ASTV ผู้จัดการรายวัน - ผ่านพ้นไป 1 ใน 3 ของฤดูกาลขับเคี่ยวแย่งแชมป์ พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เริ่มเห็นเค้าลางแล้วว่าใครหมู่ใครจ่า โดยเฉพาะการแย่งโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ที่ดูเหมือนจะทวีเข้มข้นทะลักจุดแตกกว่าทุกปีที่ผ่านมา ในวันพุธที่ 16 ธันวาคมนี้มีเกมคู่ที่น่าสนใจของ 2 ทีมที่คาดหมายว่าจะพุ่งขึ้นมาสอดแทรก "บิ๊กโฟร์" ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ จะเปิด ไวท์ ฮาร์ท เลน รับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี เหมือนเป็นบทพิสูจน์ว่าใครกันแน่ที่จะเป็นตัวจริง
ด้วยผลงานของ "รองแชมป์เก่า" ลิเวอร์พูล ที่รูดลงไปรั้งอันดับ 7 ทำให้ดูเหมือนว่าตั๋วใบสุดท้ายสำหรับลุยศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าจะเปิดกว้างต้อนรับทีมอย่าง แอสตัน วิลลา, สเปอร์ส และ แมนฯซิตี ที่มีสิทธิ์คว้าไปครองหากจบด้วยที่ 4 ของตาราง ซึ่งทุกทีมได้รับการยกย่องว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะตามรอย เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นทีมนอก "บิ๊กโฟร์" ที่ทำสำเร็จในฤดูกาล 2004-05 โดยโกยไป 61 แต้ม อย่างไรก็ตามอยู่ที่ความคงเส้นคงวาว่าจะยืนระยะจนจบฤดูกาลได้หรือไม่
เวลานี้ สเปอร์ส รั้งอันดับ 5 มี 27 คะแนน ตามหลัง วิลลา 2 แต้มจากการลงสนามเท่ากัน 16 นัด ส่วน แมนฯซิตี รั้งที่ 6 มี 26 คะแนนแถมแข่งน้อยกว่า 1 นัด ที่ผ่านมาผลงานของทั้งคู่ยังไม่ประทับใจเท่าที่ควร "ไก่เดือยทอง" แพ้คารังต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 0-1 ทำให้ 3 นัดหลังยังไม่ชนะ ส่วน "เรือใบสีฟ้า" 9 นัดหลังสุดเสมอไปถึง 8 นัด
สำหรับเกมนี้ สเปอร์ส อาจจะส่ง ลูกา โมดริช จอมทัพเลือดโครแอต ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง หลังจากกระดูกน่องหักตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนจะกลับมาเคาะสนิมลงเป็นตัวสำรองครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเกมแพ้ วูล์ฟฯ ส่วนตำแหน่งอื่น แฮร์รี เรดแน็ปป์ กุนซือฝูง "ไก่" ยังยึดตัวเดิมๆ มีเพียงแดนหน้าที่ยังไม่ลงตัวกับคู่ขาของ เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงที่ซัดไปแล้ว 12 ประตู น่าจะได้คู่กับ ปีเตอร์ เคราช์ หอกก้านยาวทีมชาติอังกฤษ หลังจาก ร็อบบี คีน ฟอร์มฝืดในนัดล่าสุด
ทีมเยือน แมนฯซิตี กลายเป็นทีมที่แพ้น้อยที่สุดในลีกเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น แต่ปัญหาที่ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ยังแล่นไม่ฉิ่วก็คือเกมรับที่เสียประตูเป็นว่าเล่น 5 นัดหลังโดนถลุงไปถึง 10 ประตู เพราะหากต้องการจะเขย่า พรีเมียร์ชิป จริงๆ คงจะต้องแก้ปัญหาแบ็กโฟร์ เนื่องจากการเสียประตูเยอะทำให้ลูกได้เสียบวกน้อยที่สุดในบรรดาหัวแถวด้วยกัน
เกมนี้ มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ แมนฯซิตี หมดสิทธิ์ใช้งาน เคร็ก เบลลามี แนวรุกจรวดทางเรียบที่ติดโทษแบนจากโดนใบแดงในเกมเสมอ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 3-3 รวมถึง ไนเจล เดอ ยอง ติดเชื้อไวรัส และ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ บาดเจ็บ แต่จะนำทัพโดย คาร์ลอส เตเบซ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง 3 นัดหลังสุดรวมทุกรายการถลุงไป 4 ประตู
ถือเป็นมวยถูกคู่เจอกันถูกที่ถูกเวลา แต่ สเปอร์ส มีความสมดุลของทีมที่ดีกว่าทั้งรับและรุก แถมสถิติการเล่นในรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน เอาชนะด้วยสกอร์ 2-1 มา 5 ฤดูกาลติดต่อกันเข้าให้แล้ว อย่างไรก็ตามรูปโฉมทีม แมนฯซิตี เปลี่ยนไปมากในปีนี้ แถมข้อดีคือทีมที่เล่นเกมรุกแบบไม่ค่อยคิดมากบุกกันแบบลืมหลังบ้านไม่ว่าจะเล่นในรังหรือไปเยือน ส่วนเจ้าบ้านช่วงหลังชักฝืดพึ่งแค่ เดโฟ เพียงคนเดียว ยืนข้าง "เรือใบสีฟ้า" อาจจะได้ลุ้นมากกว่ามีโอกาสเสมอดีไม่ดีมีสิทธิ์บุกมาเอาชนะด้วยซ้ำ