คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
ถึงเป็นผู้ชายหัวใจแกร่ง แต่ จอห์น เทอร์รี่ ก็แกว่งจนหลุดฟอร์ม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เสียประตูในบ้านเกมเดียว 4 ประตูให้แก่ "ทีมเพื่อนเวย์น บริดจ์" แมนเชสเตอร์ซิตี้
เชลซีเล่นเกมเหย้า 13 นัด ยิงได้ 39 ประตู เสีย 8 ประตู เป็นทีมเสียประตูในบ้านน้อยที่สุดเท่ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เบอร์มิงแฮม ซิตี้และทอตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ถึงตอนนี้เชลซีเสียประตูในบ้าน 12 ตกเก้าอี้ทีมเสียประตูในบ้านน้อยที่สุดไปแล้ว
คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นผู้ชาย เป็นยอดนักฟุตบอลอาชีพเช่นเดียวกับเทอร์รี่และ ฮิลาริโอ เขารู้ทุกอย่าง ทั้งเกมในสนาม สภาพจิตใจของเทอร์รี่และบทที่หนักเกินกำลังของฮิลาริโอ
เทอร์รี่กับบริดจ์เป็นเพื่อน ทั้งในทีมชาติและเชลซี เทอร์รี่รู้จักบริดจ์ดี เขารู้ว่าบริดจ์จะไม่ยอมจับมืออย่างแน่นอน แต่ตามธรรมเนียมและมารยาทเขาต้องยื่นมือออกไป นักฟุตบอลเจ้าบ้านทุกคนต้องยื่นมือออกไปสัมผัสต้อนรับผู้มาเยือน
วินาทีที่เทอร์รี่กับบริดจ์ประจันหน้ากัน มีสายตานับร้อยล้านคู่เฝ้าดูอยู่ ไมตรีของเทอร์รี่จะได้รับตอบรับหรือปฏิเสธ แม้โลกรู้ล่วงหน้าว่าปฏิเสธ กระนั้นก็ต้องการให้ "ช็อตประวัติศาสตร์" นั้นอยู่ในสายตา หลายร้อยล้านคนได้เห็นและอีกหลายร้อยล้านคนได้รับรู้
การปฏิเสธของบริดจ์มีความหมายอย่างน้อย 2 ประการ
ประการแรก ปฏิเสธความเป็นผู้ชาย ความเป็นเพื่อนและความเป็นนักกีฬาของจอห์น เทอร์รี่ (การปฏิเสธจับมือเกิดในสนามฟุตบอล) เท่ากับปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็น "ตัวตน" ของเทอร์รี่
ประการที่สอง การปฏิเสธเกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของผู้ชมนับร้อยล้าน ผู้ชมบางคนมีโอกาสส่งใจปฏิเสธไปพร้อมๆ กัน คนถูกปฏิเสธต่อสาธารณชนยอมเจ็บปวดและอับอาย
ก่อนนี้ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษถอดจอห์น เทอร์รี่ จากตำแหน่งกัปตันทีม "สิงโตคำราม" แต่เขาประกาศสู้จะเอาปลอกแขนคืน
บริดจ์กลับประกาศตัดตัวเองออกจากทีมชาติ เพราะไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมทีมเลือกใครสักคนระหว่างเขากับเทอร์รี่ ซึ่งทำให้ทีมอังกฤษแตกเป็นสองฝ่าย ดูเหมือนบริดจ์จะใคร่ครวญและยอมรับว่าทีมชาติอังกฤษขาดเขาได้ แต่ขาดเทอร์รี่ ไม่ได้ การประกาศถอนตัวเองจากทีมชาติคาเปลโล่ยังประหลาดใจ ทว่า จำต้องยอมรับวิถีทางที่บริดจ์เลือกให้
"คาร์เล็ตโต้" รู้ว่าเทอร์รี่ที่ถูกปฏิเสธต่อหน้าคนดูในสนามและโทรทัศน์สภาพจิตใจจะเป็นเช่นไร เทอร์รี่ว้าวุ่นจนไม่อยู่ในฟอร์ม แต่เขาไม่มีเหตุผลที่จะเก็บกัปตันทีมไว้ข้างสนาม เพราะยังมีอีกสองเกมที่ทั้งสองทีมจะเจอกัน เรื่องยุ่งยากใจที่โลกเฝ้ามองจะต้องผ่านไปโดยเร็ว เชลซีกับเทอร์รี่จะได้ผ่านเรื่องยุ่งๆไปพร้อมกัน ฮิลาริโอเข้ามาหลังปีเตอร์ เช็ก บาดเจ็บจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับอินเตอร์ มิลาน พร้อมผลกระทบจากเรื่อง "terry & team" แต่เขาต้องแสดงฝีมือออกมาถ้าทีมต้องการคว้าแชมป์
พรีเมียร์ลีกยังเหลืออีก 8-9 เกม "คาร์เล็ตโต้" ยอมรับว่าเชลซีอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เพราะแข่งเท่ากัน 28 นัด ทิ้งแมนฯ ยูฯ 1 คะแนน และอาร์เซนอล 3 คะแนน
เทอร์รี่ต้องปรับสภาพจิตใจให้เข้มแข็งสำหรับสโมสรและทีมชาติ ผมไม่อยากเห็นเทอร์รี่ ถูกไล่ออกจากสนามเหมือน ซีเนอดีน ซีดาน ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกระหว่างอิตาลีกับฝรั่งเศส ปี 2006
มีนักเตะประเภท "ดาวยั่ว" อยู่มากมายที่พร้อมจะทำให้เทอร์รี่เสียศูนย์
ถึงเป็นผู้ชายหัวใจแกร่ง แต่ จอห์น เทอร์รี่ ก็แกว่งจนหลุดฟอร์ม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เสียประตูในบ้านเกมเดียว 4 ประตูให้แก่ "ทีมเพื่อนเวย์น บริดจ์" แมนเชสเตอร์ซิตี้
เชลซีเล่นเกมเหย้า 13 นัด ยิงได้ 39 ประตู เสีย 8 ประตู เป็นทีมเสียประตูในบ้านน้อยที่สุดเท่ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เบอร์มิงแฮม ซิตี้และทอตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ถึงตอนนี้เชลซีเสียประตูในบ้าน 12 ตกเก้าอี้ทีมเสียประตูในบ้านน้อยที่สุดไปแล้ว
คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นผู้ชาย เป็นยอดนักฟุตบอลอาชีพเช่นเดียวกับเทอร์รี่และ ฮิลาริโอ เขารู้ทุกอย่าง ทั้งเกมในสนาม สภาพจิตใจของเทอร์รี่และบทที่หนักเกินกำลังของฮิลาริโอ
เทอร์รี่กับบริดจ์เป็นเพื่อน ทั้งในทีมชาติและเชลซี เทอร์รี่รู้จักบริดจ์ดี เขารู้ว่าบริดจ์จะไม่ยอมจับมืออย่างแน่นอน แต่ตามธรรมเนียมและมารยาทเขาต้องยื่นมือออกไป นักฟุตบอลเจ้าบ้านทุกคนต้องยื่นมือออกไปสัมผัสต้อนรับผู้มาเยือน
วินาทีที่เทอร์รี่กับบริดจ์ประจันหน้ากัน มีสายตานับร้อยล้านคู่เฝ้าดูอยู่ ไมตรีของเทอร์รี่จะได้รับตอบรับหรือปฏิเสธ แม้โลกรู้ล่วงหน้าว่าปฏิเสธ กระนั้นก็ต้องการให้ "ช็อตประวัติศาสตร์" นั้นอยู่ในสายตา หลายร้อยล้านคนได้เห็นและอีกหลายร้อยล้านคนได้รับรู้
การปฏิเสธของบริดจ์มีความหมายอย่างน้อย 2 ประการ
ประการแรก ปฏิเสธความเป็นผู้ชาย ความเป็นเพื่อนและความเป็นนักกีฬาของจอห์น เทอร์รี่ (การปฏิเสธจับมือเกิดในสนามฟุตบอล) เท่ากับปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็น "ตัวตน" ของเทอร์รี่
ประการที่สอง การปฏิเสธเกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของผู้ชมนับร้อยล้าน ผู้ชมบางคนมีโอกาสส่งใจปฏิเสธไปพร้อมๆ กัน คนถูกปฏิเสธต่อสาธารณชนยอมเจ็บปวดและอับอาย
ก่อนนี้ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษถอดจอห์น เทอร์รี่ จากตำแหน่งกัปตันทีม "สิงโตคำราม" แต่เขาประกาศสู้จะเอาปลอกแขนคืน
บริดจ์กลับประกาศตัดตัวเองออกจากทีมชาติ เพราะไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมทีมเลือกใครสักคนระหว่างเขากับเทอร์รี่ ซึ่งทำให้ทีมอังกฤษแตกเป็นสองฝ่าย ดูเหมือนบริดจ์จะใคร่ครวญและยอมรับว่าทีมชาติอังกฤษขาดเขาได้ แต่ขาดเทอร์รี่ ไม่ได้ การประกาศถอนตัวเองจากทีมชาติคาเปลโล่ยังประหลาดใจ ทว่า จำต้องยอมรับวิถีทางที่บริดจ์เลือกให้
"คาร์เล็ตโต้" รู้ว่าเทอร์รี่ที่ถูกปฏิเสธต่อหน้าคนดูในสนามและโทรทัศน์สภาพจิตใจจะเป็นเช่นไร เทอร์รี่ว้าวุ่นจนไม่อยู่ในฟอร์ม แต่เขาไม่มีเหตุผลที่จะเก็บกัปตันทีมไว้ข้างสนาม เพราะยังมีอีกสองเกมที่ทั้งสองทีมจะเจอกัน เรื่องยุ่งยากใจที่โลกเฝ้ามองจะต้องผ่านไปโดยเร็ว เชลซีกับเทอร์รี่จะได้ผ่านเรื่องยุ่งๆไปพร้อมกัน ฮิลาริโอเข้ามาหลังปีเตอร์ เช็ก บาดเจ็บจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับอินเตอร์ มิลาน พร้อมผลกระทบจากเรื่อง "terry & team" แต่เขาต้องแสดงฝีมือออกมาถ้าทีมต้องการคว้าแชมป์
พรีเมียร์ลีกยังเหลืออีก 8-9 เกม "คาร์เล็ตโต้" ยอมรับว่าเชลซีอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เพราะแข่งเท่ากัน 28 นัด ทิ้งแมนฯ ยูฯ 1 คะแนน และอาร์เซนอล 3 คะแนน
เทอร์รี่ต้องปรับสภาพจิตใจให้เข้มแข็งสำหรับสโมสรและทีมชาติ ผมไม่อยากเห็นเทอร์รี่ ถูกไล่ออกจากสนามเหมือน ซีเนอดีน ซีดาน ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกระหว่างอิตาลีกับฝรั่งเศส ปี 2006
มีนักเตะประเภท "ดาวยั่ว" อยู่มากมายที่พร้อมจะทำให้เทอร์รี่เสียศูนย์
