เรอเน เดอซาแยร์ กุนซือชาวเบลเยียมมีความสุขกับผลงานของลูกทีม พร้อมลั่นพา เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ฝ่าด่าน สิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ เข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2010 ให้ได้ ส่วน เล เฮือนห์ ดึก ยอมรับ ดานัง สู้ไม่ได้ทุกกระบวนท่า
ฟุตบอลถ้วยใบใหญ่ระดับสโมสรของทวีปเอเชีย รอบเพลย์ออฟ รอบแรก เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา “กิเลนผยอง” แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 บุกไปถล่ม ดานัง ถึงสนามจี ลัง สเตเดียม 3-0 จากการทำประตูของ ภานุพงศ์ วงศ์ษา, คริสเตียน คัวคู และ จักรพันธ์ แก้วพรหม โดยที่แชมป์วี-ลีกและแชมป์เอฟเอ คัพ ของเวียดนามมีผู้เล่นถูกไล่ออกถึง 2 คนด้วยคือ ตรัน วาน ฮอก และ โรเจอริโอ มาชาโด
หลังจบเกม เดอซาแยร์ พอใจผลงานนักเตะเมืองทองฯ อย่างมากก่อนให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้เราเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งทีม นี่เป็นผลการแข่งขันที่ทำให้ผมมีความสุขมาก แม้ ดานัง จะเน้นเล่นดุดัน แต่เราก็มีสมาธิกับการเล่นฟุตบอลมากกว่า”
เรอเน กล่าวต่อไปถึงคู่แข่งที่ต้องออกไปเยือนในรอบเพลย์ออฟ โซนตะวันออก รอบสุดท้าย วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้อย่าง สิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ แชมป์เอส-ลีก ที่ชนะ ศรีวิจายา จากอินโดนีเซียมาเมื่อวาน 3-0 เช่นกันว่า “พวกเขาเป็นทีมที่ดี แต่เราจะพยายามผ่านไปให้ได้เพื่อคว้าสิทธิ์ในการเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งหากได้ไปอยู่ตรงนั้น เราก็จะพบกับทีมชั้นนำจากญี่ปุ่น (กัมบะ โอซากา), จีน (เหอหนาน เจี๋ยนอี้) และเกาหลีใต้ (ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์) ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้เล่นของเราที่จะได้รับประสบการณ์อันล้ำค่าต่อไป”
ส่วน เล เฮือนห์ ดึก อดีตศูนย์หน้าทีมชาติเวียดนามซึ่งรับบทเฮดโค้ชของ ดานัง ยอมรับความพ่ายแพ้ว่า “เราสู้เมืองทองฯ ไม่ได้เลยจริงๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขาด อัลเมดา เอมิดิโอ กองหน้าชาวบราซิลที่ไม่สมบูรณ์ และผู้เล่นส่วนหนึ่งก็เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน ทำให้สมดุลของทีมไม่ลงตัวเท่าที่ควร นอกจากนั้น นักเตะต่างชาติของ เมืองทองฯ (คริสเตียน คัวคู, ซูมาโฮโร ยายา และ มุสซา ซิลลา) ล้วนมีฝีเท้าดีกันทุกคน ซึ่งทำให้เกิดความแตกต่างขึ้นในเกม”