คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
เกือบจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ทีมอันดับ 1 และ 2 เข้าไปเผชิญหน้ากันในรอบชิงแชมป์สายของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) โดย นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส กับ มินเนโซตา ไวกิงส์ มาตามนัดเจอกันทางฝั่งเอ็นเอฟซี (NFC) ทว่า ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส ดันไม่ยอมไปปะ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส
ฟ้าแทบผ่ากลางสนามควอลคอม สเตเดียม เมื่อ ชาร์จเจอร์ส ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยไป ไม่สามารถทิ้งห่าง 2 สกอร์ได้ ทำให้ นิวยอร์ก เจ็ตส์ สวมรองเท้าแก้วของ “ซินเดอเรลลา” คว้าตั๋วไปงานเลี้ยงชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC) ที่ลูคัส ออยล์ สเตเดียม บ้านของโคลต์ส สุดสัปดาห์นี้
ก่อนปะทะฝีมือกัน จิม คัลด์เวลล์ หัวหน้าโค้ช “เกือกม้า” โคลต์ส คงเห็นแล้วว่าหากปล่อยให้ เจ็ตส์ ใช้ “เกมรับ” อันดับ 1 ของลีกยื้อเอาไว้อาจจะตามรอยช้ำชาร์จเจอร์ส ดังนั้นเมื่อมีโอกาส เพย์ตัน แมนนิง ควอเตอร์แบ็กอัจฉริยะควรกระจายบอลให้บรรดาปีกมือฉมัง เรจจี เวย์น, ดัลลัส คลาร์ก หรือ ปิแอร์ การ์กอน รับสกอร์โดยด่วน เพื่อตัด “เกมวิ่ง” อันดับ 1 ของลีกให้เร็วที่สุด แต่เจ้าถิ่นเจองานท้าทาย เพราะเจ็ตส์ อนุญาตให้คู่แข่งขว้างใส่เฉลี่ยเกมหนึ่งแค่ 153.7 หลา สถิตินี้ ฟิลิป ริเวอร์ส จอมทัพชาร์จเจอร์ส รู้ซึ้งมากับตัว
สำหรับเกมชิงแชมป์สาย AFC คอคนชนคนจะได้เห็นการเปิดเกมบุกแบบคนละขั้ว โคลต์ส เน้นให้ แมนนิง ขว้าง-บอมบ์-ขว้าง-บอมบ์ โจเซป แอดดาย คงวิ่งอะไรไม่ได้มากตามเคย ส่วนเจ็ตส์ แม้เชื่อในฝีมือ มาร์ค ซานเชซ แต่ เร็กซ์ ไรอัน คงใช้ ชอน กรีน กับ โธมัส โจนส์ เป็นหลัก ถ้าเกมนี้เจ้าถิ่นฉีกไม่ขาด มีสิทธิโดนเล่นงานในบั้นปลาย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ทีมเยือนตามหลังเกินหนึ่งสกอร์ ซานเชซ ต้องหันมาขว้างมากขึ้น ประสบการณ์เพียงปีแรกในลีกน่าจะยังไม่เก๋าพอสำหรับพาทีมคัมแบ็ก โดยเฉพาะยามต้องเจอกับเต็งจ๋าอย่าง โคลต์ส
ส่วนเกมชิงแชมป์สายฝั่ง NFC บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดเป็นอันขาด การดวลกันของควอเตอร์แบ็กอย่าง เบร็ตต์ ฟาร์ฟ (ไวกิงส์) กับ ดรูว์ บรีส์ (เซ็นต์ส) สุดคลาสสิก ไหนจะได้ดู เอเดรียน พีเทอร์สัน วิ่งแข่งกับ เรจจี บุช ขวัญใจเจ้าถิ่น บรรดาปีกของทั้งสองทีมประชันกัน เกมคงหวือหวามีสีสันน่าดูทีเดียว แต่ถ้าคีย์ไปที่เกมรับต้องให้ ไวกิงส์ เหลือมกว่า จาเรด อัลเลน และ เรย์ เอ็ดเวิร์ดส พร้อมนำขบวนไล่กดดันเร่งแซ็ค บรีส์ เหมือนกับที่ทำกับ โทนี โรโม จนเคลื่อนพล ดัลลัส คาวบอยส์ ไม่ออก เรื่องการทำแต้มของทั้งสองทีมโดดเด่น ดังนั้นปัจจัยเรื่อง “เทิร์นโอเวอร์” อาจเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าใครจะได้ไปต่อในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 44
เกือบจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ทีมอันดับ 1 และ 2 เข้าไปเผชิญหน้ากันในรอบชิงแชมป์สายของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) โดย นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส กับ มินเนโซตา ไวกิงส์ มาตามนัดเจอกันทางฝั่งเอ็นเอฟซี (NFC) ทว่า ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส ดันไม่ยอมไปปะ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส
ฟ้าแทบผ่ากลางสนามควอลคอม สเตเดียม เมื่อ ชาร์จเจอร์ส ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยไป ไม่สามารถทิ้งห่าง 2 สกอร์ได้ ทำให้ นิวยอร์ก เจ็ตส์ สวมรองเท้าแก้วของ “ซินเดอเรลลา” คว้าตั๋วไปงานเลี้ยงชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC) ที่ลูคัส ออยล์ สเตเดียม บ้านของโคลต์ส สุดสัปดาห์นี้
ก่อนปะทะฝีมือกัน จิม คัลด์เวลล์ หัวหน้าโค้ช “เกือกม้า” โคลต์ส คงเห็นแล้วว่าหากปล่อยให้ เจ็ตส์ ใช้ “เกมรับ” อันดับ 1 ของลีกยื้อเอาไว้อาจจะตามรอยช้ำชาร์จเจอร์ส ดังนั้นเมื่อมีโอกาส เพย์ตัน แมนนิง ควอเตอร์แบ็กอัจฉริยะควรกระจายบอลให้บรรดาปีกมือฉมัง เรจจี เวย์น, ดัลลัส คลาร์ก หรือ ปิแอร์ การ์กอน รับสกอร์โดยด่วน เพื่อตัด “เกมวิ่ง” อันดับ 1 ของลีกให้เร็วที่สุด แต่เจ้าถิ่นเจองานท้าทาย เพราะเจ็ตส์ อนุญาตให้คู่แข่งขว้างใส่เฉลี่ยเกมหนึ่งแค่ 153.7 หลา สถิตินี้ ฟิลิป ริเวอร์ส จอมทัพชาร์จเจอร์ส รู้ซึ้งมากับตัว
สำหรับเกมชิงแชมป์สาย AFC คอคนชนคนจะได้เห็นการเปิดเกมบุกแบบคนละขั้ว โคลต์ส เน้นให้ แมนนิง ขว้าง-บอมบ์-ขว้าง-บอมบ์ โจเซป แอดดาย คงวิ่งอะไรไม่ได้มากตามเคย ส่วนเจ็ตส์ แม้เชื่อในฝีมือ มาร์ค ซานเชซ แต่ เร็กซ์ ไรอัน คงใช้ ชอน กรีน กับ โธมัส โจนส์ เป็นหลัก ถ้าเกมนี้เจ้าถิ่นฉีกไม่ขาด มีสิทธิโดนเล่นงานในบั้นปลาย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ทีมเยือนตามหลังเกินหนึ่งสกอร์ ซานเชซ ต้องหันมาขว้างมากขึ้น ประสบการณ์เพียงปีแรกในลีกน่าจะยังไม่เก๋าพอสำหรับพาทีมคัมแบ็ก โดยเฉพาะยามต้องเจอกับเต็งจ๋าอย่าง โคลต์ส
ส่วนเกมชิงแชมป์สายฝั่ง NFC บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดเป็นอันขาด การดวลกันของควอเตอร์แบ็กอย่าง เบร็ตต์ ฟาร์ฟ (ไวกิงส์) กับ ดรูว์ บรีส์ (เซ็นต์ส) สุดคลาสสิก ไหนจะได้ดู เอเดรียน พีเทอร์สัน วิ่งแข่งกับ เรจจี บุช ขวัญใจเจ้าถิ่น บรรดาปีกของทั้งสองทีมประชันกัน เกมคงหวือหวามีสีสันน่าดูทีเดียว แต่ถ้าคีย์ไปที่เกมรับต้องให้ ไวกิงส์ เหลือมกว่า จาเรด อัลเลน และ เรย์ เอ็ดเวิร์ดส พร้อมนำขบวนไล่กดดันเร่งแซ็ค บรีส์ เหมือนกับที่ทำกับ โทนี โรโม จนเคลื่อนพล ดัลลัส คาวบอยส์ ไม่ออก เรื่องการทำแต้มของทั้งสองทีมโดดเด่น ดังนั้นปัจจัยเรื่อง “เทิร์นโอเวอร์” อาจเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าใครจะได้ไปต่อในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 44