คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
นับตั้งแต่วันจันทร์ไปจนถึงพฤหัสบดีนี้ บรรดาผู้บริหารทั้ง 32 ทีมในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) มีคิวรวมตัวกันที่ออร์แลนโด มลรัฐฟลอริดา เพื่อหารือถึงเรื่องต่างๆ ซึ่งทำกันมาประจำทุกปี โดยปี 2010 โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานลีกคนชนคนคงต้องเร่งเจรจาต่อสัญญากับสหภาพผู้เล่นเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่ายให้ลงตัว เพื่อมิให้เกิดการล็อกเอาท์ไม่มีการแข่งขันในฤดูกาล 2011/12
แต่ประเด็นที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในการประชุมหนนี้เห็นจะหนีไม่พ้น การเปลี่ยนแปลงกฎในช่วง "ต่อเวลา" (Over Time) ซึ่ง ริค แม็คเคย์ ประธานทีม แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ที่นั่งแท่นประธานคณะกรรมการร่วมฝ่ายจัดการแข่งขัน NFL ผุดไอเดียเสนอให้โอกาสทีมที่แพ้เสี่ยงเหรียญในเพลย์ออฟ ได้มีโอกาสบุกอีกหนึ่งการครองบอล หากโดนทีมชนะเสี่ยงเหรียญทำคะแนนไปก่อนด้วยการเตะฟิลด์โกล โดยขุดสถิติออกมาล็อบบี้เพื่อนสมาชิก
แม็คเคย์ หยิบยกข้อเท็จจริงที่ว่าตั้งแต่ปี 1994 ทีมชนะเสี่ยงเหรียญ 59.8 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นฝ่ายคว้าชัย ขณะที่ทีมเสี่ยงเหรียญแพ้โอกาสกำชัยในบั้นปลายน้อยลงทุกปี แม้จะมีการปรับให้มีการคิกออฟถอยหลังจากเส้น 35 ไปที่เส้น 30 แล้วก็ตาม โดยผู้เขียนเห็นด้วยกับ แม็คเคย์ ที่ว่าเกมสำคัญระดับเพลย์ออฟแมตช์เดียวรู้ผล ไม่ควรขึ้นอยู่กับการเสี่ยงโยนเหรียญหัวก้อยเท่านั้น และก็หาใช่ว่าทีมที่ชนะเสี่ยงเหรียญจะถูกลิดรอนโอกาสแห่งชัยชนะตามความคิดของ จอห์น มารา เจ้าของทีมร่วม นิวยอร์ก ไจแอนท์ส แต่อย่างใด
ถ้าหากมี "ทัชดาวน์" เกิดขึ้นไม่ว่าจะมาจากการทำคะแนนของทีมบุก หรือการฉกฉวยเทิร์นโอเวอร์ได้จากทีมรับ เป็นอันว่าเกมจบลงอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าทีมชนะเสี่ยงเหรียญบุกซีรีส์แรกแล้วได้ "ฟิลด์โกล" ก็เป็นการยุติธรรมไม่น้อยที่จะให้ทีมแพ้เสี่ยงเหรียญมีโอกาสได้แก้ตัวอีกหนึ่งการครองบอล เมื่อพิเคราะห์ดูแล้ว ผู้เขียนก็ยังมองว่าทีมที่ได้แต้มก่อนมิเห็นเสียหายตรงไหน เพียงแค่คุณหยุดยั้งไม่เสียคะแนนทุกอย่างก็จบเหมือนกัน เพียงแต่ช้าไปอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป ยกเว้นแต่ว่าทีมของคุณดันพลาดมหันต์เสียทัชดาวน์ อันนี้คงช่วยอะไรไม่ได้
ส่วนคำค้านด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากให้ผู้เล่นเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บจากเพลย์ที่มุ่งมั่นและหนักหน่วงขึ้น นั่นเห็นทีจะเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วที่ประชุมก็ลงมติเห็นชอบ 28 เสียงให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎการต่อเวลาในเพลย์ออฟ เริ่มใช้ตั้งแต่ฤดูกาลหน้า (2010/11) เป็นต้นไป มีเพียง 4 เสียงจากผู้ใหญ่ในทีม มินเนโซตา ไวกิงส์, บัฟฟาโล บิลล์ส, ซินซินเนติ เบงกอลส์ และ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ที่ยังมีความคิดอนุรักษ์นิยม ซึ่งก็น่าแปลกใจที่ ซิกิ วิล์ฟ เจ้าของทีมไวกิงส์ ซึ่งเสียประโยชน์จากการโยนหัวก้อยทำให้ปราชัย นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ในรอบชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซี (NFC) นี่ถ้าได้บอลกับมาครองอีกครั้ง ไม่แน่เหมือนกันว่า เบร็ตต์ ฟาร์ฟ อาจสร้างปาฏิหาริย์สำเร็จก็เป็นได้ จากนี้คงต้องมาดูกันต่อไปว่าจะมีกฎอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปอีกบ้าง แต่ที่สำคัญความเปลี่ยนแปลงในช่วง OT โพสต์ซีซัน ผู้เขียนเห็นชอบและก็เชื่อว่าแฟนๆ คงได้อรรถรสเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยกับการลุ้นช่วงต่อเวลา
นับตั้งแต่วันจันทร์ไปจนถึงพฤหัสบดีนี้ บรรดาผู้บริหารทั้ง 32 ทีมในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) มีคิวรวมตัวกันที่ออร์แลนโด มลรัฐฟลอริดา เพื่อหารือถึงเรื่องต่างๆ ซึ่งทำกันมาประจำทุกปี โดยปี 2010 โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานลีกคนชนคนคงต้องเร่งเจรจาต่อสัญญากับสหภาพผู้เล่นเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่ายให้ลงตัว เพื่อมิให้เกิดการล็อกเอาท์ไม่มีการแข่งขันในฤดูกาล 2011/12
แต่ประเด็นที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในการประชุมหนนี้เห็นจะหนีไม่พ้น การเปลี่ยนแปลงกฎในช่วง "ต่อเวลา" (Over Time) ซึ่ง ริค แม็คเคย์ ประธานทีม แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ที่นั่งแท่นประธานคณะกรรมการร่วมฝ่ายจัดการแข่งขัน NFL ผุดไอเดียเสนอให้โอกาสทีมที่แพ้เสี่ยงเหรียญในเพลย์ออฟ ได้มีโอกาสบุกอีกหนึ่งการครองบอล หากโดนทีมชนะเสี่ยงเหรียญทำคะแนนไปก่อนด้วยการเตะฟิลด์โกล โดยขุดสถิติออกมาล็อบบี้เพื่อนสมาชิก
แม็คเคย์ หยิบยกข้อเท็จจริงที่ว่าตั้งแต่ปี 1994 ทีมชนะเสี่ยงเหรียญ 59.8 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นฝ่ายคว้าชัย ขณะที่ทีมเสี่ยงเหรียญแพ้โอกาสกำชัยในบั้นปลายน้อยลงทุกปี แม้จะมีการปรับให้มีการคิกออฟถอยหลังจากเส้น 35 ไปที่เส้น 30 แล้วก็ตาม โดยผู้เขียนเห็นด้วยกับ แม็คเคย์ ที่ว่าเกมสำคัญระดับเพลย์ออฟแมตช์เดียวรู้ผล ไม่ควรขึ้นอยู่กับการเสี่ยงโยนเหรียญหัวก้อยเท่านั้น และก็หาใช่ว่าทีมที่ชนะเสี่ยงเหรียญจะถูกลิดรอนโอกาสแห่งชัยชนะตามความคิดของ จอห์น มารา เจ้าของทีมร่วม นิวยอร์ก ไจแอนท์ส แต่อย่างใด
ถ้าหากมี "ทัชดาวน์" เกิดขึ้นไม่ว่าจะมาจากการทำคะแนนของทีมบุก หรือการฉกฉวยเทิร์นโอเวอร์ได้จากทีมรับ เป็นอันว่าเกมจบลงอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าทีมชนะเสี่ยงเหรียญบุกซีรีส์แรกแล้วได้ "ฟิลด์โกล" ก็เป็นการยุติธรรมไม่น้อยที่จะให้ทีมแพ้เสี่ยงเหรียญมีโอกาสได้แก้ตัวอีกหนึ่งการครองบอล เมื่อพิเคราะห์ดูแล้ว ผู้เขียนก็ยังมองว่าทีมที่ได้แต้มก่อนมิเห็นเสียหายตรงไหน เพียงแค่คุณหยุดยั้งไม่เสียคะแนนทุกอย่างก็จบเหมือนกัน เพียงแต่ช้าไปอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป ยกเว้นแต่ว่าทีมของคุณดันพลาดมหันต์เสียทัชดาวน์ อันนี้คงช่วยอะไรไม่ได้
ส่วนคำค้านด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากให้ผู้เล่นเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บจากเพลย์ที่มุ่งมั่นและหนักหน่วงขึ้น นั่นเห็นทีจะเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วที่ประชุมก็ลงมติเห็นชอบ 28 เสียงให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎการต่อเวลาในเพลย์ออฟ เริ่มใช้ตั้งแต่ฤดูกาลหน้า (2010/11) เป็นต้นไป มีเพียง 4 เสียงจากผู้ใหญ่ในทีม มินเนโซตา ไวกิงส์, บัฟฟาโล บิลล์ส, ซินซินเนติ เบงกอลส์ และ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ที่ยังมีความคิดอนุรักษ์นิยม ซึ่งก็น่าแปลกใจที่ ซิกิ วิล์ฟ เจ้าของทีมไวกิงส์ ซึ่งเสียประโยชน์จากการโยนหัวก้อยทำให้ปราชัย นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ในรอบชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซี (NFC) นี่ถ้าได้บอลกับมาครองอีกครั้ง ไม่แน่เหมือนกันว่า เบร็ตต์ ฟาร์ฟ อาจสร้างปาฏิหาริย์สำเร็จก็เป็นได้ จากนี้คงต้องมาดูกันต่อไปว่าจะมีกฎอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปอีกบ้าง แต่ที่สำคัญความเปลี่ยนแปลงในช่วง OT โพสต์ซีซัน ผู้เขียนเห็นชอบและก็เชื่อว่าแฟนๆ คงได้อรรถรสเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยกับการลุ้นช่วงต่อเวลา
