตานิสลาส ได้ลงมาลากเลื้อยแทน คีรอน ดายเออร์ แต่ยังเป็นเจ้าถิ่นที่เดินเครื่องและก็หนีเป็น 3-1 จนได้จากการยิงด้วยซ้ายของ มาลูดา ในนาทีที่ 77 ท้ายเกม แลมพาร์ด เกือบบวกเพิ่มให้เจ้าบ้านแต่ลูกปาดยิงบอลไปชนเสา อย่างไรก็ตาม นาทีสุดท้าย เชลซี ย้ำชัย 4-1 จากลูกซ้ำของ ดร็อกบา จึงเก็บเพิ่มเป็น 64 คะแนนจาก 29 นัด แซงหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นจ่าฝูงโดยที่ห่างกันแต้มเดียว ขณะที่ เวสต์แฮม ยังมีอยู่ 27 คะแนน อยู่อันดับ 16 ดังเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : รอสส์ เทิร์นบูลล์ , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , อเล็กซ์ , จอห์น เทอร์รี , เปาโล แฟร์ไรรา , จอห์น โอบี มิเกล , มิชาเอล บัลลัค , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , นิโกลาส์ อเนลกา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน , โจนาธาน สเป็คเตอร์ , ดาเนียล แก็บบิดอน , แม็ทธิว อัพสัน , ฟาบิโอ ดาเปรลา , วาลอน เบห์รามี , ราโดสลาฟ โควัช , สกอตต์ พาร์เกอร์ , คีรอน ดายเออร์ , อเราโญ อิลาน , อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.45) , 2-0 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.55) , 2-1 : คริสโตเฟอร์ แซมบา (น.80) , 3-1 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.85)]
เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-2 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 : , วิคเตอร์ อนิเชบี (น.19) , 0-2 : ยาคูบู อเย็กเบนี (น.22) , 1-2 : คาเมรอน เจอโรม (น.26) , 2-2 : เคร็ก การ์ดเนอร์ (น.51)]
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 4-0 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : โยฮัน เอลมานเดอร์ (น.10) , 2-0 : เควิน เดวีส์ (จุดโทษ น.48) , 3-0 : ฟาบริซ มูอัมบา (น.53) , 4-0 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.69)]
เบิร์นลีย์ 1-2 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
[0-1 : แม็ทธิว จาร์วิส (น.26) , 0-2 : คลาร์ก คาร์ไลส์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.47) , 1-2 : สตีเวน ธอมป์สัน (น.73)]
เชลซี 4-1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 : อเล็กซ์ (น.16) , 1-1 : สกอตต์ พาร์เกอร์ (น.30) , 2-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.56) , 3-1 : ฟลอรองต์ มาลูดา (น.77) , 4-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.90)]
สโต๊ก ซิตี 0-0 แอสตัน วิลลา
ฮัลล์ ซิตี 1-2 อาร์เซนอล
[0-1 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.14) , 1-1 : จิมมี บูลลาร์ด (จุดโทษ น.28) , 1-2 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ (น.90)]
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 4-1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
คาร์โล อันเชล็อตติ จัดทัพใหญ่ "สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดรังรับมือ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แม้มีศึกยุโรปถ้วยใบใหญ่กับ อินเตอร์ มิลาน รออยู่ช่วงกลางสัปดาห์หน้า โดยนัดนี้ได้ มิชาเอล บัลลัค พ้นโทษแบนกลับมาเสริมแดนกลาง แนวรุกมี ฟลอรองต์ มาลูดา กับ แฟรงค์ แลมพาร์ด เคลื่อนเกมให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ นิโกลาส์ อเนลกา ลุ้นสกอร์ ด้าน จานฟรังโก โซลา ปรับหมากในทีมเยือนหลายตำแหน่ง คู่หน้าสลับมาใช้ อเราโญ อิลาน กับ อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี ค่อยๆ รุกคืบทำเกมบุกใส่ เวสต์แฮม แฟรงค์ แลมพาร์ด แปะอกคืนหลังให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ซัดจากนอกกรอบบอลแฉลบตัว แม็ทธิว อัพสัน ออกหลังไป นาทีที่ 13 ความผิดพลาดของ เปาโล แฟร์ไรรา ที่โดน โจนาธาน สเป็คเตอร์ พัวพันจนทำให้ อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด ฉกบอลมาได้สุดเส้นหลังฝั่งขวาจ่ายใส่พานเข้ากลางให้ อเราโญ อิลาน ได้ตะบันเต็มๆ แต่ข้ามคาน แต่สามนาทีถัดมา "สิงห์บลูส์" ตะปบนำ 1-0 สำเร็จ ฟลอรองต์ มาลูดา เปิดจากกราบซ้ายให้ อเล็กซ์ โถมเข้ามาโขกบอลจมตาข่ายอย่างเด็ดขาด
พอได้ประตูเบิกร่อง ขุนพลเจ้าถิ่นลุยใส่ต่อเนื่องทันทีกดดันจน อัพสัน เกือบทำเข้าประตูตัวเองดีที่ โรเบิร์ต กรีน ไปควักบอลจากเส้นประตูได้ทัน นาทีที่ 27 เชลซี ดันเกมขึ้นมาอีกครั้ง แลมพาร์ด ล็อกก่อนเปิดด้วยขวาไปเสาสองให้ ดร็อกบา โหนโหม่งออกหลังไป แต่ครึ่งชั่วโมงพอดีแฟนๆ ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเจ้าบ้านต้องเงียบกริบเมื่อสกอร์มาเสมอกัน 1-1 สกอตต์ พาร์เกอร์ สบโอกาสส่องไกลจากระยะ 25 หลาบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม หมดสิทธิที่ รอสส์ เทิร์นบูลล์ จะป้องกันได้ด้วยประการทั้งปวง
โดนกระตุกหนวดสิงห์ เชลซี ทำเกมขึ้นมาอีกครั้ง มิชาเอล บัลลัค แตะให้ แลมพาร์ด ได้กระหน่ำเต็มข้อร้อนถึง กรีน ต้องพุ่งไปปัดปลายมือออกหลัง เจ้าบ้านบี้กันต่อไป มาลูดา เปิดจากกราบซ้ายให้ แฟร์ไรรา ขึ้นโหม่งแต่ตรงตัว กรีน ท้ายครึ่งแรก "สิงห์บลูส์" พยายามโถมขึ้นไปแต่ เวสต์แฮม ลงไปตั้งรับแน่นหนาหน้าประตู ทำให้จบ 45 นาทีแรก เกมลอนดอน ดาร์บีแมตช์ ยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบเรื่องของสกอร์
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี ไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินหน้าลุยทันที จอห์น โอบี มิเกล ตักขึ้นหน้า อัพสัน โหม่งคืนหลังพลาด ดร็อกบา กำลังจะโฉบแต่ กรีน ยังไวออกมาคว้าบอลได้ทัน นาทีที่ 56 จอห์น เทอร์รี ตัดบอลได้บริเวณกลางสนามลากตะลุยขึ้นมาแตะให้ ดร็อกบา จ่ายออกข้าง มาลูดา เปิดมาที่จุดนับพบ ดร็อกบา โหม่งจ่อๆ ไม่เหลือ "สิงห์บลูส์" ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 เจ้าบ้านโถมเป็นชุด อเล็กซ์ เติมขึ้นมาขวิดจะเสียบเสา กรีน พุ่งไปคว้าออกมาได้ เทอร์รี เข้าซ้ำด้วยหัวเกือกจิ้มบอลเข้าแค่ข้างตาข่าย
ผ่านหนึ่งชั่วโมง คาร์โล อันเชล็อตติ มีการปรับหมากใส่ โจ โคล ไปช่วยเดินเกมรุกและก็ถอดเอา นิโกลาส์ อเนลกา ที่ไม่ค่อยมีบทบาทออกมา ด้านทีมเยือนส่ง คาร์ตัน โคล ลงมาเช่นกันดึงเอา มิโด ออกมา เช่นเดียวกับ จูเนียร์ สตานิสลาส ได้ลงมาลากเลื้อยแทน คีรอน ดายเออร์ แต่ยังเป็นเจ้าถิ่นที่เดินเครื่องและก็หนีเป็น 3-1 จนได้จากการยิงด้วยซ้ายของ มาลูดา ในนาทีที่ 77 ท้ายเกม แลมพาร์ด เกือบบวกเพิ่มให้เจ้าบ้านแต่ลูกปาดยิงบอลไปชนเสา อย่างไรก็ตาม นาทีสุดท้าย เชลซี ย้ำชัย 4-1 จากลูกซ้ำของ ดร็อกบา จึงเก็บเพิ่มเป็น 64 คะแนนจาก 29 นัด แซงหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นจ่าฝูงโดยที่ห่างกันแต้มเดียว ขณะที่ เวสต์แฮม ยังมีอยู่ 27 คะแนน อยู่อันดับ 16 ดังเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : รอสส์ เทิร์นบูลล์ , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , อเล็กซ์ , จอห์น เทอร์รี , เปาโล แฟร์ไรรา , จอห์น โอบี มิเกล , มิชาเอล บัลลัค , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , นิโกลาส์ อเนลกา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน , โจนาธาน สเป็คเตอร์ , ดาเนียล แก็บบิดอน , แม็ทธิว อัพสัน , ฟาบิโอ ดาเปรลา , วาลอน เบห์รามี , ราโดสลาฟ โควัช , สกอตต์ พาร์เกอร์ , คีรอน ดายเออร์ , อเราโญ อิลาน , อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.45) , 2-0 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.55) , 2-1 : คริสโตเฟอร์ แซมบา (น.80) , 3-1 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.85)]
เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-2 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 : , วิคเตอร์ อนิเชบี (น.19) , 0-2 : ยาคูบู อเย็กเบนี (น.22) , 1-2 : คาเมรอน เจอโรม (น.26) , 2-2 : เคร็ก การ์ดเนอร์ (น.51)]
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 4-0 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : โยฮัน เอลมานเดอร์ (น.10) , 2-0 : เควิน เดวีส์ (จุดโทษ น.48) , 3-0 : ฟาบริซ มูอัมบา (น.53) , 4-0 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.69)]
เบิร์นลีย์ 1-2 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
[0-1 : แม็ทธิว จาร์วิส (น.26) , 0-2 : คลาร์ก คาร์ไลส์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.47) , 1-2 : สตีเวน ธอมป์สัน (น.73)]
เชลซี 4-1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 : อเล็กซ์ (น.16) , 1-1 : สกอตต์ พาร์เกอร์ (น.30) , 2-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.56) , 3-1 : ฟลอรองต์ มาลูดา (น.77) , 4-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.90)]
สโต๊ก ซิตี 0-0 แอสตัน วิลลา
ฮัลล์ ซิตี 1-2 อาร์เซนอล
[0-1 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.14) , 1-1 : จิมมี บูลลาร์ด (จุดโทษ น.28) , 1-2 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ (น.90)]
