ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ วีแกน 2-1 จากการพังประตูของ ดาวิด เอ็นก็อก และ เฟนานโด ตอร์เรส ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 16 ธันวาคม ขณะที่เชลซี เฉือน ปอร์ทสมัธไป 2-1 เช่นกัน ส่วน อาร์เซนอล ทำได้แค่เสมอ เบิร์นลีย์ 1-1
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 2-1 วีแกน
เกมนี้ นับเป็นเกมที่กดดันสำหรับ ลิเวอร์พูล ภายหลังที่ชนะคู่แข่งไม่ได้มาติดต่อกันแล้วถึง 3 เกม ทำให้นัดนี้กุนซือเก้าอี้ร้อนอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องเน้นผลการแข่งขันกับลูกทีมแบบสุด ๆ เกมนี้ตัดสินใจยังไม่ส่ง ตอร์เรส ลงสนาม วาง เดิร์ก เค้าท์ ลงประสานงานในแดนหน้าคู่กับ เอ็นก็อก ขณะเดียวกันระยะหลัง วีแกน ยังเล่นแบบมีช่องโหว่ โดยเฉพาะแนวรับที่พร้อมจะโดนเจาะตาข่ายทุกเวลา นำทีมมาโดย ไตตัส บรัมเบิล และ คริส เคิร์กแลนด์
เริ่มเสียงนกหวีดแรก "หงส์แดง" ลงสนามกระพือปีก บุกเข้าใส่ทันทีโดยในนาทีที่ 3 เป็นฝ่ายทักทายก่อน จากการยิงไกลบริเวณนอกกรอบเขตโทษด้วยซ้าย ของดาเนียล แอ็กเกอร์ แต่บอลเหินโด่งข้ามคานไปไกล นาทีที่ 9 ลิเวอร์พูล มาออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จาก จังหวะที่ ออเรลิโอ เปิดบอลด้วยซ้ายจากทางกราบขวา ให้ เอ็นก็อก โฉบโหม่งตัดหน้า เคิร์กแลนด์ เข้าไปตุงตาข่าย
นาทีที่ 15 ลิเวอร์พูล มีโอกาสบวกสกอร์เพิ่ม โดยเเป็นการฉวยโอกาสทุ่มเร็วของ เบนนายูน ให้เอ็นก็อก หลุดไปเปิดเข้ากลางให้เคาท์ ตะบันเต็มข้อด้วยขวาแต่ เคิร์กแลนด์ ยังปัดทิ้งออกไปได้ทัน นาทีที่ 27 วีแกน มีโอกาสตอบโต้บ้างจากการยิงไกลของฆอร์ดี้ โกเมซแต่ดันยิงไปตรงตัวเรนา เกมดำเนินไปดูเนือยๆ มาลุ้นเอาในช่วงท้าย โดยเอ็นก็อก มีโอกาสพังประตูที่สองได้ จากการจ่ายแฉล็บของ ออเรลิโอ แต่หอกเมืองน้ำหอมกดเสาสองออกไป ก่อนหมด 45 นาทีแรก หงส์แดง ยังนำอยู่ 1 -0
เริ่มครึ่งเวลาหลัง ลิเวอร์พูล เปิดฉากบุกก่อน ในนาทีที่ 50 เค้าท์ มีโอกาส ซัดติดเซฟของ เคิร์กแลนด์ จากจังหวะที่ เอ็นก็อกจ่ายให้บริเวณกรอบเขตโทษอย่างสวยงาม นาทีที่ 56 เค้าท์ มีโอกาสหลุดไปทางกราบขวา ก่อนจะเปิดให้เอ็นก็อก แต่ เอเมอร์สัน บอยซ์ ตามเคลียร์ไว้ได้ทัน 10 นาทีต่อมา เดอะ ค็อปได้เฮกันดังลั่น เมื่อราฟาเอล เบนิเตซ ตัดสินใจเปลี่ยนเอา เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงมาแทน เอ็นก็อก
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย หงส์แดงยัง ครองบอลได้มากกว่าหวังบวกประตูเพิ่ม นาทีที่ 74 วีแกนมาพลาดตีเสมออย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ เจสัน สก็อตแลนด์ ได้บอลเก็บตกหน้าปากประตูคนเดียวโล่งๆ แต่ดันซัดชนคานออกไป นาทีที่ 79 เดอะ ค็อป เฮกันดังลั่นอีก เห็นทีมรักขึ้นนำ 2-0 เมื่อ ตอร์เรส ได้บอลหลุดเเดี่ยวจากจังหวะสกัดพลาดของแผงหลัง วีแกน ก่อนโชว์ความนิ่ง ล็อกหลบ เคิร์กแลนด์ ก่อน ล็อกหลบ บรัมเบิล ที่มายืนคุมเส้น อีกหนึ่งจังหวะ แล้วจึงจิ้มบอลเข้าไปอย่างเหนือชั้น โดยเป็นประตูที่ 11 ของเจ้าตัวแล้ว
เกมดำเนินไปทำท่าว่าจะจบอยู่แล้ว แต่วีแกน มาทำประตูไล่ตีตื้นเป็น 2-1 จนได้จากการยิงบริเวณกรอบเขตโทษของ เอ็นซ็อกเบีย ก่อน จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เก็บ 3 คะแนน ขึ้นไปรั้งอันดับที่ 6 ของตาราง แต่ยังห่างจากอันดับ 4 อย่างแอสตันวิลลา อยู่ 5 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนี่ยล แอ๊กเกอร์, เอ็มมิไลโน อินซัว ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเบียร์ มาสเคราโน่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด , ยอสซี่ เบนายูน, เดิร์ค เค้าท์, ดาวิด เอ็นก็อก
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์, มาริโอ เมลคิอ็อต, อีเมอร์สัน บอยซ์, ไตตัส บรัมเบิล, เมย์นอร์ ฟิเกรัว, พอล ชาร์เนอร์, อองรี โธมัส, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, ฆอร์ดี้ โกเมซ, ชาร์ล เอ็นซ็อกเบีย,ฮูโก้ โรดาเยก้า
สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก
เบิร์นลี่ย์ 1-1 อาร์เซน่อล [0-1 ฟาเบรกาส น.7] [1-1 อเล็กซานเดอร์ (จุดโทษ)น.28]
เชลซี 2-1 ปอร์ทสมัธ [1-0 อเนลกา น.23] [1-1 ปิกิออน น.51] [2-1 แลมพาร์ด(จุดโทษ)น.79]
ลิเวอร์พูล 2-1 วีแกน [1-0 เอ็นก็อก น.9] [2-0 ตอร์เรส น.79] [2-1 เอ็น'ซอกเบีย น..90]
สเปอร์ส 3-0 แมนฯซิตี [1-0 ครานชาร์ น.37] [2-0 เดโฟ น.54] [3-0 ครานชาร์ น.90]
