ตามกิเลนผยองท่องดานัง (1) / ชัชวาล กมลไมตรีจิตต์
“กว่าจะถึงดานัง”
ก่อนที่ผมจะเหินฟ้าจากเมืองไทยมายังเวียดนามคราวนี้ เพื่อติดตามผลบอลถ้วยใบใหญ่ระดับทวีปเอเชีย “เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2010” ของ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ที่มาเตะเพลย์ออฟ รอบแรก โซนตะวันออก ในฐานะแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ซึ่งจะดวลแข้งกับ ดานัง แชมป์วี-ลีกปีล่าสุดในวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคมนี้ ก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีเกี่ยวกับเรื่องการเดินทาง เนื่องจากมีข่าวออกมาว่ากว่าทัพนักเตะกิเลนผยองจะยกพลถึง “เมืองดานัง” อันเป็นจุดหมายปลายทางต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดหัวค่ำเลยทีเดียว จนทำให้โปรแกรมฝึกซ้อมวันแรกทำได้เพียงแค่การวิ่งบนทรายริมชายหาด เพื่อพัฒนาสปีดต้นและกำลังขาเท่านั้น
กระทั่งถึงคิวตัวเองต้องเหินฟ้ามายังถิ่นญวนบ้าง โดยเวลานัดรวมพลที่สนามบินสุวรรณภูมิสำหรับสื่อมวลชนที่จะตามไปเกาะกระแสด้วย คือ 11.30 น. และกำหนดการที่นกเหล็กสายการบินแอร์ ฟรานซ์ เที่ยวบิน AF 164 จะร่อนขึ้นจากรันเวย์ถูกวางเอาไว้ 13.55 น. ซึ่งถึงตรงนี้ยังไม่ซีเรียสมากนัก (เพราะรู้ล่วงหน้ามาก่อน) ทว่าทันทีที่มีการแจ้งภายหลังเช็กอินว่าคณะผู้สื่อข่าวจะต้องใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงไปลงที่ “โฮจิมินห์” ก่อน แล้วต้องรอที่นั่นอีก 4 ชั่วโมงจึงจะได้เวลานั่งเครื่องต่อไปจนถึงสนามบินดานังในเวลาประมาณ 20.10 น. จึงได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าความทุลักทุเลที่บรรดาผู้เล่นเจอมาก่อนมันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง
เมื่อทราบกำหนดการคร่าวๆ แล้ว ผมก็พยายามไม่คิดอะไรมากและหวังว่าจะไม่มีปัญหาอื่นอีก แต่ดูเหมือนคำกล่าวที่ว่า “เกลียดอะไรย่อมได้อย่างนั้น” จะเป็นเรื่องจริง โดยในระหว่างต่อแถวอันยาวเหยียด รอเช็กอินในส่วนของเที่ยวบินภายในประเทศเวียดนามเพื่อต่อเครื่องจาก โฮจิมินห์ ไป ดานัง เจ้าหน้าที่คุมแถวบอกว่าห้ามรวมพาสปอร์ตมาเช็กอินเป็นกลุ่ม ต้องเข้าคิวทีละคน ส่งผลให้ความสับสนเริ่มขึ้นจากตรงนี้เอง
เพราะหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่เช็กอินก็ไม่ให้ผ่าน เนื่องจากไม่มีตั๋วของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ที่จะโดยสารไปต่อติดตัว ร้อนถึง “พี่เหรียญ” ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ เมืองทองฯ ซึ่งเป็นผู้ดูแลทริปนี้ต้องเข้าไปเคลียร์โดยด่วนในทุกแถวที่มีผู้สื่อข่าวต่อคิวว่ามันรวมอยู่ในแพ็กเกจของสายการบินแอร์ฟรานซ์แล้ว กระทั่งทุกคนผ่านการเช็กอินในที่สุด ซึ่งหากไม่ถูกจับแยกกลุ่มเหตุการณ์นี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหายังไม่ยุติลงเพียงเท่านี้และก็มาเกิดกับผมแบบเฉพาะเจาะจงเสียด้วยในขั้นตอนการออกบอร์ดดิงพาส ซึ่งเจ้าหน้าที่พิมพ์นามสกุลผมเป็นภาษาอังกฤษเกินมา 1 ตัวอักษร เมื่อนำไปตรวจครั้งแรกก็จะไม่ยอมให้ผ่านอีกเพราะนามสกุลไม่ตรงกับในพาสปอร์ต ผมจึงต้องอธิบายว่าในบอร์ดดิงพาสมันพิมพ์ออกมาผิด สุดท้ายเขาก็ไปเช็กอีกครั้งจนเข้าใจและอนุญาตให้ผมผ่านการเช็กอินจนได้ เรียกว่าต้องลุ้นระทึกแทบทุกขั้นตอนบนเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ดานัง
ภายหลังจากเข้าสู่ที่พักในเวลา 21.00 น. ก็ได้ทราบถึงสาเหตุที่ต้องใช้เวลาค่อนวันในการเดินทางว่าแม้ ดานัง จะมีสนามบินนานาชาติ แต่เที่ยวบินจากกรุงเทพฯ มายังเมืองแถบตอนกลางแดนเหงียนโดยตรงไม่ได้รับความนิยม ทำให้ปัจจุบันเส้นทางสายนี้ถูกยกเลิกไปโดยปริยาย อีกทั้งเที่ยวบินจาก โฮจิมินห์ มายัง ดานัง ก็มีน้อยด้วย ปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่าวันนี้ไปไม่ทันช่วงฝึกซ้อมหรืองานแถลงข่าว เพื่อเก็บบรรยากาศมาฝากแฟนๆ MGR Sport ได้ เพราะกว่าจะมาถึงเหล่าทีมงานเมืองทองฯ ก็แยกย้ายกันไปพักตามอัธยาศัยเรียบร้อยแล้ว
แต่วันอาทิตย์นี้ท่านสามารถติดตามการรายงานผลของขุนพลกิเลนจากขอบสนามและบทสัมภาษณ์หลังเกมได้เหมือนเช่นเคย รวมถึงคอลัมน์เฉพาะกิจนี้ก็จะมาพบกับท่านผู้อ่านกันอีก 1 ตอน ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดในตอนนี้ “สิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ” คือคู่แข่งที่รอพบ เมืองทองฯ ในเกมเพลย์ออฟ รอบสุดท้าย โซนตะวันออก หลังยอดทีมเมืองลอดช่องเปิดบ้านถล่ม “ศรีวิจายา” สโมสรจากอินโดนีเซียขาดลอย 3-0