คอลัมน์ Cross Court โดย ทวิตตี้
หลายคนคงได้เห็นภาพกันไปบ้างแล้ว สำหรับการแข่งขันเทนนิสรายการพิเศษ "ฮิต ฟอร์ เฮติ" หรือหวดเพื่อหาเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเฮติ ที่ อินเดียน เวลส์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแรกเริ่มแมตช์นี้สร้างความฮือฮาดึงยอดหวดทั้งอดีตและปัจจุบัน 8 คน ซึ่งคว้าแกรนด์สแลมรวมเกือบ 100 สมัย มาแข่งหญิงคู่และชายคู่เพื่อระดมเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สุดท้าย แม้ยอดรายได้ทะลุเป้า แต่งานการกุศลกลับจบลงแบบเจื่อนๆ
สื่อเมืองนอกตั้งชื่อใหม่ให้แมตช์การกุศลนี้เป็น "เฮต ฟอร์ ฮิตตี" (Hate For Hitty) หรือความเกลียดชังสำหรับจอมหวด หลังจาก อังเดร อากัสซี และ พีต แซมพราส ตำนานมือ 1 โลกยุค 90 เปิดสงครามน้ำลายผ่านไมโครโฟนระหว่างแมตช์ชายคู่ซึ่ง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ ราฟาเอล นาดาล ร่วมเล่นด้วย
เหตุการณ์วันนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มของหวดชาย 4 คนก็จริง แต่กิริยาวาจาสองจอมเก๋าไม่เป็นมิตรสักนิด อากัสซี เองขอโทษและยอมรับว่าเขา "ล้ำเส้น" เกินไปที่ทำท่าล้วงกระเป๋าหาเศษตังค์กระทบกระเทียบความขี้เหนียวของ แซมพราส ที่เคยให้ทิปพนักงานจอดรถแค่ 1 ดอลลาร์ ส่วน "สวีต พีต" เล่นแรงขนาดล้อปมด้อยท่าเดินเป็ดของ อังเดร ที่เป็นมาแต่กำเนิดจากปัญหากระดูกสันหลัง รวมถึงระบายอารมณ์ด้วยการเสิร์ฟบอลตรงไปที่ศีรษะคู่กรณี หลังถูกยั่วด้วยคำพูด ทว่าล่าสุด แซมพราส ออกมายอมรับว่ารู้สึกเศร้ากับเรื่องที่เกิด แต่ปฏิเสธเอ่ยคำขอโทษ
แท้จริงแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โลกสักหลาดสัมผัสถึงความไม่ลงรอยของสองอเมริกันฮีโร สมัยยังโลดแล่น พีต มีภาพลักษณ์เป็น "ไนซ์กาย" จากเมืองหลวงวอชิงตัน ดีซี ส่วน อากัสซี ติดภาพ "แบดบอย" จากทะเลทรายเนวาดา ซึ่งไม่เคยล้อเล่นกับคู่แข่ง รวมถึงไม่อ่อนข้อให้กับความไร้ระเบียบของผู้ชมและเด็กเก็บบอล โดยสมัยยังเล่นอยู่ อังเดร จะหยุดเล่นทันที ถ้าบอลบอยและผู้ชมไม่เข้าประจำตำแหน่ง
แต่จุดปะทุของความชังครั้งล่าสุดมาจากอัตชีวประวัติ "โอเพน" ของ อากัสซี ที่พาดพิง แซมพราส ในด้านลบ ทั้งชี้ว่าแชมป์สแลม 14 สมัยเป็นพวกไร้แรงบันดาลใจและจุดมุ่งหมาย รวมถึงเขียนเรื่องการทิปพนักงานจอดรถ 1 ดอลลาร์ในครั้งนั้นผ่านตัวหนังสือให้คนทั่วโลกได้อ่าน ทำเอา "พีต ไม่ สวีต" ฉุนขาดขอเคลียร์ตัวต่อตัว เพราะรู้สึกว่าตนเองถูกให้ร้าย ทั้งที่สมัยตนออกชีวประวัติ "A Champion's Mind" ก็เขียนถึง อากัสซี แต่มุมดีๆ
อย่างไรก็ดี การทะเลาะกันของตำนานหนนี้ไม่มีใครผิดถูกในสายตาเพื่อนร่วมอาชีพรวมถึงสื่อทั่วโลก หากแต่เรื่องของการเก็บงำความเกลียดชังของชายวัยย่าง 40 ปีซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ถูกยกมาเป็นประเด็นให้วิเคราะห์วิจารณ์
โดย เฟดเอ็กซ์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ยอมรับว่าตนอึดอัดและคิดว่ารุ่นพี่สองคนน่าจะขอเวลานอกไปสงบจิตใจ ขณะที่คอลัมนิสต์กีฬาในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่มองว่า พีต-อังเดร น่าจะอดทนอีกนิดและไปเคลียร์กันในห้องแต่งตัว ดีกว่ามางัดข้อกันผ่านกล้องทีวี และต่อหน้าแฟนเทนนิส 16,100 คนในสนามที่ต้องการความสนุกสนานจากเกมสักหลาดในวาระของการทำบุญเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ที่สิ้นแล้วทุกสิ่งอย่างในชีวิตนับแต่บ้านทั้งหลัง ไปถึงเมืองทั้งเมือง...