"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดรังทำได้แค่เสมอ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี 1-1 ทำให้ต้องไปเตะรีเพลย์ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบห้า กันที่บ้านของฝ่ายหลังกันต่อไป
ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบห้า
แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-1 สโต๊ก ซิตี
โรแบร์โต มันชินี มีการสลับตัวผู้เล่น "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ในการลงทำศึกเอฟเอ คัพ เนื่องจากกลางสัปดาห์มีเกมลีกรอยู่ นัดนี้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยืนเป็นหน้าเป้า ได้รับการสนับสนุนเกมรุกจาก ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ และ มาร์ติน เปตรอฟ ขณะที่แนวรับได้ โจลีออน เลสคอตต์ ฟิตลงยืนตัวจริง ด้าน โทนี พูลิส พาทีม "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี มาเยือนในสภาพที่ขาด อับดุลาย ฟาย ต้องขยับเอา โรเบิร์ต ฮูธ ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ให้ทาง แอนดี วิลกินสัน ปักหลักแบ็กขวา แดนหน้าใช้ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ เล่นร่วมกับ มามาดู ซิดิบี
เริ่มเกมการแข่งขันเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า ถึงนาทีที่ 11 แมนฯ ซิตี ออกนำ 1-0 เมื่อ แกเร็ธ แบร์รี ตักบอลจากกราบสนามให้ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ฉีกกับดักล้ำหน้าหลุดเข้าไปกระดกบอลข้ามตัว โธมัส โซเรนเซน กอปรกับการที่ ไรอัน ชอว์ครอสส์ หวดสกัดวืดและยังไปโหม่งตั้งให้บอลตกหน้าประตู ไรท์-ฟิลลิปส์ จึงแปบอลเข้าสู่ตาข่ายโล่งๆ จากนั้นไม่นาน สโต๊ก ก็ต้องถอดเอา แม็ทธิว เอเธอริงตัน ที่บาดเจ็บเล่นต่อไปไหว ต้องให้ เลียม ลอว์เรนซ์ มาขึ้นเกมทางริมเส้นแทน
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรกเกมเทมาทาง "ช่างปั้นหม้อ" ได้โอกาสบุกฉวัดเฉวียนหน้าประตูเจ้าบ้านหลายครั้ง ลอว์เรนซ์ เปิดฟรีคิกให้ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ ลอยตัวขวิด เชย์ กิฟเวน ยังป้องกันไว้ได้ นาทีที่ 32 โอกาสเป็นของผู้มาเยือนอีกครั้ง คราวนี้ ลอว์เรนซ์ ลองยิงเองแต่ กิฟเวน ก็ก้มตัวรับเข้าซองอย่างไม่มีปัญหา ท้ายครึ่งแรก สโต๊ก ต้องเปลี่ยนเอา ลอว์เรนซ์ ที่บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ส่งเอา รอรี ดีแลป ไปเล่นแทน จบ 45 นาทีแรก แมนฯ ซิตี รักษาสกอร์นำไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี ไม่เร่งเกมมากนัก บีบให้ สโต๊ก ต้องขึ้นมาไล่บอลสูง ผ่านไปแค่ 10 นาที ทีมเยือนต้องเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายถอด วิลกินสัน ที่บาดเจ็บอีกคนออก ให้ทาง แดนนี คอลลินส์ ลงมาช่วยเกมรับแทน ทว่าถึงนาทีที่ 57 "ช่างปั้นหม้อ" ได้ทุ่ม ดีแลป ทุ่มไกลไปหน้าประตู ฟูลเลอร์ วิ่งสอดเข้ามาโขกเต็มศีรษะเข้าไป กิฟเวน ได้แค่ป้องกันด้วยสายตาเท่านั้น สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 เกมของเจ้าถิ่นไม่ดี โรแบร์โต มันชินี ต้องปรับเกมช่วง 20 นาทีสุดท้ายส่ง ปาทริค วิเอรา มาเดินเกมแดนกลางแทน สตีเฟน ไอร์แลนด์ ที่บทบาทน้อย
จากนั้น "เรือใบสีฟ้า" เดินหน้าลุยหนักหวังทำประตูชัยให้ได้ วิเอรา ได้ส่องจากนอกกรอบติดบล็อกกองหลังทีมเยือน จังหวะต่อเนื่อง ไรท์-ฟิลลิปส์ เปิดจากกราบขวาให้ แกเร็ธ แบร์รี โหม่งเต็มศีรษะแต่ โซเรนเซน โชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดพ้นคานหวุดหวิด ท้ายเกม แมนฯ ซิตี พยายามเฮือกสุดท้ายแต่ไม่เป็นผลครบ 90 นาที สโต๊ก บุกมายันเสมอได้กลับไปรีเพลย์ที่บ้านตัวเอง แต่ก่อนอื่นในวันอังคารนี้ "ช่างปั้นหม้อ" จะเปิดรังชน แมนฯ ซิตี ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดตกค้างกันก่อน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน , ปาโบล ซาบาเลตา , โคโล ตูเร , โจลีออน เลสคอตต์ , เวย์น บริดจ์ , ไนเจล เดอ ยอง , แกเร็ธ แบร์รี , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , มาร์ติน เปตรอฟ , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
สโต๊ก : โธมัส โซเรนเซน , แอนดี วิลกินสัน , โรเบิร์ต ฮูธ , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , แดนนี ฮิกกินบ็อตแธม , ตุนกาย ซานลี , เกล็น วีแลน , ซาลิฟ ดิเยา , แม็ทธิว เอเธอริงตัน , ริคาร์โด ฟูลเลอร์ , มามาดี ซิดิบี
ผลฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบห้า ประจำคืนวันเสาร์
เชลซี 4-1 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี
[1-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.2) , 1-1 : ไมเคิล โชปรา (น.34) , 2-1 : มิชาเอล บัลลัค (น.51) , 3-1 : ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (น.69) , 4-1 : ซาโลมอน กาลู (น.86)]
เซาแธมป์ตัน 1-4 ปอร์ทสมัธ
[0-1 : ควินซีย์ โอวูซู-อเบยี (น.66) , 1-1 : ริชาร์ด แลมเบิร์ต (น.70) , 1-2 : อารูนา ดินดาน (น.75) , 1-3 : นาเดียร์ เบลฮัดจ์ (น.82) , 1-4 : เจมี โอฮารา (น.85)]
ดาร์บี เคาน์ตี 1-2 เบอร์มิงแฮม ซิตี
[1-0 : เจมส์ แม็คอีฟลีย์ (น.55) , 1-1 : สกอตต์ แดนน์ (น.73) , 1-2 : เลียม ริดจ์เวล (น.90)]
เรดดิง 2-2 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : จิมมี เคเบ (น.1) , 1-1 : โรเบิร์ต โคเรน (น.18) , 2-1 : ไซมอน เชิร์ซ (น.73) , 2-2 : โจ แม็ตตอก (น.87)]
แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-1 สโต๊ก ซิตี
[1-0 : ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ (น.11) , 1-1 : ริคาร์โด ฟูลเลอร์ (น.57)]
ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบห้า
แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-1 สโต๊ก ซิตี
โรแบร์โต มันชินี มีการสลับตัวผู้เล่น "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ในการลงทำศึกเอฟเอ คัพ เนื่องจากกลางสัปดาห์มีเกมลีกรอยู่ นัดนี้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยืนเป็นหน้าเป้า ได้รับการสนับสนุนเกมรุกจาก ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ และ มาร์ติน เปตรอฟ ขณะที่แนวรับได้ โจลีออน เลสคอตต์ ฟิตลงยืนตัวจริง ด้าน โทนี พูลิส พาทีม "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี มาเยือนในสภาพที่ขาด อับดุลาย ฟาย ต้องขยับเอา โรเบิร์ต ฮูธ ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ให้ทาง แอนดี วิลกินสัน ปักหลักแบ็กขวา แดนหน้าใช้ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ เล่นร่วมกับ มามาดู ซิดิบี
เริ่มเกมการแข่งขันเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า ถึงนาทีที่ 11 แมนฯ ซิตี ออกนำ 1-0 เมื่อ แกเร็ธ แบร์รี ตักบอลจากกราบสนามให้ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ฉีกกับดักล้ำหน้าหลุดเข้าไปกระดกบอลข้ามตัว โธมัส โซเรนเซน กอปรกับการที่ ไรอัน ชอว์ครอสส์ หวดสกัดวืดและยังไปโหม่งตั้งให้บอลตกหน้าประตู ไรท์-ฟิลลิปส์ จึงแปบอลเข้าสู่ตาข่ายโล่งๆ จากนั้นไม่นาน สโต๊ก ก็ต้องถอดเอา แม็ทธิว เอเธอริงตัน ที่บาดเจ็บเล่นต่อไปไหว ต้องให้ เลียม ลอว์เรนซ์ มาขึ้นเกมทางริมเส้นแทน
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรกเกมเทมาทาง "ช่างปั้นหม้อ" ได้โอกาสบุกฉวัดเฉวียนหน้าประตูเจ้าบ้านหลายครั้ง ลอว์เรนซ์ เปิดฟรีคิกให้ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ ลอยตัวขวิด เชย์ กิฟเวน ยังป้องกันไว้ได้ นาทีที่ 32 โอกาสเป็นของผู้มาเยือนอีกครั้ง คราวนี้ ลอว์เรนซ์ ลองยิงเองแต่ กิฟเวน ก็ก้มตัวรับเข้าซองอย่างไม่มีปัญหา ท้ายครึ่งแรก สโต๊ก ต้องเปลี่ยนเอา ลอว์เรนซ์ ที่บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ส่งเอา รอรี ดีแลป ไปเล่นแทน จบ 45 นาทีแรก แมนฯ ซิตี รักษาสกอร์นำไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี ไม่เร่งเกมมากนัก บีบให้ สโต๊ก ต้องขึ้นมาไล่บอลสูง ผ่านไปแค่ 10 นาที ทีมเยือนต้องเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายถอด วิลกินสัน ที่บาดเจ็บอีกคนออก ให้ทาง แดนนี คอลลินส์ ลงมาช่วยเกมรับแทน ทว่าถึงนาทีที่ 57 "ช่างปั้นหม้อ" ได้ทุ่ม ดีแลป ทุ่มไกลไปหน้าประตู ฟูลเลอร์ วิ่งสอดเข้ามาโขกเต็มศีรษะเข้าไป กิฟเวน ได้แค่ป้องกันด้วยสายตาเท่านั้น สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 เกมของเจ้าถิ่นไม่ดี โรแบร์โต มันชินี ต้องปรับเกมช่วง 20 นาทีสุดท้ายส่ง ปาทริค วิเอรา มาเดินเกมแดนกลางแทน สตีเฟน ไอร์แลนด์ ที่บทบาทน้อย
จากนั้น "เรือใบสีฟ้า" เดินหน้าลุยหนักหวังทำประตูชัยให้ได้ วิเอรา ได้ส่องจากนอกกรอบติดบล็อกกองหลังทีมเยือน จังหวะต่อเนื่อง ไรท์-ฟิลลิปส์ เปิดจากกราบขวาให้ แกเร็ธ แบร์รี โหม่งเต็มศีรษะแต่ โซเรนเซน โชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดพ้นคานหวุดหวิด ท้ายเกม แมนฯ ซิตี พยายามเฮือกสุดท้ายแต่ไม่เป็นผลครบ 90 นาที สโต๊ก บุกมายันเสมอได้กลับไปรีเพลย์ที่บ้านตัวเอง แต่ก่อนอื่นในวันอังคารนี้ "ช่างปั้นหม้อ" จะเปิดรังชน แมนฯ ซิตี ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดตกค้างกันก่อน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน , ปาโบล ซาบาเลตา , โคโล ตูเร , โจลีออน เลสคอตต์ , เวย์น บริดจ์ , ไนเจล เดอ ยอง , แกเร็ธ แบร์รี , ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , มาร์ติน เปตรอฟ , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
สโต๊ก : โธมัส โซเรนเซน , แอนดี วิลกินสัน , โรเบิร์ต ฮูธ , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , แดนนี ฮิกกินบ็อตแธม , ตุนกาย ซานลี , เกล็น วีแลน , ซาลิฟ ดิเยา , แม็ทธิว เอเธอริงตัน , ริคาร์โด ฟูลเลอร์ , มามาดี ซิดิบี
ผลฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบห้า ประจำคืนวันเสาร์
เชลซี 4-1 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี
[1-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.2) , 1-1 : ไมเคิล โชปรา (น.34) , 2-1 : มิชาเอล บัลลัค (น.51) , 3-1 : ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (น.69) , 4-1 : ซาโลมอน กาลู (น.86)]
เซาแธมป์ตัน 1-4 ปอร์ทสมัธ
[0-1 : ควินซีย์ โอวูซู-อเบยี (น.66) , 1-1 : ริชาร์ด แลมเบิร์ต (น.70) , 1-2 : อารูนา ดินดาน (น.75) , 1-3 : นาเดียร์ เบลฮัดจ์ (น.82) , 1-4 : เจมี โอฮารา (น.85)]
ดาร์บี เคาน์ตี 1-2 เบอร์มิงแฮม ซิตี
[1-0 : เจมส์ แม็คอีฟลีย์ (น.55) , 1-1 : สกอตต์ แดนน์ (น.73) , 1-2 : เลียม ริดจ์เวล (น.90)]
เรดดิง 2-2 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : จิมมี เคเบ (น.1) , 1-1 : โรเบิร์ต โคเรน (น.18) , 2-1 : ไซมอน เชิร์ซ (น.73) , 2-2 : โจ แม็ตตอก (น.87)]
แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-1 สโต๊ก ซิตี
[1-0 : ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ (น.11) , 1-1 : ริคาร์โด ฟูลเลอร์ (น.57)]
