เดิร์ก เคาท์ เหมาสองประตูช่วยให้ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-0 ขณะที่ อาร์เซนอล ขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตารางหลังพลิกกลับมาเอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 4-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 20 ม.ค.
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 2-0 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ ยังไม่มีผู้เล่นสำคัญอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เฟร์นานโด ตอร์เรส เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บทำให้เกมนี้ต้องฝากความหวังไว้ที่ เดิร์ก เคาท์ ในแดนหน้า ทางฝั่ง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ของ แฮร์รี เรดแน็ปป์ จัดการส่ง ปีเตอร์ เคราช์ ลงล่าตาข่ายทีมเก่า แต่ ร็อบบี คีน ยังนั่งสำรองไปก่อน
เริ่มครึ่งแรกมา 6 นาที สเปอร์ส มีจังหวะหวาดเสียวก่อน เมื่อ เบล หลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเปิดบอลเข้ากลาง เรนา ปัดบอลออกมาเข้าทาง เดโฟ ได้ตามซ้ำอีกครั้ง แต่ไม่ผ่านตัวนายด่านชาวสเปนซึ่งจังหวะสุดท้ายสามารถตะครุบบอลไว้ได้
แต่นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล สามารถทำประตูออกนำก่อน 1-0 ได้สำเร็จจากการเตะบอลเปิดเกมขึ้นมาจากเขตโทษของ เรนา บอลลอยมาถึง เคาท์ โหม่งเช็ดต่อให้ อาควิลานี ก่อนที่ดาวยิงชาวดัตช์จะได้เอาบอลอีกครั้งแล้วจัดการซัดบริเวณเส้นเขตโทษเสียบโคนเสาเข้าไป
หลังจากนั้นช่วงกลางครึ่งแรกทั้งสองทีมไม่มีโอกาสลุ้นประตูชัดเจนมากนักต้องรอจนเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายเกมจึงมาสนุกตื่นเต้นอีกครั้ง โดยนาที 41 “ไก่เดือยทอง” ได้ฟรีคิกจากระยะประมาณ 30 หลา เบล วางบอลเข้าเขตโทษให้ คิง โหม่งเต็มหัวจน เรนา ต้องออกแรงปัดทิ้ง อย่างไรก็ตามจังหวะก่อนหน้ามีการทำฟาวล์ก่อนเมื่อ คีร์เกียกอส ถูก เคราช์ เบียดล้มลง
เข้าช่วงทดเวลาบาดเจ็บ “หงส์แดง” ได้ลูกเตะมุม ริเอรา เปิดบอลมาให้ เคาท์ ได้โหม่งจังหวะแรก แต่ถูกสกัดออกมาจากหน้าประตู ก่อนที่บอลมาเข้าทาง สเคอร์เทล ตามอัดซ้ำเต็มข้อ บอลเหินข้ามคานไปไกล จากนั้นเป็นโอกาสของทีมเยือน เมื่อ ปาลาซิออส เล่นชิงกับ เจนาส ก่อนไหลต่อให้ โมดริซ หลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ เรนา หลังจากนั้นกรรมการเป่านกหวีดยาวจบครึ่งแรก
เริ่มครึ่งมาไม่ถึงนาที ลิเวอร์พูล เกือบพลาดถูกทีมเยือนตีเสมอจากความผิดพลาดของ คีร์เกียกอส และ เรนา ที่ไม่เข้าใจกันในการส่งบอลคืนหลังจนถูก เดโฟ ฉกบอลไปยิงจนเข้าประตู แต่โชคดีที่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษถูกยกธงล้ำหน้าในจังหวะก่อนหน้านั้นเสียก่อน
เกมมาถึงนาที 51 ลูกทีมของ เบนิเตซ เกือบขยับหนีห่างออกไปจากจังหวะที่ ริเอรา ได้โหม่งจากลูกเปิดของ เดเกน ทางริมเส้นด้านขวา แต่โชคร้ายบอลไปชนคานพลาดโอกาสไป ถัดมาอีก 3 นาที เดโฟ เก็บบอลได้ในเขตโทษ ก่อนไหลย้อนกลับมาให้ โมดริซ ซัดด้วยขวา บอลตรงตัว เรนา รับได้ไม่มีปัญหา
“ไก่เดือยทอง” พลาดโอกาสตีเสมออีกครั้งในนาที 57 จากจังหวะที่ ปาลาซิออส จ่ายบอลยัดเข้าไปในเขตโทษให้ เดโฟ ซึ่งแตะบอลเร็วย้อนกลับมาให้ เจนาส วิ่งมาวอลเลย์ด้วยขวาเต็มๆ แต่ เรนา โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกหลังไปได้
ทั้งสองทีมทำเกมกันได้อย่างสูสี จนมาถึงนาที 71 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสทองอีกครั้งจากลูกฟรีคิกบริเวณริมเส้นด้านซ้าย ริเอรา วางบอลเข้าเขตโทษ คาร์ราเกอร์ โหม่งเช็ดต่อไปทางเสาสองให้ เคาท์ ตะบันด้วยขวา แต่บอลเหินข้ามคานออกไปไกล
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย “หงส์แดง” เกือบทำประตูออกนำถึง 2 ครั้งจากจังหวะที่ ดาวิด เอ็นกอก ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามได้ซัดในเขตโทษ แต่ถูก โกเมซ ปัดทิ้งออกไป ก่อนที่ เดเกน จะเปิดบอลจากทางด้านขวาให้ เอ็นกอก โหม่งเช็ดต่อให้ เคาท์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดีดบอลหน้าปากประตู แต่บอลเหินข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เจ้าถิ่นทำเกมบุกอย่างหนักในช่วงท้าย มาถึงนาที 88 คีร์เกียกอส ซึ่งเติมเกมขึ้นมาลุ้นทำประตูหลุดกับดักล้ำหน้าจนได้วอลเลย์ด้วยขวาในเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ โกเมซ ปัดทิ้งออกไป กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูล มาได้ลูกจุดโทษเมื่อ เอ็นกอก ถูก เซบาสเตียน บาสซง เสียบล้มลง ก่อนที่ เคาท์ แม้จะต้องยิงถึงสองครั้ง แต่ไม่พลาดให้เจ้าบ้านหนีห่าง 2-0 พร้อมจบเกมไปด้วยสกอร์ข้างต้น
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ อาร์เซนอล ขยับขึ้นมารั้งจ่าฝูงของตาราง หลังจากพลิกกลับมาเอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอส์ 4-2 โดยทีมเยือนทำประตูนำห่าง 2 ลูกก่อนจาก แกรี เคฮิลล์ และ แมทธิว เทย์เลอร์ แต่ “ปืนโต” มายิงคืน 4 ประตูรวดจาก โทมัส โรซิคกี, เชส ฟาเบรกาส, โธมัส แฟร์มาเลน และ อังเดร อาร์ชาวิน เจ้าถิ่นเก็บเพิ่มเป็น 48 แต้มเท่ากับ เชลซี แต่ประตูได้เสียดีกว่าจึงขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตารางแทน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, โซติริออส คีร์เกียกอส, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน อินซัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ลูคัส, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, อัลแบร์โต อาควิลานี, อัลเบิร์ต ริเอรา, ฟิลิปป์ เดเกน, เดิร์ก เคาท์
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ : โกเมซ, เลดลีย์ คิง, ไมเคิล ดอว์สัน, แกเร็ธ เบล, เวดรัน ชอว์ลูกา, วิลสัน ปาลาซิออส, เจอร์แมน เจนาส, นิโก ครานชาร์, ลูกา โมดริซ, ปีเตอร์ เคราช์, เจอร์แมน เดโฟ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 2-0 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ ยังไม่มีผู้เล่นสำคัญอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เฟร์นานโด ตอร์เรส เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บทำให้เกมนี้ต้องฝากความหวังไว้ที่ เดิร์ก เคาท์ ในแดนหน้า ทางฝั่ง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ของ แฮร์รี เรดแน็ปป์ จัดการส่ง ปีเตอร์ เคราช์ ลงล่าตาข่ายทีมเก่า แต่ ร็อบบี คีน ยังนั่งสำรองไปก่อน
เริ่มครึ่งแรกมา 6 นาที สเปอร์ส มีจังหวะหวาดเสียวก่อน เมื่อ เบล หลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเปิดบอลเข้ากลาง เรนา ปัดบอลออกมาเข้าทาง เดโฟ ได้ตามซ้ำอีกครั้ง แต่ไม่ผ่านตัวนายด่านชาวสเปนซึ่งจังหวะสุดท้ายสามารถตะครุบบอลไว้ได้
แต่นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล สามารถทำประตูออกนำก่อน 1-0 ได้สำเร็จจากการเตะบอลเปิดเกมขึ้นมาจากเขตโทษของ เรนา บอลลอยมาถึง เคาท์ โหม่งเช็ดต่อให้ อาควิลานี ก่อนที่ดาวยิงชาวดัตช์จะได้เอาบอลอีกครั้งแล้วจัดการซัดบริเวณเส้นเขตโทษเสียบโคนเสาเข้าไป
หลังจากนั้นช่วงกลางครึ่งแรกทั้งสองทีมไม่มีโอกาสลุ้นประตูชัดเจนมากนักต้องรอจนเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายเกมจึงมาสนุกตื่นเต้นอีกครั้ง โดยนาที 41 “ไก่เดือยทอง” ได้ฟรีคิกจากระยะประมาณ 30 หลา เบล วางบอลเข้าเขตโทษให้ คิง โหม่งเต็มหัวจน เรนา ต้องออกแรงปัดทิ้ง อย่างไรก็ตามจังหวะก่อนหน้ามีการทำฟาวล์ก่อนเมื่อ คีร์เกียกอส ถูก เคราช์ เบียดล้มลง
เข้าช่วงทดเวลาบาดเจ็บ “หงส์แดง” ได้ลูกเตะมุม ริเอรา เปิดบอลมาให้ เคาท์ ได้โหม่งจังหวะแรก แต่ถูกสกัดออกมาจากหน้าประตู ก่อนที่บอลมาเข้าทาง สเคอร์เทล ตามอัดซ้ำเต็มข้อ บอลเหินข้ามคานไปไกล จากนั้นเป็นโอกาสของทีมเยือน เมื่อ ปาลาซิออส เล่นชิงกับ เจนาส ก่อนไหลต่อให้ โมดริซ หลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ เรนา หลังจากนั้นกรรมการเป่านกหวีดยาวจบครึ่งแรก
เริ่มครึ่งมาไม่ถึงนาที ลิเวอร์พูล เกือบพลาดถูกทีมเยือนตีเสมอจากความผิดพลาดของ คีร์เกียกอส และ เรนา ที่ไม่เข้าใจกันในการส่งบอลคืนหลังจนถูก เดโฟ ฉกบอลไปยิงจนเข้าประตู แต่โชคดีที่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษถูกยกธงล้ำหน้าในจังหวะก่อนหน้านั้นเสียก่อน
เกมมาถึงนาที 51 ลูกทีมของ เบนิเตซ เกือบขยับหนีห่างออกไปจากจังหวะที่ ริเอรา ได้โหม่งจากลูกเปิดของ เดเกน ทางริมเส้นด้านขวา แต่โชคร้ายบอลไปชนคานพลาดโอกาสไป ถัดมาอีก 3 นาที เดโฟ เก็บบอลได้ในเขตโทษ ก่อนไหลย้อนกลับมาให้ โมดริซ ซัดด้วยขวา บอลตรงตัว เรนา รับได้ไม่มีปัญหา
“ไก่เดือยทอง” พลาดโอกาสตีเสมออีกครั้งในนาที 57 จากจังหวะที่ ปาลาซิออส จ่ายบอลยัดเข้าไปในเขตโทษให้ เดโฟ ซึ่งแตะบอลเร็วย้อนกลับมาให้ เจนาส วิ่งมาวอลเลย์ด้วยขวาเต็มๆ แต่ เรนา โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกหลังไปได้
ทั้งสองทีมทำเกมกันได้อย่างสูสี จนมาถึงนาที 71 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสทองอีกครั้งจากลูกฟรีคิกบริเวณริมเส้นด้านซ้าย ริเอรา วางบอลเข้าเขตโทษ คาร์ราเกอร์ โหม่งเช็ดต่อไปทางเสาสองให้ เคาท์ ตะบันด้วยขวา แต่บอลเหินข้ามคานออกไปไกล
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย “หงส์แดง” เกือบทำประตูออกนำถึง 2 ครั้งจากจังหวะที่ ดาวิด เอ็นกอก ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามได้ซัดในเขตโทษ แต่ถูก โกเมซ ปัดทิ้งออกไป ก่อนที่ เดเกน จะเปิดบอลจากทางด้านขวาให้ เอ็นกอก โหม่งเช็ดต่อให้ เคาท์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดีดบอลหน้าปากประตู แต่บอลเหินข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เจ้าถิ่นทำเกมบุกอย่างหนักในช่วงท้าย มาถึงนาที 88 คีร์เกียกอส ซึ่งเติมเกมขึ้นมาลุ้นทำประตูหลุดกับดักล้ำหน้าจนได้วอลเลย์ด้วยขวาในเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ โกเมซ ปัดทิ้งออกไป กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูล มาได้ลูกจุดโทษเมื่อ เอ็นกอก ถูก เซบาสเตียน บาสซง เสียบล้มลง ก่อนที่ เคาท์ แม้จะต้องยิงถึงสองครั้ง แต่ไม่พลาดให้เจ้าบ้านหนีห่าง 2-0 พร้อมจบเกมไปด้วยสกอร์ข้างต้น
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ อาร์เซนอล ขยับขึ้นมารั้งจ่าฝูงของตาราง หลังจากพลิกกลับมาเอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอส์ 4-2 โดยทีมเยือนทำประตูนำห่าง 2 ลูกก่อนจาก แกรี เคฮิลล์ และ แมทธิว เทย์เลอร์ แต่ “ปืนโต” มายิงคืน 4 ประตูรวดจาก โทมัส โรซิคกี, เชส ฟาเบรกาส, โธมัส แฟร์มาเลน และ อังเดร อาร์ชาวิน เจ้าถิ่นเก็บเพิ่มเป็น 48 แต้มเท่ากับ เชลซี แต่ประตูได้เสียดีกว่าจึงขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตารางแทน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, โซติริออส คีร์เกียกอส, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน อินซัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ลูคัส, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, อัลแบร์โต อาควิลานี, อัลเบิร์ต ริเอรา, ฟิลิปป์ เดเกน, เดิร์ก เคาท์
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ : โกเมซ, เลดลีย์ คิง, ไมเคิล ดอว์สัน, แกเร็ธ เบล, เวดรัน ชอว์ลูกา, วิลสัน ปาลาซิออส, เจอร์แมน เจนาส, นิโก ครานชาร์, ลูกา โมดริซ, ปีเตอร์ เคราช์, เจอร์แมน เดโฟ