xs
xsm
sm
md
lg

ยูโร 2012 รอบสุดท้าย / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 14 ในปี 2012 ( 2012 UEFA European Football Championship ) ซึ่ง โปแลนด์ และ อูคราอิน ( Ukraine ) ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพร่วมกัน ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2012 นั้น คงจะเป็นหนสุดท้ายที่มีทีมร่วมแข่ง 16 ชาติ ซึ่งใช้ระบบนี้มาตั้งแต่ปี 1996 เพราะหลายชาติในทวีปยุโรปต่างก็มีความเห็นอยากจะให้เพิ่มพื้นที่ในรอบสุดท้ายให้มี 24 ทีมมานานแล้ว

โดยหลายชาติมองว่า ในยุคก่อนต้นทศวรรษที่ 90 ตอนที่ สหภาพโซเวียต ยังไม่ล่มสลาย แตกออกเป็นหลายประเทศ รวมทั้ง ยูโกสลาเวีย ก็ยังไม่แบ่งออกเป็นหลายประเทศ มีชาติสมาชิก ยูเอ็ฟฟา เพียง 33 ชาติเท่านั้น การจัดการแข่งขันรอบสุดท้าย 8 ทีม หรือ 16 ทีมก็ดูดีอยู่หรอก แต่บัดนี้มันมีตั้ง 53 ชาติสมาชิก ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนให้รอบสุดท้ายมี 24 ทีมได้แล้ว ซึ่ง ยูเอ็ฟฟา ได้มีการพิจารณาตัดสินเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2007 ปรากฏว่ายังไม่ตกลงสำหรับ ยูโร 2012 แต่เมื่อเดือนกันยายน 2008 ยูเอ็ฟฟา ได้ประกาศว่า กำลังมีแผนจะปรับเป็น 24 ทีมใน ยูโร 2016

สำหรับ ยูโร 2012 โปแลนด์ กับ อูคราอิน สองชาติเจ้าภาพร่วมนี้ได้รับชัยชนะจากการโหวตโดยคณะกรรมการบริหารสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ็ฟฟา ( Union of European Football Associations - UEFA ) เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2007 ที่ กรุงคาร์ดิฟ ประเทศเวลส์ ตั้งแต่รอบแรก ทั้งๆที่เดิมเขาเตรียมการไว้เผื่อว่าจะต้องลงคะแนนเสียงเพื่อคัดเลือกกันถึง 2 รอบ

จาก 5 รายที่เสนอตัวชิงสิทธิการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน คณะกรรมการบริหาร ยูเอ็ฟฟา ได้ตัด ตุรกี กับ กรีซ ทิ้งไปตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2005 คงเหลือผู้เสนอตัวเพียง 3 รายคือ อิตาลี โครเอเชีย ร่วมกับ ฮังการี และ โปแลนด์ ร่วมกับ อูคราอิน

หลังจากนั้น ผู้เสนอตัวทั้ง 3 รายยังต้องยื่นเอกสารรายละเอียดเพิ่มเติมให้กับ ยูเอ็ฟฟา อีก อย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2006 และพอถึงเดือนกันยายน ปีนั้นเอง ยูเอ็ฟฟา ก็เริ่มส่งคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปเยี่ยมชมและตรวจสอบสถานที่แข่งขันของทั้ง 3 ราย

ซึ่งในที่สุดก็มาถึงวันตัดสินว่า ใครจะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยตามกระบวนการของ ยูเอ็ฟฟา นั้น ก่อนอื่นคณะกรรมการบริหารก็ต้องมาร่วมประชุมให้ครบองค์ประชุมซะก่อน นั่นหมายถึงอย่างน้อย 8 คนจากทั้งหมด 14 คน ซึ่งวันนั้นกรรมการแต่ละคนก็มากันครบ อย่างไรก็ตาม กรรมการจาก อูคราอิน และ อิตาลี ไม่ได้ร่วมลงคะแนนด้วย เพราะถือเป็นมารยาทที่กรรมการที่มาจากชาติที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการสรรหาเจ้าภาพจัดการแข่งขันจะไม่ใช้สิทธิของตน เป็นอันว่ามีกรรมการเหลือ 12 คน และผลปรากฏว่า โปแลนด์ ร่วมกับ อูคราอิน ได้ 8 คะแนน อิตาลี ได้เพียง 4 คะแนน ส่วน โครเอเชีย ร่วมกับ ฮังการี ไม่ได้คะแนนเลย ดังนั้น โปแลนด์ กับ อูคราอิน ชนะด้วยคะแนนเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด ( absolute majority ) ซึ่งหมายถึงได้รับคะแนนเสียงอย่างน้อย ครึ่งหนึ่งจากคะแนนโหวตทั้งหมด บวก 1 เสียง ได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ยูโร 2012 ซึ่งถือเป็นการแข่งขันที่มีเจ้าภาพร่วมเป็นหนที่ 3 แล้ว ต่อจาก เบลเจียม ร่วมกับ เนเธอร์แลนด์ส ที่เป็นเจ้าภาพร่วมในปี 2000 และ ออสเตรีย กับ สวิส ในปี 2008

ส่วนการจับสลากแบ่งสาย ยูโร 2012 รอบคัดเลือกนั้นก็เพิ่งดำเนินการที่ กรุงวารชาวา ( Warszawa ) หรือที่เรารู้จักกันในนาม วอร์ซอว์ เมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี่เอง ชาติใดอยู่ในกลุ่มใดท่านผู้อ่านคงได้ทราบกันแล้ว สำหรับรูปแบบการแข่งขันนั้น เนื่องจากมี 53 ชาติ โดย โปแลนด์ กับ อูคราอิน ได้สิทธิ์เข้าแข่งในรอบสุดท้ายอยู่แล้วในฐานะเจ้าภาพ จึงเหลือ 51 ชาติ เขาก็แบ่งเป็น 6 กลุ่มๆละ 6 ทีม และอีก 3 กลุ่มๆละ 5 ทีม รวมมี 9 ลุ่ม คัดเอาแชมป์ของกลุ่ม 9 ทีม กับอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 1 ทีมเข้ารอบไป ยังเหลืออีก 4 ที่ ก็ให้อันดับ 2 จากอีก 8 กลุ่มก็มาแข่งในรอบเพลย์-อ็อฟกัน เป็นรูปแบบคล้ายฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น