"สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดถ้ำตะปบเอาชนะ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี 2-0 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2009/10 ได้สำเร็จ
ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เชลซี 2-0 สโต๊ก ซิตี
คาร์โล อันเชล็อตติ ปรับหมาก "สิงห์บลูส์" เชลซี ในเกมเอฟเอ คัพ นัดเปิดบ้านชน "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี โดยให้ เปาโล แฟร์ไรรา ประจำการแบ็กซ้าย ดันทาง ฟลอรองต์ มาลูดา ขึ้นไปช่วยแดนกลางแทน มิชาเอล บัลลัค ที่ติดโทษแบน แนวรุกเพิ่ม ซาโลมอน กาลู ลงไปประสานงานกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ นิโกลาส์ อเนลกา ขณะที่ โทนี พูลิส มีปัญหาในการจัดทัพเช่นกันเมื่อ ไรอัน ชอว์ครอสส์ ติดโทษแบนทำให้ต้องเขยิบเอา โรเบิร์ต ฮูธ เข้ามายืนเซ็นเตอร์คู่กับ อัลดูลาย ฟาย แดนหน้ามี ริคาร์โด ฟูลเลอร์ กับ มามาดี ซิดิบี จับคู่กันเหมือนเดิม
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี เป็นฝ่ายเดินเกมบุกใส่แต่นาทีที่ 6 สโต๊ก ได้ลุ้นก่อนจากลูกทุ่มไกลทีเด็ดของ รอรี ดีแลป บอลย้อย มามาดู ซิดิบี ได้โขกเช็ดหลุดกรอบเล่นเอา เฮนริเก ฮิลาริโอ เหวอไปเหมือนกัน เจ้าถิ่นลุยโต้ตอบมาบ้าง นิโกลาส์ อเนลกา ลากตัดจากขวาเข้ามายิงเรียด โธมัส โซเรนเซน เหยียดมือไปรับไว้ได้ ทีมเยือนอาศัยจังหวะทีเผลอ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาไกล ซิดิบี ปาดเข้ามาแปบอลแต่ อเล็กซ์ แหย่เท้าสกัดไว้หวุดหวิด ผ่าน 15 นาทีแรก "ช่างปั้นหม้อ" เกือบได้เฮ ฮิลาริโอ ชกลูกเตะมุมไม่พ้นอันตราย ดีน ไวท์เฮด ยิงสวนโดน จอห์น โอบี มิเกล เคลียร์จากเส้น
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก "สิงห์บลูส์" พลาดโอกาสทองเมื่อ อเนลกา สลัดการประกบเข้ากรอบโทษด้านซ้ายแต่ดันซัดบอลจากระยะประมาณ 7-8 หลา หลุดเสาไกลไปอย่างเหลือเชื่อ บี้อยู่พักใหญ่ เชลซี ก็ออกนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะชุลมุนลูกเตะมุม จอห์น เทอร์รี ไหลคืนให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด วิ่งเข้ามาตะบันบอลแฉลบตัว อับดูลาย ฟาย เปลี่ยนทางเล็กน้อยแต่ก็เข้าประตูไปในนาทีที่ 32 ท้ายครึ่งแรก สโต๊ก บุกขึ้นมาจนได้ฟรีคิกระยะหวังผล 25 หลา แต่ ตุนกาย ซานลี กระหน่ำบอลเหินข้ามคานไปไกล ทดเจ็บทีมเยือนต้องส่งเอา แดนนี พิวจ์ มาเล่นแทน เกล็น วีแลน ที่บาดเจ็บ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เกือบบวกเพิ่มแต่ลูกยิงด้วยซ้ายโดน โซเรนเซน ป้องกันไว้ได้ จบ 45 นาทีแรกเจ้าบ้านรักษาสกอร์นำเอาไว้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง สโต๊ก เดินหน้าลุยใส่แต่เกือบจะเสียประตูเพิ่มถ้า แลมพาร์ด ไม่ซ้ำในกรอบโทษข้ามคาน เมื่อเกมทำท่าไม่มีอะไรดีขึ้น โทนี พูลิส ขยับส่งตัวรุกทางกราบอย่าง เลียม ลอว์เรนซ์ ลงมาเล่นแทน ตุนกาย และก็ให้ เดฟ คิตสัน ล่าตาข่ายแทน ซิดิบี เมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม ห้านาทีถัดมา เชลซี น่าจะหนีห่าง ดร็อกบา เปิดให้ อเนลกา พุ่งโขกติดตัว แอนดี วิลกินสัน ออกหลังได้ลูกเตะมุม อเล็กซ์ เติมขึ้นมาโหม่งติดบล็อกของ วิลกินสัน อีกครั้ง แต่คราวนี้นาทีที่ 67 จอห์น เทอร์รี ขึ้นมาเองและก็โถมโหม่งบอลแฉลบ วิลกินสัน เข้าตุงตาข่ายสกอร์ไหลเป็น 2-0 จนได้
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แลมพาร์ด เกือบเบิ้ลสกอร์ให้ตัวเองแต่ลูกยิงติดไซด์ไม่ผ่านมือ โซเรนเซน จากนั้น สโต๊ก พยายามดันเกมรุกคืนมา ฟาย ได้โหม่งลูกเปิดฟรีคิกจากเพื่อนบอลย้อยตกบนตาข่ายด้านบน ทีมเยือนยังบอมบ์ต่อไป ดีแลป ทุ่มไกลให้ ฟาย โขกอีกครั้งแต่ก็ยังกดไม่ลง นาทีสุดท้าย "ช่างปั้นหม้อ" น่าได้ประตูตีไข่แตก ฟูลเลอร์ หลุดเข้าไปล็อกยิงด้วยซ้าย ฮิลาริโอ ต้องใช้เท้าสกัดออกมา ครบ 90 นาที เชลซี ประคองตัวผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกฟุตบอล เอฟเอ คัพ เป็นทีมที่ 3 ต่อจาก ปอร์ทสมัธ และ แอสตัน วิลลา ขณะที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กับ ฟูแลม ต้องไปรีเพลย์กัน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : เฮนริเก ฮิลาริโอ , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , อเล็กซ์ , เปาโล แฟร์ไรรา , จอห์น โอบี มิเกล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , ซาโลมอน กาลู , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , นิโกลาส์ อเนลกา
สโต๊ก : โธมัส โซเรนเซน , แอนดี วิลกินสัน , โรเบิร์ต ฮูธ , อับดูลาย ฟาย , แดนนี คอลลินส์ , รอรี ดีแลป , เกล็น วีแลน , ดีน ไวท์เฮด , ตุนกาย ซานลี , ริคาร์โด ฟูลเลอร์ , มามาดี ซิดิบี
ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เชลซี 2-0 สโต๊ก ซิตี
คาร์โล อันเชล็อตติ ปรับหมาก "สิงห์บลูส์" เชลซี ในเกมเอฟเอ คัพ นัดเปิดบ้านชน "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี โดยให้ เปาโล แฟร์ไรรา ประจำการแบ็กซ้าย ดันทาง ฟลอรองต์ มาลูดา ขึ้นไปช่วยแดนกลางแทน มิชาเอล บัลลัค ที่ติดโทษแบน แนวรุกเพิ่ม ซาโลมอน กาลู ลงไปประสานงานกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ นิโกลาส์ อเนลกา ขณะที่ โทนี พูลิส มีปัญหาในการจัดทัพเช่นกันเมื่อ ไรอัน ชอว์ครอสส์ ติดโทษแบนทำให้ต้องเขยิบเอา โรเบิร์ต ฮูธ เข้ามายืนเซ็นเตอร์คู่กับ อัลดูลาย ฟาย แดนหน้ามี ริคาร์โด ฟูลเลอร์ กับ มามาดี ซิดิบี จับคู่กันเหมือนเดิม
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี เป็นฝ่ายเดินเกมบุกใส่แต่นาทีที่ 6 สโต๊ก ได้ลุ้นก่อนจากลูกทุ่มไกลทีเด็ดของ รอรี ดีแลป บอลย้อย มามาดู ซิดิบี ได้โขกเช็ดหลุดกรอบเล่นเอา เฮนริเก ฮิลาริโอ เหวอไปเหมือนกัน เจ้าถิ่นลุยโต้ตอบมาบ้าง นิโกลาส์ อเนลกา ลากตัดจากขวาเข้ามายิงเรียด โธมัส โซเรนเซน เหยียดมือไปรับไว้ได้ ทีมเยือนอาศัยจังหวะทีเผลอ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาไกล ซิดิบี ปาดเข้ามาแปบอลแต่ อเล็กซ์ แหย่เท้าสกัดไว้หวุดหวิด ผ่าน 15 นาทีแรก "ช่างปั้นหม้อ" เกือบได้เฮ ฮิลาริโอ ชกลูกเตะมุมไม่พ้นอันตราย ดีน ไวท์เฮด ยิงสวนโดน จอห์น โอบี มิเกล เคลียร์จากเส้น
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก "สิงห์บลูส์" พลาดโอกาสทองเมื่อ อเนลกา สลัดการประกบเข้ากรอบโทษด้านซ้ายแต่ดันซัดบอลจากระยะประมาณ 7-8 หลา หลุดเสาไกลไปอย่างเหลือเชื่อ บี้อยู่พักใหญ่ เชลซี ก็ออกนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะชุลมุนลูกเตะมุม จอห์น เทอร์รี ไหลคืนให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด วิ่งเข้ามาตะบันบอลแฉลบตัว อับดูลาย ฟาย เปลี่ยนทางเล็กน้อยแต่ก็เข้าประตูไปในนาทีที่ 32 ท้ายครึ่งแรก สโต๊ก บุกขึ้นมาจนได้ฟรีคิกระยะหวังผล 25 หลา แต่ ตุนกาย ซานลี กระหน่ำบอลเหินข้ามคานไปไกล ทดเจ็บทีมเยือนต้องส่งเอา แดนนี พิวจ์ มาเล่นแทน เกล็น วีแลน ที่บาดเจ็บ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เกือบบวกเพิ่มแต่ลูกยิงด้วยซ้ายโดน โซเรนเซน ป้องกันไว้ได้ จบ 45 นาทีแรกเจ้าบ้านรักษาสกอร์นำเอาไว้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง สโต๊ก เดินหน้าลุยใส่แต่เกือบจะเสียประตูเพิ่มถ้า แลมพาร์ด ไม่ซ้ำในกรอบโทษข้ามคาน เมื่อเกมทำท่าไม่มีอะไรดีขึ้น โทนี พูลิส ขยับส่งตัวรุกทางกราบอย่าง เลียม ลอว์เรนซ์ ลงมาเล่นแทน ตุนกาย และก็ให้ เดฟ คิตสัน ล่าตาข่ายแทน ซิดิบี เมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม ห้านาทีถัดมา เชลซี น่าจะหนีห่าง ดร็อกบา เปิดให้ อเนลกา พุ่งโขกติดตัว แอนดี วิลกินสัน ออกหลังได้ลูกเตะมุม อเล็กซ์ เติมขึ้นมาโหม่งติดบล็อกของ วิลกินสัน อีกครั้ง แต่คราวนี้นาทีที่ 67 จอห์น เทอร์รี ขึ้นมาเองและก็โถมโหม่งบอลแฉลบ วิลกินสัน เข้าตุงตาข่ายสกอร์ไหลเป็น 2-0 จนได้
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แลมพาร์ด เกือบเบิ้ลสกอร์ให้ตัวเองแต่ลูกยิงติดไซด์ไม่ผ่านมือ โซเรนเซน จากนั้น สโต๊ก พยายามดันเกมรุกคืนมา ฟาย ได้โหม่งลูกเปิดฟรีคิกจากเพื่อนบอลย้อยตกบนตาข่ายด้านบน ทีมเยือนยังบอมบ์ต่อไป ดีแลป ทุ่มไกลให้ ฟาย โขกอีกครั้งแต่ก็ยังกดไม่ลง นาทีสุดท้าย "ช่างปั้นหม้อ" น่าได้ประตูตีไข่แตก ฟูลเลอร์ หลุดเข้าไปล็อกยิงด้วยซ้าย ฮิลาริโอ ต้องใช้เท้าสกัดออกมา ครบ 90 นาที เชลซี ประคองตัวผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกฟุตบอล เอฟเอ คัพ เป็นทีมที่ 3 ต่อจาก ปอร์ทสมัธ และ แอสตัน วิลลา ขณะที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กับ ฟูแลม ต้องไปรีเพลย์กัน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : เฮนริเก ฮิลาริโอ , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , อเล็กซ์ , เปาโล แฟร์ไรรา , จอห์น โอบี มิเกล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , ซาโลมอน กาลู , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , นิโกลาส์ อเนลกา
สโต๊ก : โธมัส โซเรนเซน , แอนดี วิลกินสัน , โรเบิร์ต ฮูธ , อับดูลาย ฟาย , แดนนี คอลลินส์ , รอรี ดีแลป , เกล็น วีแลน , ดีน ไวท์เฮด , ตุนกาย ซานลี , ริคาร์โด ฟูลเลอร์ , มามาดี ซิดิบี