เดือด!! "กิเลน-เจ้าท่า" ชิงถ้วย ก

เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ลั่นคว้าถ้วยพระราชทาน ก มาครอง เพื่อประกาศศักดา 4 ปีซิว 4 แชมป์ ด้าน การท่าเรือไทย เอฟซี ไม่หวั่นแม้ชื่อชั้นเป็นรอง ชี้ 90 นาทีอะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยทั้งสองทีมเชื่อว่าแฟนบอลจะเข้ามาสร้างสีสันให้คึกคักแน่นอน


เมื่อวันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 11.00 น. มีงานแถลงข่าวความพร้อมและประชุมผู้จัดการทีม “ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก สนับสนุนโดย อีซูซุ” ซึ่ง “กิเลนผยอง” แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 จะดวลกับ “สิงห์เจ้าท่า” แชมป์เอฟเอ คัพ ในวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. ณ สนามศุภชลาศัย โดยจะถ่ายทอดสดทางช่อง สทท. 11ด้วย ซึ่งนอกจากจะมีถ้วยแชมป์เป็นเดิมพันแล้ว ทั้งสองทีมจะได้รับเงินสนับสนุนทีมละ 400,000 บาท

ด้าน รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไปของ เมืองทองฯ พูดถึงความพร้อมของทีมว่า “เกมนี้ถือเป็นการโหมโรงก่อนฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2010 จะเปิดฉากซึ่งสภาพทีมถือว่าพร้อมแล้ว เนื่องจากผ่านเกมเพลย์ออฟ เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก มา 2 นัด รวมถึงมีเกมอุ่นเครื่องอย่างต่อเนื่อง โดยวันพรุ่งนี้ (18 กุมภาพันธ์) ก็จะเล่นกับ บีอีซี เทโรศาสน ที่สนามหนองจอก ดังนั้น ผู้เล่นก็จะมีโอกาสปรับสภาพร่างกายและความเข้าขารู้ใจ”

“ส่วนการได้ โคเน โมฮาเหม็ด และ ดัสกร ทองเหลา จะทำให้ทีมแกร่งขึ้นแน่นอน แม้ว่าตอนนี้เราจะปวดหัวเรื่องการจัดตัวลงเล่นจากการมีขนาดทีมใหญ่ แต่ก็เป็นความปวดหัวที่น่าพอใจเพราะเราต้องมีผู้เล่น 25 คนขึ้นไป เพื่อรับมือกับศึกหนักทั้งฤดูกาล ซึ่งเราหวังคว้าแชมป์ถ้วย ก เพื่อเป็นเกียรติประวัติของสโมสรที่คว้า 4 แชมป์ตลอด 4 ปีหลังสุดตั้งแต่ได้แชมป์ดิวิชัน 2 และเพื่อเป็นกำลังใจก่อนเตะ เอเอฟซี คัพ 2010 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ซึ่งไปเยือน เซาธ์ไชนา ที่ฮ่องกง วันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้” เสี่ยเป้ ร่ายยาว

ขณะที่ ดัสกร มิดฟิลด์ทีมชาติไทยซึ่งเซ็นสัญญา 4 ปีร่วมทัพกิเลนและมาเปิดตัวในงานนี้ด้วยกล่าวว่า “ที่ผ่านมาตัวผมอาจจะฟอร์มตกลงไปบ้างอันเนื่องมาจากสภาพร่างกายและอาการบาดเจ็บ แต่การมาอยู่กับ เมืองทองฯ เชื่อว่าจะสามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้” ซึ่งเป็นที่คาดว่าทั้ง โคเน และ ดัสกร จะได้ลงสัมผัสเกมในวันเสาร์นี้ด้วย

ส่วน สะสม พบประเสริฐ กุนซือการท่าเรือไทยแถลงว่า “สมัยก่อนยุค เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง ยังเล่นอยู่เราเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ แต่ปัจจุบันนี้ถือว่าเรากำลังสร้างทีมขึ้นมาใหม่ ขณะที่เมืองทองฯ เป็นแหล่งรวมของนักเตะทีมชาติไทยและผู้เล่นต่างชาติฝีเท้าดี แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ใน 90 นาที”

สำหรับเรื่องอาถรรพ์ที่แชมป์ถ้วย ก มักจะไม่ได้แชมป์ลีกนั้น “เสือเตี้ย” บอกแบบติดตลกว่าไม่คิดมากถ้าได้แชมป์แล้วได้อันดับ 2 ไทยพรีเมียร์ลีก ก่อนกล่าวอย่างจริงจังว่า “ฟุตบอลเป็นเกมที่ต้องตัดสินกันแมตช์ต่อแมตช์ ซึ่งนัดนี้เราพร้อมสู้เต็มที่ด้วยการส่งทีมชุดที่ดีที่สุดลงสนาม เชื่อว่าจะเป็นเกมที่สนุก และเราจะงัดแท็กติกทุกวิถีทางออกมาใช้เพื่อคว้าชัยชนะ”

ในส่วนของแฟนบอลที่ทั้งสองทีมเชื่อว่าสาวกของตัวเองจะขนกันมาเชียร์ถึงขอบสนามกันอย่างเนืองแน่น รณฤทธิ์ เผยถึงฝั่งกิเลนว่า “วันเสาร์นี้จะเป็นการประชันกันทั้งผู้เล่นในสนามและแฟนบอลบนอัฒจันทร์ ซึ่งฝั่งเมืองทองฯ น่าจะมีกองเชียร์มาไม่ต่ำกว่า 10,000 คน” ขณะที่ เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง รองประธานสโมสรการท่าเรือไทยกล่าวว่า “ทั้งสองทีมขึ้นชื่อในเรื่องแฟนคลับอยู่แล้ว หวังว่าจะได้เห็นสีสันที่แปลกตาและความคึกคักไม่แพ้นัดชิง เอฟเอฟ คัพ ปีที่ผ่านมา และผมเชื่อว่ากองเชียร์จะมีสปิริต ไม่ก่อเหตุรุนแรงขึ้น และจะสร้างความประทับใจก่อนเปิดฤดูกาล 2010”

อนึ่ง ฝ่ายจัดการแข่งขันได้แบ่งโซนที่นั่งออกจากกันอย่างชัดเจน โดยสาวกเมืองทองฯ จะอยู่บริเวณครึ่งสนามฝั่งสกอร์บอร์ด ส่วนกองเชียร์เจ้าท่าจะอยู่บริเวณครึ่งสนามฝั่งตรงข้ามสกอร์บอร์ด พร้อมทั้งจัดวางตำรวจคอยคุมในอัตราส่วนเจ้าหน้าที่ 1 นายต่อแฟนบอล 500 คน รวมถึงเกณฑ์สารวัตรทหารมาตรึงกำลังระหว่างแฟนบอลทั้ง 2 ทีมเผื่อมีเหตุฉุกเฉิน ขณะเดียวกันก็มีการกำชับแฟนบอลว่าห้ามจุดพลุในสนามด้วย

ทั้งนี้ ในการประชุมผู้จัดการทีมได้ระบุรายละเอียดของเกมการแข่งขันว่าหากเสมอกันในเวลา 90 นาทีจะตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ ส่วนรายชื่อผู้เล่นแต่ละทีมสามารถส่งได้ไม่เกิน 25 คน โดยจำนวนดังกล่าวอนุญาตให้มีนักเตะต่างชาติไม่เกิน 5 คน สามารถส่งลงสนามได้ตลอดเวลาทั้ง 5 คนตามระเบียบเดิมของการแข่งขันถ้วย ก แต่ใช้สิทธิ์เปลี่ยนตัวได้เพียง 3 คน สำหรับชุดแข่งขัน “กิเลนผยอง” จะใส่เสื้อสีแดง กางเกงดำ ถุงเท้าดำ “สิงห์เจ้าท่า” จะใส่เสื้อสีแสด-น้ำเงิน กางเกงน้ำเงิน ถุงเท้าขาว