ASTV ผู้จัดการรายวัน - ปิดเทอมยาวเป็นครั้งแรกในชีวิต สำหรับ ดนัย อุดมโชค นักเทนนิสชายมือ 1 ของไทย หลังตัดสินใจผ่าตัดรักษาอาการเจ็บหัวไหล่ที่รุมเร้าจนต้องพักนานถึง 6 เดือนเป็นอย่างน้อยกว่าจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ในช่วงเวลานี้ "เจ้าปิ๊ก" กำลังเร่งฟื้นฟูร่างกาย รวมถึงใช้เวลาว่างสานฝันวัยเด็กด้วยการเรียนเพื่อสอบใบอนุญาตขับเครื่องบินส่วนตัว หรือ พีพีแอล (Private Pilot Licence)
หลังได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวไหล่ขวาเมื่อกลางปี 2009 ดนัย วัย 28 ปี ฝืนเล่นเกือบครึ่งปี จนในที่สุดตัดสินใจรับการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่เมืองไฮเดนเบิร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้หมดสิทธิ์ร่วมทีมชาติไทย ทำศึกเดวิส คัพ 2010 โซนเอเชีย / โอเชียเนีย กลุ่ม 2 รอบแรก พบกับ แปซิฟิก โอเชียเนีย ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคมนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าของแชมป์ชายเดี่ยว เอเชียน เกมส์ 2006 ยังมีกำลังใจดี โดยล่าสุดเผยถึงกิจกรรมยามว่างผ่านผู้สื่อข่าว MGR Sport
ดนัย ซึ่งมี "น้องต๊าบ" ชรินพร ภรรยาสาว รวมถึง คุณแม่ กาญจนา อุดมโชค ดูแลอย่างใกล้ชิด เผยว่า "เป็นครั้งแรกที่ต้องผ่าตัดและไม่ได้ลงสนามเป็นเวลานานนับตั้งแต่เล่นอาชีพ แต่ไม่ได้รู้สึกแย่แต่อย่างใด คิดในแง่บวกว่านี่เป็นจังหวะที่ดีให้ได้พักร่างกายและจิตใจหลังต่อสู้มายาวนาน โดยระยะก่อนผ่าตัดฟอร์มไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เล่นไปก็หงุดหงิดมาก"
"ช่วงนี้ยังจับไม้เทนนิสไม่ได้ ทุกวันอังคารเวลา 17.00-19.00 น. และวันพฤหัสบดี 13.00-15.00น. ผมจึงไปนั่งสมาธิที่โรงพยาบาลศิริราชเพราะต้องไปทำกายภาพที่นั่นเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ส่วนช่วงเวลาอื่นก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านโดยกำลังฝึกเล่นเกมขับเครื่องบินในคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าภาพไม่เนียนผมคงไปซื้อเพลย์สเตชัน 3 มาเล่นแผ่นบลูเรย์" นักเทนนิสมือ 1 ของไทย ซึ่งเล่นอาชีพมาตั้งแต่ปี 1997 กล่าว
สาเหตุที่ ดนัย ต้องการภาพในเกมขับเครื่องบินสมจริงเนื่องจากกำลังมีแผนจะไปเรียนและสอบใบอนุญาตขับเครื่องบินส่วนตัว "ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไปเรียนขับเครื่องบินเพื่อสานฝันของตนเองในวัยเด็ก โดยอาจเริ่มเดือนมีนาคม แต่ต้องดูห้องเรียนที่ หัวหิน ว่าเปิดรับสมัครหรือไม่ เพราะที่กองทัพอากาศเปิดสอนอีกครั้งในเดือนตุลาคม หากได้เรียนตอนนี้จะเป็นด้านทฤษฎียังไม่ต้องใช้แรงแขน หลังจากนั้นเมื่อแขนขยับได้แล้วค่อยเรียนปฏิบัติ ค่าเรียนประมาณสองถึงสามแสนบาท โดยคนรู้จักของผมที่พัทยามีเครื่องบินเล็กอยู่ 4 ลำ เขายินดีให้ยืมขับไปก่อน หลังจากนั้นอาจตัดสินใจซื้อเองสักลำ"
พร้อมกันนี้ ยอดนักหวดไทยซึ่งเล่นเทนนิสจนโรคหืดหอบในวัยเด็กหายสนิท กล่าวถึงแผนการณ์ในการคืนสนามว่า "แพทย์ผ่าตัดบอกว่าแขนของผมจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้งใน 4 เดือน แต่เนื่องจากกฏของ เอทีพี จำเป็นต้องพัก 6 เดือนจึงจะขอป้องกันอันดับได้ ผมจึงต้องพักอย่างน้อย 6 เดือน ดังนั้นเดือนสิงหาคมน่าจะกลับมาลงแข่งได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความฟิต โดยอันดับที่ผมป้องกันไว้อยู่ที่ราว 200 ของโลก ซึ่งจะใช้ในการสมัครแข่งขันได้ 9 รายการ"
อย่างไรก็ตามเวลานี้สิ่งที่มาก่อนเป็นลำดับแรกของ "เจ้าปิ๊ก" ก็คือเยียวยาหัวไหล่ให้หายดีเพื่อกลับมาเล่นเทนนิสอาชีพ รวมถึงป้องกันแชมป์ เอเชียน เกมส์ ที่ กวางเจา ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่แจ้งเกิดในเวทีนานาชาติ หลังเอาชนะ ลี ฮุง-เต็ก จาก เกาหลีใต้ คว้าแชมป์ชายเดี่ยว ในปี 2006 ที่ โดฮา มาครองได้อย่างประทับใจคนไทย
