คริส สมอลลิง กองหลังดาวรุ่งของ ฟูแลม พบกับฝันร้ายในการลงเล่นตัวจริงหนแรกในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ด้วยการทำเข้าประตูตัวเอง ส่งผลให้ เชลซี พลิกแซงกลับมาคว้าชัย 2-1 ยึดจ่าฝูงต่อไปอย่างเหนียวแน่น
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม
เชลซี 2-1 ฟูแลม
ลอนดอน ดาร์บีแมตช์อีกคู่ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี เล่นในบ้านต้อนรับ ฟูแลม เกมนี้เจ้าบ้านขาด ฟลอร็องต์ มาลูดา ปีกทีมชาติฝรั่งเศสที่ติดโทษแบน 1 นัด แต่ยังใช้งาน จอห์น โอบี มิเกล, ซาโลมง กาลู และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ได้ก่อนไปรับใช้ทีมชาติในศึกแอฟริกัน เนชันส์ คัพ ด้านทีมเยือนไม่มี เบรเด ฮานเกแลนด์ เสาหลักในแนวรับที่เจ็บเข่าจึงส่ง คริส สมอลลิง ลงเล่นแทน ส่วนแดนหน้าให้ โซลตาน เกรา คอยสนับสนุน บ็อบบี ซาโมรา ที่ยืนค้ำเป็นตัวเป้า
เริ่มต้นมาได้เพียง 4 นาที “เจ้าสัวน้อย” ช็อกเจ้าถิ่นด้วยการทะลวงออกนำไปก่อน 1-0 เมื่อ ริคาร์โด คาร์วัลโญ กับ จอห์น เทอร์รี โหม่งลูกเปิดของ พอล คอนเชสกี ไม่โดน บอลตกใส่ตัว ซาโมรา กระดอนมาเข้าทาง เกรา ที่ล้มตัวตวัดยิงผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เข้าไปตุงตาข่าย จากนั้น “สิงห์บลูส์” ก็เดินเครื่องบุกหวังเอาคืนให้ได้ แต่ลูกยิงของ แฟรงค์ แลมพาร์ด กับ ดร็อกบา ยังไม่เกินกำลังของ มาร์ค ชวาร์เซอร์ ที่ป้องกันได้หมด
แม้เจ้าบ้านจะรุกหนักแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ซ้ำยังถูก ฟูแลม ตอบโต้ด้วยลูกยิงของ คลินท์ เดมพ์ซีย์ ในนาทีที่ 33 ทว่า เช็ก ยังกระโดปัดข้ามคานออกไปได้ ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 ดร็อกบา ลองกดฟรีคิกเยื้องมาทางขวาแต่ก็ติดกำแพงออกหลังไปอีก จบครึ่งแรก เชลซี ยังตามหลังอยู่ 0-1
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังได้ไม่ทันไร สิงห์บลูส์หวิดเสียลูกที่ 2 เพิ่ม เมื่อ คาร์วัลโญ พักอกคืนหลังสั้นจนถูก ซาโมรา ฉกเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ เช็ก ยังอ่านเกมขาดออกมาบล็อกเอาไว้ทันเวลา จากนั้นนาทีที่ 49 แลมพาร์ด ได้ยิงไกลระยะถนัดติด คริส แบร์ด ในทีแรกก่อนซ้ำดาบสองโด่งข้ามคานไปไกล 10 นาทีถัดมา ดร็อกบา มีจังหวะกระหน่ำเต็มเท้า ทว่า ชวาร์เซอร์ ยังพุ่งปัดได้อย่างเหนียวหนึบ
คาร์โล อันเชล็อตติ เปลี่ยนตัวแก้เกมให้ เชลซี ครั้งแรกในนาทีที่ 65 ด้วยการส่ง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ลงมาแทน เปาโล แฟร์เรรา จากนั้นเป็นเจ้าสัวที่ถอด จอห์น พันท์ซิล ที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วส่ง ดิกสัน เอตูฮู ลงมายืนมิดฟิลด์ตัวรับ พร้อมทั้งถอย คริส แบร์ด ไปเล่นแบ็กขวาแทน ก่อนที่ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ จะลงมาเสริมเกมรุกเจ้าถิ่นแทน จอห์น โอบี มิเกล ขณะที่ทีมเยือนส่ง แอนดี จอห์นสัน ลงมาแทน เกรา
กระทั่งนาทีที่ 73 สิงห์บลูส์ก็มาตามเจ๊า 1-1 จนได้ เมื่อ อิวาโนวิช โยนโด่งจากกราบขวาให้ ดร็อกบา โขกเต็มศีรษะที่เสาสองย้อนศร ชวาร์เซอร์ เข้าประตูไป ก่อนจะพลิกสถานการณ์แซงนำเป็น 2-1 อย่างรวดเร็วในอีก 2 นาทีให้หลัง โดย สเตอร์ริดจ์ ยิงมุมแคบถูก ชวาร์เซอร์ เซฟบนเส้นได้ก่อน ทว่าบอลมาถูกขา สมอลลิง กระดอนเข้าประตูตัวเอง
ช่วง 7 นาทีสุดท้าย ดร็อกบา ได้กดเรียดผ่านเสาไกลเพียงนิดเดียว ก่อนที่ ยูริ เซียร์คอฟ จะถูกถอดออกมาพักให้ แอชลีย์ โคล ลงสนามแทน ช่วงทดเจ็บ กาลู ตะบันหน้าเขตโทษไปชนคานดังสนั่น ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะของ เชลซี 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนน รักษาบัลลังก์จ่าฝูงเอาไว้ได้ก่อนเข้าสู่ปีใหม่ โดยทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่มเป็น 5 แต้ม ส่วน ฟูแลม มี 27 คะแนน รั้งกลางตารางต่อไป
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, เปาโล แฟร์เรรา, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, จอห์น เทอร์รี, ยูริ เซียร์คอฟ, จอห์น โอบี มิเกล, มิชาเอล บัลลัค, แฟรงค์ แลมพาร์ด, โจ โคล, ซาโลมง กาลู, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ฟูแลม – มาร์ค ชวาร์เซอร์, จอห์น พันท์ซิล, อารอน ฮิวจ์ส, คริส สมอลลิง, พอล คอนเชสกี, คริส แบร์ด, แดนนี เมอร์ฟี, เดเมียน ดัฟฟ์, คลินท์ เดมพ์ซีย์, โซลตาน เกรา, บ็อบบี ซาโมรา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0 (ลูกา โมดริช 1-0 นาที 11), (เจอร์เมน เดโฟ 2-0 นาที 81)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 2-2 (ดาร์เรน เบนท์ 0-1 นาที 52), (มอร์เตน กัมสท์ พีเดอร์เซน 1-1 นาที 53), (ดาร์เรน เบนท์ 1-2 นาที 65), (เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ 2-2 นาที 77)
เชลซี ชนะ ฟูแลม 2-1 (โซลตาน เกรา 0-1 นาที 4), (ดิดิเยร์ ดร็อกบา 1-1 นาที 73), (คริส สมอลลิง 2-1 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 75)
เอฟเวอร์ตัน ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0 (เจมส์ วอห์น 1-0 นาที 83), (สตีเวน พีนาร์ 2-0 นาที 90)
สโต๊ค ซิตี แพ้ เบอร์มิงแฮม ซิตี 0-1 (คาเมรอน เจอโรม 0-1 นาที 50)
วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-3 (คาร์ลอส เตเบซ 0-1 นาที 33), (ฆาเบียร์ การ์ริโด 0-2 นาที 69), (คาร์ลอส เตเบซ 0-3 นาที 86)