"ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี แม้เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน แต่ยังเปิดบ้านยันเสมอ "เรือใบสีฟ้า" แมนชสเตอร์ ซิตี 1-1 ในศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดตกค้างประจำคืนวันอังคาร
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโต๊ก ซิตี 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
โทนี พูลิส นำทัพ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี เปิดบริทานเนีย สเตเดียม รับมือ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี เป็นนัดที่สองในรอบ 4 วัน เกมนี้เจ้าถิ่นได้ อับดุลาย ฟาย คืนแผงรับ แดนกลาง เลียม ลอว์เรนซ์ ฟิตกลับมากระชากขึ้นเกมทางขวา รอรี ดีแลป ได้เล่นแทน แม็ทธิว เอเธอริงตัน ที่เจ็บ ด้าน โรแบร์โต มันชินี ปรับทัพให้ผู้มาเยือนส่ง ปาทริค วิเอรา ขันแผงมิดฟิลด์ให้แน่น อดัม จอห์นสัน ได้โอกาสปั้นเกมหลังคู่หน้า เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กับ โรเก ซานตา ครูซ
เริ่มเกมการแข่งขันได้ 4 นาที สโต๊ก เกือบฉวยโอกาสขึ้นนำก่อน เลียม ลอว์เรนซ์ เปิดฟรีคิกเข้ากรอบโทษให้ มามาดี ซิดิบี ได้ยิงเหน่งๆ แต่ติดเซฟ เชย์ กิฟเวน ช่วงแรกเจ้าถิ่นใช้ลูกบอมบ์ทั้งการโยนยาว และลูกทุ่มไกลที่เป็นทีเด็ดของ รอรี ดีแลป กดดันทีมเยือนเป็นระยะ แต่ผ่าน 10 นาทีแรก แมนฯ ซิตี ได้ลุ้นบ้าง โรเก ซานตา ครูซ ได้ยิงบริเวณเส้นโทษทว่าติดบล็อกกองหลังคู่แข่ง
นาทีที่ 20 "ช่างปั้นหม้อ" เกือบได้เฮ ลอว์เรนซ์ เปิดลูกเตะมุมไปเสาสอง อับดุลาย ฟาย ขึ้นโขกเน้นๆ โจลีออน เลสคอตต์ ต้องโหม่งทิ้งมิฉะนั้นอาจเป็นสกอร์ โอกาสเป็นของ แมนฯ ซิตี บ้าง ไมกาห์ ริชาร์ดส เติมขึ้นมาเปิดบอลเข้ากรอบโทษ ไรอัน ชอว์ครอสส์ สกัดไม่ขาดมาเข้าทาง แกเร็ธ แบร์รี วอลเลย์ด้วยซ้ายข้างถนัดแต่บอลไปติดบั้นท้าย เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เพื่อนร่วมทีม ท้ายครึ่งแรก แบร์รี โยนฟรีคิกให้ ซานตา ครูซ ดีดเร็วแต่ไม่เป็นผล จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยัง 0-0
ลุยต่อครึ่งหลังได้ 8 นาที สโต๊ก ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ ฟาย ไปเหนี่ยวในจังหวะที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กำลังจะหลุดเดี่ยวทำให้ผู้ตัดสิน อลัน ไวลีย์ ไม่มีทางเลือกชักใบแดงไล่กัปตันทีมเจ้าบ้านออกจากสนาม ทำให้ โทนี พูลิส ต้องแก้เกมใส่ ซาลิฟ ดิเยา มิดฟิลด์ตัวตัดเกมลงไปช่วยไล่ ถอดเอา ลอว์เรนซ์ ตัวรุกทางริมเส้นออกมา โรแบร์โต มันชินี ปรับแท็คติกให้ แมนฯ ซิตี เช่นกันใส่ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ลงมาเพิ่มเกมรุกเต็มตัว เสี่ยงดึง ฆาเบียร์ การ์ริโด แบ็กซ้ายออกมา
จากนั้นเป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่ลุยหนัก เจมส์ คอลลินส์ อีกหนึ่งตัวสำรองของเจ้าถิ่นสกัดไม่ดี อเดบายอร์ ได้ยิงแต่บอลก็ยังเหิน แต่ถึงนาทีที่ 72 กลับกลายเป็น สโต๊ก ที่ขึ้นนำ 1-0 จากการยิงไกลของ เกล็น วีแลน ซึ่ง กิฟเวน ปัดไม่ออก หลังจากบี้อยู่พักใหญ่ผู้มาเยือนก็ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ก่อนหมดเวลา 5 นาที จากจังหวะที่ อเดบายอร์ โขกเช็ดให้ แบร์รี ยิงชนเสาก่อนสไลด์ตัวป้ายบอลซ้ำเข้าไป ช่วงทดเจ็บแฟนๆ เจ้าถิ่นต้องเฮเก้อกันไป ชอว์ครอสส์ โขกบอลซุกก้นตาข่ายแล้วแต่ผู้ตัดสินมองว่าจังหวะขึ้นไปกระแทก กิฟเวน เสียก่อน หมดเวลา แมนฯ ซิตี เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนนจาก 25 นัด แซง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ขึ้นอันดับ 4 แถมแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ "ช่างปั้นหม้อ" มี 31 คะแนน ยังอยู่ที่ 11 ของตาราง
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สโต๊ก : โธมัส โซเรนเซน , โรเบิร์ต ฮูธ , อับดุลาย ฟาย , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , แดนนี ฮิกกิตบ็อทแธม , เลียม ลอว์เรนซ์ , ดีน ไวท์เฮด , เกล็น วีแลน , รอรี ดีแลป , มามาดี ซิดิบี , ริคาร์โด ฟูลเลอร์
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน , ไมกาห์ ริชาร์ดส , โคโล ตูเร , โจลีออน เลสคอตต์ , ฆาเบียร์ การ์ริโด , ปาทริค วิเอรา , ไนเจล เดอ ยอง , แกเร็ธ แบร์รี , อดัม จอห์นสัน , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ , โรเก ซานตา ครูซ
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโต๊ก ซิตี 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
โทนี พูลิส นำทัพ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี เปิดบริทานเนีย สเตเดียม รับมือ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี เป็นนัดที่สองในรอบ 4 วัน เกมนี้เจ้าถิ่นได้ อับดุลาย ฟาย คืนแผงรับ แดนกลาง เลียม ลอว์เรนซ์ ฟิตกลับมากระชากขึ้นเกมทางขวา รอรี ดีแลป ได้เล่นแทน แม็ทธิว เอเธอริงตัน ที่เจ็บ ด้าน โรแบร์โต มันชินี ปรับทัพให้ผู้มาเยือนส่ง ปาทริค วิเอรา ขันแผงมิดฟิลด์ให้แน่น อดัม จอห์นสัน ได้โอกาสปั้นเกมหลังคู่หน้า เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กับ โรเก ซานตา ครูซ
เริ่มเกมการแข่งขันได้ 4 นาที สโต๊ก เกือบฉวยโอกาสขึ้นนำก่อน เลียม ลอว์เรนซ์ เปิดฟรีคิกเข้ากรอบโทษให้ มามาดี ซิดิบี ได้ยิงเหน่งๆ แต่ติดเซฟ เชย์ กิฟเวน ช่วงแรกเจ้าถิ่นใช้ลูกบอมบ์ทั้งการโยนยาว และลูกทุ่มไกลที่เป็นทีเด็ดของ รอรี ดีแลป กดดันทีมเยือนเป็นระยะ แต่ผ่าน 10 นาทีแรก แมนฯ ซิตี ได้ลุ้นบ้าง โรเก ซานตา ครูซ ได้ยิงบริเวณเส้นโทษทว่าติดบล็อกกองหลังคู่แข่ง
นาทีที่ 20 "ช่างปั้นหม้อ" เกือบได้เฮ ลอว์เรนซ์ เปิดลูกเตะมุมไปเสาสอง อับดุลาย ฟาย ขึ้นโขกเน้นๆ โจลีออน เลสคอตต์ ต้องโหม่งทิ้งมิฉะนั้นอาจเป็นสกอร์ โอกาสเป็นของ แมนฯ ซิตี บ้าง ไมกาห์ ริชาร์ดส เติมขึ้นมาเปิดบอลเข้ากรอบโทษ ไรอัน ชอว์ครอสส์ สกัดไม่ขาดมาเข้าทาง แกเร็ธ แบร์รี วอลเลย์ด้วยซ้ายข้างถนัดแต่บอลไปติดบั้นท้าย เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เพื่อนร่วมทีม ท้ายครึ่งแรก แบร์รี โยนฟรีคิกให้ ซานตา ครูซ ดีดเร็วแต่ไม่เป็นผล จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยัง 0-0
ลุยต่อครึ่งหลังได้ 8 นาที สโต๊ก ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ ฟาย ไปเหนี่ยวในจังหวะที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กำลังจะหลุดเดี่ยวทำให้ผู้ตัดสิน อลัน ไวลีย์ ไม่มีทางเลือกชักใบแดงไล่กัปตันทีมเจ้าบ้านออกจากสนาม ทำให้ โทนี พูลิส ต้องแก้เกมใส่ ซาลิฟ ดิเยา มิดฟิลด์ตัวตัดเกมลงไปช่วยไล่ ถอดเอา ลอว์เรนซ์ ตัวรุกทางริมเส้นออกมา โรแบร์โต มันชินี ปรับแท็คติกให้ แมนฯ ซิตี เช่นกันใส่ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ลงมาเพิ่มเกมรุกเต็มตัว เสี่ยงดึง ฆาเบียร์ การ์ริโด แบ็กซ้ายออกมา
จากนั้นเป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่ลุยหนัก เจมส์ คอลลินส์ อีกหนึ่งตัวสำรองของเจ้าถิ่นสกัดไม่ดี อเดบายอร์ ได้ยิงแต่บอลก็ยังเหิน แต่ถึงนาทีที่ 72 กลับกลายเป็น สโต๊ก ที่ขึ้นนำ 1-0 จากการยิงไกลของ เกล็น วีแลน ซึ่ง กิฟเวน ปัดไม่ออก หลังจากบี้อยู่พักใหญ่ผู้มาเยือนก็ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ก่อนหมดเวลา 5 นาที จากจังหวะที่ อเดบายอร์ โขกเช็ดให้ แบร์รี ยิงชนเสาก่อนสไลด์ตัวป้ายบอลซ้ำเข้าไป ช่วงทดเจ็บแฟนๆ เจ้าถิ่นต้องเฮเก้อกันไป ชอว์ครอสส์ โขกบอลซุกก้นตาข่ายแล้วแต่ผู้ตัดสินมองว่าจังหวะขึ้นไปกระแทก กิฟเวน เสียก่อน หมดเวลา แมนฯ ซิตี เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนนจาก 25 นัด แซง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ขึ้นอันดับ 4 แถมแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ "ช่างปั้นหม้อ" มี 31 คะแนน ยังอยู่ที่ 11 ของตาราง
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สโต๊ก : โธมัส โซเรนเซน , โรเบิร์ต ฮูธ , อับดุลาย ฟาย , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , แดนนี ฮิกกิตบ็อทแธม , เลียม ลอว์เรนซ์ , ดีน ไวท์เฮด , เกล็น วีแลน , รอรี ดีแลป , มามาดี ซิดิบี , ริคาร์โด ฟูลเลอร์
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน , ไมกาห์ ริชาร์ดส , โคโล ตูเร , โจลีออน เลสคอตต์ , ฆาเบียร์ การ์ริโด , ปาทริค วิเอรา , ไนเจล เดอ ยอง , แกเร็ธ แบร์รี , อดัม จอห์นสัน , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ , โรเก ซานตา ครูซ