“บุญศักดิ์ พลสนะ” นักตบลูกขนไก่มือ 1 ของประเทศไทย และ “สุดเขต ประภากมล” สองพี่ใหญ่ของนักกีฬาแบดมินตัน นำทีมนักกีฬารุ่นน้อง ร่วมกับผู้ฝึกสอนอีก 4 ราย ยกทีมกันเซ็นใบลาออกจากสมาคมแบดฯ และการเป็นนักกีฬาทีมชาติ ชนิดช็อกวงการ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารของสมาคมบางคน รวมถึงทัศนคติในการบริหารงานก็จะไม่มีวันร่วมงานกันอีกอย่างเด็ดขาด ขณะที่ ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมฯ เมินทำตามข้อเรียกร้อง พร้อมเตรียมตั้งทีมโค้ชใหม่แทนที่ในเย็นวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ วอนบรรดานักกีฬาที่ออกมาร่วมก๊วนแถลงข่าวยังเปลี่ยนใจทัน
หลังจากที่มีประเด็นความขัดแย้งระหว่างทีมสตาฟโค้ชทีมชาติไทยนำโดย สมพล คูเกษมกิจ, อุดม เหลืองเพชราภรณ์, พ.ท.ศักดิ์ระพี ทองสาริ และปราโมทย์ ธีระวิวัฒน์ รวมถึงนักกีฬาทีมชาติส่วนใหญ่ กับ นายกสมาคมแบดมินตันไทยฯ ศ.เจริญ วรรธนะสิน มาอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องที่สมาคมพยายามบีบนักกีฬาทีมชาติ ทำสัญญาทีม (Team Contract) กับบริษัทอุปกรณ์กีฬา ที่ทางสมาคมฯ ได้ทำข้อตกลงกันไว้ และทัศนคติการบริหารที่เปลี่ยนแปลงไปมากในระยะหลังๆ ถึงขนาดเมื่อวันจันทร์ที่ 25 มกราคม ทีมโค้ชชุดดังกล่าวถึงขั้นตัดสินใจลาออก แต่นายกสมาคมขนไก่ไทยได้แต่งตั้งทีมงานชุดหนึ่งเพื่อเข้ามาประนีประนอม ทำให้ทีมโค้ชชุดดังกล่าวต้องกลับมาทบทวนการตัดสินใจกันอีกครั้ง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ห้องบอลรูม โรงแรมอโนมา ผู้ฝึกสอนชุดดังกล่าวพร้อม ด้วยบรรดานักกีฬาแบดมินตันชั้นนำของไทย นำโดยบุญศักดิ์ พลสนะ นักตบลูกขนไก่มือ 1 ของประเทศไทย และสุดเขต ประภากมล พี่ใหญ่ของนักกีฬาแบดมินตัน รวมถึงทรงพล อนุกฤตยาวรรณ-กุลชลา วรวิจิตรชัยกุล ขนไก่คู่ผสมของไทยพร้อมนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติอีก 10 คน จัดงานแถลงข่าวขออำลาจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติกันยกชุดทั้งสตาฟและนักกีฬา แบบชนิดช็อกวงการ
โดย โค้ชอุดม เหลืองเพชราภรณ์ เป็นตัวแทนฝ่ายโค้ชทีมชาติ แถลงว่า “พวกผมไม่มีใครที่จะต้องการลาออก เวลามีปัญหาอะไรก็อดทนกันมาตลอด แต่ปัจจุบันมันเหลืออดแล้วจริงๆ ซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา ได้ 1 เหรียญทองประเภทหญิงเดี่ยวก็ถูกด่าว่าทำไมประเภททีมถึงไม่ได้ทอง อย่านำเหรียญทองในประเภทเดี่ยว มาปกปิดความล้มเหลวในประเภททีม แบบนี้ใครจะมีกำลังใจทำต่อ ท่านไม่เคยเอ่ยปากให้กำลังใจทีมโค้ชเลย เรื่องเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนไม่ต้องพูดถึง การเลี้ยงดูเรื่องอาหารยังไม่มีเลย พูดอยู่เสมอว่าปัจจุบันนี้ต้องนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย ซึ่งผมอยากที่จะเรียนเหมือนกันว่า เรื่องโภชนาการนั้นก็สำคัญเหมือนกัน โดยเฉพาะเลขาฯ และผู้จัดการทีมที่เพิ่งแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ ท่านฟังความข้างเดียวจากบุคคลเหล่านั้นเสมอ และฟางเส้นสุดท้ายที่เราออกมาแถลงในวันนี้ก็คือ การที่ออกมาตำหนิพวกเราซ้ำสองในการประชุมสมาคมฯ ในวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ส่งผู้ประสานมาบอกว่าจะมีท่าทีที่อ่อนลง”
ด้าน แมน บุญศักดิ์ พลสนะ นักตบลูกขนไก่มือ 1 ของประเทศไทย และมือ 7 ของโลกกล่าวถึงการตัดสินใจลาทีมชาติในครั้งนี้ทั้งน้ำตาว่า “ผมรู้สึกเสียใจที่มีการแถลงข่าวในวันนี้เกิดขึ้น และขอยืนยันว่านักกีฬาทุกคนที่มาร่วมแถลงในวันนี้ล้วนมีความสมัครใจมาด้วยกันทั้งสิ้น สำหรับผมติดทีมชาติมาตั้งแต่อายุ 16 ปี และหาสปอนเซอร์เองได้เมื่ออายุ 17-18 ปี จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา อาจารย์เจริญได้มีนโยบายที่จะเซ็นสัญญากับอุปกรณ์กีฬารายหนึ่งโดยให้นักกีฬาใช้ยกทีม แต่เนื่องจากผมได้เซ็นสัญญากับเจ้าอื่นเอาไว้ก่อนแล้วจึงไม่สามารถที่จะทำตามนโยบายของท่านได้”
“หลังจากนั้นท่าทีระหว่างผมกับเขาก็เปลี่ยนไป โดนกลั่นแกล้ง โดยให้เป็นผู้จ่ายเงินทุกอย่างเองหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าซ้อม ที่พัก ลูก มาจนถึงวันนี้ และการแข่งขันซูเปอร์ซีรีส์ ที่เกาหลีใต้ และมาเลเซียที่ผ่านมา ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางสมาคมเลย ที่ผ่านมาสมาคมให้ผมออกค่าเดินทาง ที่พักกินอยู่เองทั้งหมด ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มมีการเริ่มใช้ ทีมคอนแทร็กเลย ผมรับใช้ชาติมากว่า 13 ปี กลับได้รับการกระทำเช่นนี้ ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า เรื่องทุกอย่างคือความจริง ซึ่งผมได้คิดไตร่ตรองถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาก่อนการตัดสินใจครั้งนี้แล้วด้วย”
ขณะที่ ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว MGR Sports ว่า “ผมได้รับทราบการแถลงข่าววันนี้แล้ว พวกเขาทำแบบนี้เท่ากับเป็นการบีบบังคับสมาคม ผมคิดว่าการกระทำแบบนี้มันมากเกินไป ซึ่งผมได้เตรียมที่จะแต่งตั้งทีมสตาฟชุดใหม่ขึ้นมา โดยจะมีการเปิดตัวในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 16.00 น.ที่สมาคมฯ ส่วนนักกีฬาที่ออกมาร่วมแถลงในวันนี้นั้นผมจะเปิดโอกาสให้เปลี่ยนใจอีก 2 วัน หากไม่มีการเข้ามารายงานตัว ไม่ว่าจะเป็น บุญศักดิ์ สุดเขต ทรงพล-กุญชลา รวมถึงนักกีฬารายอื่นๆ ก็จะถือว่าเขาได้ตัดสินใจที่จะลาทีมชาติจริงๆ ตามความตั้งใจของพวกเขาเอง และเราก็มีหน้าที่เฟ้นหานักกีฬารุ่นใหม่ๆเข้ามาแทนที่ตามวัฏจักรไป”