ศึกลูกหนังไทยคม เอฟเอ คัพ 2010 ปรับเงินรางวัลสำหรับทีมชนะเลิศเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านบาท ด้าน การท่าเรือไทย เอฟซี โวขอรักษาความเป็นทีมไร้พ่ายในรายการนี้ด้วยการป้องกันถ้วยแชมป์เอาไว้ให้ได้อีกสมัย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น. ณ ห้องบุหงา โรงแรมเรดิสัน มีการจัดงานแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลถ้วยน็อกเอาท์ของแดนสยาม ซึ่งมูลนิธิไทยคม ประกาศทุ่มงบกว่า 25 ล้านบาทในการสนับสนุนด้านงบประมาณการแข่งขันต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2553-2555 ขณะที่ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า, บริษัท สิงห์ คอเปอร์เรชั่น จำกัด, แกรนด์สปอร์ต และไนกี้ เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมสนับสนุนในปีนี้
สำหรับการแข่งขันจะเริ่มที่รอบคัดเลือก ซึ่งเปิดรับสมัครทีมจากดิวิชัน 2 รวมถึงถ้วย ข, ค, และ ง รวม 64 ทีม โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่ 5-26 กุมภาพันธ์ ก่อนจับสลากประกบคู่ในวันที่ 1 มีนาคม และเตะรอบคัดเลือกในวันที่ 6-21 มีนาคม เพื่อคัดให้เหลือ 32 ทีมเข้าไปแข่งรอบแรก
หลังจากนั้น 16 ทีมที่เข้าสู่รอบสองจะไปดวลกับ 16 ทีมจากดิวิชัน 1 ก่อนที่รอบสามจะเป็นการแข่งขันระหว่าง 16 ทีมจากไทยพรีเมียร์ลีกและ 16 ทีมที่ผ่านรอบสอง จากนั้นก็จะเป็นรอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบ 8 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งกำหนดเอาไว้ที่วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคมปีนี้ โดยทีมที่เข้าร่วมจะต้องมีสนามเหย้าเป็นของตัวเอง และตั้งแต่รอบคัดเลือกจนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย จะใช้สนามเจ้าบ้านที่มีชื่อแรกนำหน้า ยกเว้นรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ จะใช้สนามกลาง คือ สนามศุภชลาศัย
ส่วนเงินรางวัลสำหรับทีมแชมป์ในปีนี้มีการปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม 1 ล้านบาทเป็น 1.5 ล้านบาท พร้อมได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงชัยศึกฟุตบอลสโมสรเอเชียใบรอง “AFC Cup” และถ้วยพระราชทาน ประเภท ก. กับทีมแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 ขณะที่รองแชมป์ได้รับ 500,000 บาท นอกจากนี้ยังมีเงินรางวัลในแต่ละรอบรวมูลค่าตลอดทัวร์นาเมนต์เป็นเงินทั้งสิ้น 4 ล้านบาท ทีมที่สนใจเข้าร่วมแข่งขัน สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 26 ก.พ. ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
ขณะเดียวกันยังมีกิจกรรมพิเศษ คือ คลินิกฟุตบอลเคลื่อนที่โดย “โค้ชหนุ่ย” เฉลิมวุฒิ สง่าพล อดีตกองกลางเท้าชั่งทองทีมชาติไทยจะเป็นผู้อบรมฝึกทักษะให้กับเยาวชนในจังหวัดของสโมสรเจ้าบ้าน โดยจะเปิดรับเด็กท้องถิ่นที่สนใจทั้งชายและหญิง อายุระหว่าง 12-15 ปี ใช้เวลาฝึกอบรม 2 ชั่วโมงก่อนเกมจะเริ่มขึ้นด้วย
พร้อมกันนี้ วรวีร์ มะกูดี นายกลูกหนังไทยที่มาร่วมงานแถลงข่าวพูดถึงศึกลูกหนังเอฟเอ คัพ ของไทยในปีนี้ว่า “จากที่ได้สัมผัสบรรยากาศในรอบชิงชนะเลิศ ปีก่อนที่สนามศุภชลาศัย ซึ่ง การท่าเรือไทย ชนะดวลจุดโทษ บีอีซี เทโรศาสน ถือว่าคึกคักชนิดคาดไม่ถึง ตลอดจนรอบอื่นๆ ด้วย ซึ่งผมคิดว่าปีนี้น่าจะได้รับความสนใจจากแฟนบอลและประสบความสำเร็จมากกว่าปีที่แล้ว”
ท้ายสุด สะสม พบประเสริฐ กุนซือสิงห์เจ้าท่าที่มาร่วมงานในฐานะแชมป์เก่าประกาศกร้าวว่า “เราได้แชมป์เมื่อปีที่แล้วเท่ากับว่ายังไม่แพ้ใครในรายการนี้ ซึ่งผมขอพาทีมไม่แพ้ใครในเอฟเอ คัพ ต่อไป นั่นหมายความว่าเราจะป้องกันแชมป์ให้ได้อีกสมัย และเนื่องจากปีนี้เราลงแข่ง 5 รายการซึ่งรวมถึง ควีนส์คัพ, ถ้วย ก, ไทยพรีเมียร์ลีก และเอเอฟซี คัพ ซึ่งผมหวังไว้ว่าจะได้ถ้วยแชมป์อย่างน้อย 2 ใบจากที่ พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสรตั้งเป้าคว้าแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่งขัน”