โชเซ มูรินโญ กุนซือจอมอหังการเป็นฝ่ายมีชัยในการดวลกับ คาร์โล อันเชล็อตติ ตามที่ลั่นวาจา หลัง อินเตอร์ มิลาน บุกคว้าชัยเหนือ เชลซี 1-0 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา หัวหอกสิงห์บลูส์โดนไล่ออก
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
เชลซี (อังกฤษ) 0–1 อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)
(รวม 2 นัด อินเตอร์ เข้ารอบด้วยสกอร์ 3-1)
เกมชี้ชะตาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี เปิดบ้านต้อนรับ อินเตอร์ มิลาน นัดนี้เจ้าถิ่นต้องส่ง รอสส์ เทิร์นบูลล์ นายทวารมือ 3 ลงเฝ้าเสาแทน ปีเตอร์ เช็ก ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่แนวรุกยังมี ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นตัวทีเด็ด ขณะที่ โชเซ มูรินโญ กุนซือทีมเยือนจัดกองหน้าลงมาเต็มพิกัดทั้ง โกรัน ปานเดฟ, ดีเอโก มิลิโต และ ซามูเอล เอโต
เปิดฉากมา 7 นาที ฟลอร็องต์ มาลูดา ลากเลื้อยเข้าไปก่อนกระแทกกับ ลูซิโอ ล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน โวล์ฟกัง สตาร์ค เมินให้จุดโทษปล่อยให้เล่นต่อ 2 นาทีต่อมา ดักลาส ไมคอน เติมขึ้นมาทางขวา ทว่ายิงไม่ดีส่งลูกหลุดกรอบไปไกล จากนั้นนาทีที่ 11 มิชาเอล บัลลัค ลองสับไกนอกเขตโทษส่งลูกเรียดถากโคนเสาเพียงนิดเดียว
เกมเริ่มปะทะกันหนักขึ้นตามลำดับ นาทีที่ 26 ดร็อกบา มีจังหวะสับไกเต็มข้อในเขตโทษ แต่ ไมคอน ยังล้มตัวบล็อกไว้ได้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ตามเก็บตกหวดดาบสองเหินข้ามคาน 7 นาทีให้หลัง “งูใหญ่” มีลุ้นหวาดเสียว เมื่อ ไมคอน โยนไปที่เสาสอง เอโต ล้มตัวโหม่งระยะ 6 หลาพลาดเป้าอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 41 มาลูดา พลิกหนี เอสเตบัน กัมบิอัสโซ ได้สวยก่อนซัดในเขตโทษ แต่ วอลเตอร์ ซามูเอล ยังตามมาสไลด์ขวางไว้ได้ ถัดมา 2 นาที นิโกลาส์ อเนลกา ดูดบอลลงในเขตโทษแล้วดีดผ่านตัว ชูลิโอ เซซาร์ ไปแล้ว ทว่า ติอาโก ม็อตตา ยังตามมาหวดเคลียร์ได้ทันก่อนเข้าประตู ก่อนที่ ดร็อกบา จะถูก ซามูเอล คว้าเอวล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน สตาร์ค ยังใจแข็งไม่ให้จุดโทษ จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ 7 นาที “สิงห์บลูส์” ได้โอกาสใกล้เคียง เมื่อ มาลูดา ยิงเน้นๆ กะให้เสียบเสาแรก แต่ เซซาร์ ยังล้มตัวปัดทิ้งไปได้ เข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมงแรก เวสลีย์ สไนเดอร์ ตอกส้นให้ ปานเดฟ แตะเข้าไปยิงในเขตโทษ ทว่า ยูริ เซียร์คอฟ ยังตามมาบล็อกทันเวลา จากลูกเตะมุมต่อเนื่อง มิลิโต ได้ซัดจังหวะชุลมุนแต่ก็เข้าซอง เทิร์นบูลล์ ก่อนที่เจ้าถิ่นจะแก้เกมด้วยการส่ง โจ โคล ลงมาแทน บัลลัค
ทว่า อินเตอร์ ยังคงหาทางคุกคามได้น่ากลัว นาทีที่ 65 สไนเดอร์ ตักบอลให้ มิลิโต หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแปผ่าน เทิร์นบูลล์ หลุดกรอบอย่างน่าเจ็บใจ 5 นาทีต่อมา ม็อตตา สอดเข้าโขกลูกฟรีคิกจ่อๆ ข้ามคานออกไปอีก จากนั้น เชลซี ก็ส่ง ซาโลมง กาลู ลงมาเสริมเกมรุกแทน เซียร์คอฟ
อย่างไรก็ตาม รูปเกมยังไม่กระเตื้องขึ้น หนำซ้ำยังถูก อินเตอร์ ทะลวงประตูนำ 1-0 ด้วยในนาทีที่ 78 จากจังหวะที่ สไนเดอร์ ตักบอลให้ เอโต หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปจิ้มด้วยหัวเกือกสวนตัว เทิร์นบูลล์ เสียบเสาแรกอย่างคมกริบ เท่านั้นไม่พอ สิงห์บลูส์มาเหลือ 10 คน เมื่อ ดร็อกบา เจตนาย่ำใส่ ม็อตตา ทำให้ สตาร์ค ชักใบแดงแจกแบบไม่ลังเล ครบ 90 นาที อินเตอร์ เป็นฝ่ายชนะ 1-0 รวม 2 นัดเข้ารอบด้วยสกอร์ 3-1
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เชลซี – รอสส์ เทิร์นบูลล์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี, ยูริ เซียร์คอฟ, จอห์น โอบี มิเกล, มิชาเอล บัลลัค, แฟรงค์ แลมพาร์ด, นิโกลาส์ อเนลกา, ฟลอร็องต์ มาลูดา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
อินเตอร์ มิลาน – ชูลิโอ เซซาร์, ดักลาส ไมคอน, ลูซิโอ, วอลเตอร์ ซามูเอล, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, ติอาโก ม็อตตา, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ, เวสลีย์ สไนเดอร์, โกรัน ปานเดฟ, ดีเอโก มิลิโต, ซามูเอล เอโต
ส่วนผลอีกคู่หนึ่ง ซีเอสเคเอ มอสโก ทีมดังจากรัสเซียบุกไปสยบ เซบีญา ถึงถิ่นรามอน ซานเชซ ปิซฆวน ที่สเปน 2-1 โดย โทมัส เนซิด ยิงเสียบมุมให้ทีมเยือนนำก่อนในนาทีที่ 39 จากนั้นเจ้าบ้านตีเสมอได้ใน 2 นาทีให้หลังจากการเข้าชาร์จจ่อๆ ของ ดีเอโก เปร็อตติ ก่อนที่ เคซึเกะ ฮอนดะ มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นจะมาสังหารฟรีคิกในนาทีที่ 55 ซึ่ง อันเดรส ปาล็อป ปัดไม่อยู่ปลิ้นเข้าประตู ทำให้ ซีเอสเคเอ เข้ารอบด้วยประตูรวม 2 นัด 3-2
