xs
xsm
sm
md
lg

เชลซีบี้ 4-1 ลิ่ว 8 ทีมเอฟเอคัพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"สิงห์บลูส์" เชลซี พกศักดิ์ศรีแชมป์เก่าเปิดรังตะปบเอาชนะ "เดอะ บลูเบิร์ด" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี ทีมรองบ่อน 4-1 ทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ ได้สำเร็จ

ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 5
เชลซี 4-1 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี


ดร็อกบา ป่วนเกมรับคาร์ดิฟฟ์อย่างเห็นผล
คาร์โล อันเชล็อตติ มีการปรับทัพ "สิงห์บลูส์" เชลซี หลายตำแหน่งโดยให้ จอห์น เทอร์รี ลาไปง้อภรรยาที่ดูไบ อเล็กซ์ จึงปักหลักร่วมกับ ริคาร์โด คาร์วัลโญ ส่วนปราการด่านสุดท้ายให้ เฮนริเก ฮิลาริโอ เฝ้าเสาแทน ปีเตอร์ เช็ก แนวรุกใส่ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าดาวรุ่งล่าข่ายร่วมกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา มีทาง โจ โคล ได้โอกาสลงมาปั้นเกมด้วย ด้าน เดฟ โจนส์ มีปัญหาในการจัดทีม "เดอะ บลูเบิร์ด" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี มาเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อขาด สตีเฟน แม็คเฟล มิดฟิลด์ตัวเก่ง ยังดีที่ เจย์ โบธรอยด์ ฟิตกลับมายืนแดนหน้าร่วมกับ ไมเคิล โชปรา
โชปรา เฮยิงตีเสมอให้คาร์ดิฟฟ์
เริ่มเกมการแข่งขันได้แค่ 2 นาที เชลซี ก็ออกนำ 1-0 แต่หัววัน เมื่อ จอห์น โอบี มิเกล ตัดบอลจากกลางสนามให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา สลัดการประกบของ แอนโธนีย์ เจอร์ราร์ด หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้า เดวิด มาร์แชลล์ ไม่เหลือ พอเสียประตูไป คาร์ดิฟฟ์ ขยับเกมของตัวเองขึ้นมาบ้างและก็น่าได้ประตูตีเสมอเช่นกันเมื่อ กาบอร์ กีเปส เติมขึ้นมาเล่นลูกเตะมุมได้โขก ไมเคิล โชปรา ตั้งศีรษะโหม่งต่อแต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก "สิงห์บลูส์" กลับมาเป็นฝ่ายเก็บบอลเอาไว้ได้ แต่เกมรุกยังไม่สามารถฝ่าแผงรับทีมเยือนเข้าไปลุ้นสกอร์แบบจะแจ้ง

ทว่าก็มีลุ้นเล็กๆ จากจังหวะตวัดยิงของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ลอยไปเข้ามือ มาร์แชลล์ เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 34 สาวก "เดอะ บลูเบิร์ดส" ที่ตามมาเชียร์ถึงลอนดอนได้เฮบ้าง คริส เบิร์ก สลับตัวเองไปขึ้นเกมฝั่งขวาก่อนเปิดมาเสาแรกให้ ไมเคิล โชปรา หนีทาง อเล็กซ์ เข้าไปโขกโล่งๆ เฮนริเก ฮิลาริโอ หมดสิทธิป้องกันด้วยประการทั้งปวง พอโดนกระตุกหนวดเสือ พลพรรค "สิงห์บลูส์" ดาหน้าทำเกมรุกเป็นการใหญ่ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ตะบันด้วยซ้ายจากนอกกรอบบอลติดไซด์หลุดเสาไป อย่างไรก็ตาม จบ 45 นาทีแรกยังไม่สามารถเจาะประตูเพิ่มได้ จบครึ่งแรกจึงยังเสมอกันอยู่ที่ 1-1
บัลลัค แย่งโหม่งกับ โบธรอยด์
ลุยต่อครึ่งหลัง คาร์โล อันเชล็อตติ ไม่รอช้าปรับหมากทันทีใส่ ซาโลมอน กาลู ลงมาปั้นเกมรุกแทน โจ โคล ที่แทบไม่มีบทบาทในครึ่งแรก และก็สัมฤทธิ์ผลอย่างรวดเร็ว กาลู แปะบอลให้ ดร็อกบา จ่ายยาวทะลุช่อง มิชาเอล บัลลัค หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดีดด้วยซ้ายส่งลูกหนังผ่านตัว มาร์แชลล์ ตุงตาข่ายในนาทีที่ 51 "สิงห์บลูส์" ตะปบนำ 2-1 จากนั้นยังเป็นเจ้าบ้านที่ครองเกมได้เหนือกว่าคุมพื้นที่ไม่ให้ คาร์ดิฟฟ์ ได้สวนขึ้นมา หนึ่งชั่วโมงผ่านไป แลมพาร์ด เล่นลูกสูตรเตะมุมไปเสาแรกให้ ดร็อกบา ตวัดยิงเร็วแต่ก็ติดบล็อกแผงรับทีมเยือนออกมา

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 69 สกอร์ก็ไหลเป็น 3-1 จนได้ สเตอร์ริดจ์ จ่ายบอลให้ ดร็อกบา จับบอลในกรอบโทษจะยิงแต่ กีเปส สกัดบอลมาเข้าทาง สเตอร์ริดจ์ แปลอดตัว มาร์แชลล์ เข้าไป จากนั้น คาร์ดิฟฟ์ เปลี่ยนเอา รอสส์ แม็คคอร์แม็ค ลงมาเพิ่มพลังในเกมรุกและก็ถอดเอา เบิร์ก ออกมา ด้าน อันเชล็อตติ แก้เกมเช่นกันถอด สเตอร์ริดจ์ ให้ทาง ฟลอรองต์ มาลูดา ที่มีความเร็วลงไปใช้ในจังหวะสวนกลับ ช่วงเวลาที่เหลือผู้มาเยือนพยายามหาทางทวงคืนอีกสักประตูแต่ เชลซี ปิดผนึกเกมรับได้อย่างหนาแน่น แถมก่อนหมดเวลา 4 นาที เปาโล แฟร์ไรรา เปิดให้ กาลู ขวิดเข้าไปอีก "สิงห์บลูส์" ฝังชัย 4-1 ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์เอฟเอ คัพ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : เฮนริเก ฮิลาริโอ , เปาโล แฟร์ไรรา , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , อเล็กซ์ , ยูริ เชียร์คอฟ , จอห์น โอบี มิเกล , โจ โคล , มิชาเอล บัลลัค , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , ดาเนียล สเตอร์ริดจ์

คาร์ดิฟฟ์ : ดาวิด มาร์แชลล์ , เควิน แม็คนัฟตัน , กาบอร์ กีเปส , แอนโธนีย์ เจอร์ราร์ด , มาร์ค เคนนาดี , คริส เบิร์ก , เกวิน เร , อารอน วิลดิก , ปีเตอร์ วิตติงแฮม , เจย์ โบธรอยด์ , ไมเคิล โชปรา
 
ผลฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบห้า ประจำคืนวันเสาร์
 
เชลซี  4-1  คาร์ดิฟฟ์ ซิตี
[1-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.2) , 1-1 : ไมเคิล โชปรา (น.34) , 2-1 : มิชาเอล บัลลัค (น.51) , 3-1 : ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (น.69) , 4-1 : ซาโลมอน กาลู (น.86)]
 
เซาแธมป์ตัน 1-4 ปอร์ทสมัธ
[0-1 : ควินซีย์ โอวูซู-อเบยี (น.66) , 1-1 : ริชาร์ด แลมเบิร์ต (น.70) , 1-2 : อารูนา ดินดาน (น.75) , 1-3 : นาเดียร์ เบลฮัดจ์ (น.82) , 1-4 : เจมี โอฮารา (น.85)]
 
ดาร์บี เคาน์ตี 1-2 เบอร์มิงแฮม ซิตี
[1-0 : เจมส์ แม็คอีฟลีย์ (น.55) , 1-1 : สกอตต์ แดนน์ (น.73) , 1-2 : เลียม ริดจ์เวล (น.90)]
 
เรดดิง 2-2 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : จิมมี เคเบ (น.1) , 1-1 : โรเบิร์ต โคเรน (น.18) , 2-1 : ไซมอน เชิร์ซ (น.73) , 2-2 : โจ แม็ตตอก (น.87)]
 
แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-1 สโต๊ก ซิตี
[1-0 : ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ (น.11) , 1-1 : ริคาร์โด ฟูลเลอร์ (น.57)]
 
กำลังโหลดความคิดเห็น