ASTV ผู้จัดการรายวัน - ตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ปิดทำการตามเวลาท้องถิ่นประเทศอังกฤษ คือ 5 โมงเย็นวันที่ 1 กันยายน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี นอนมากลายเป็นแชมป์นักช็อปทิ้งคู่แข่งอย่างไม่เห็นฝุ่น หลังหว่านเม็ดเงินเกินหลัก 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,600 ล้านบาท) กวาดแข้งระดับพระกาฬเข้ารังมากมาย ต่างกับบรรดา "บิ๊ก โฟร์" เงียบเหงาขยับตัวน้อยนิดเสริมทัพเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ "เดอล็อตต์" (Deloitte) บริษัทการเงินระดับโลก ทำหน้าที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเงินของทีมฟุตบอล แจงยอดหนี้รวม 20 ทีม พรีเมียร์ชิป ปี 2007-08 พุ่งสูงถึง 3.1 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 1.55 แสนล้านบาท) ส่วนค่าเหนื่อยถีบตัวเพิ่มขึ้น 227 ล้านปอนด์ (ประมาณ 11,350 ล้านบาท) คิดเป็น 23 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด 1.2 พันล้านปอนด์ (ราว 6 หมื่นล้านบาท) ด้วยเหตุนี้ทำให้ในช่วงซัมเมอร์ หลายทีมจึงขยับตัวเสริมทัพกันอย่างระมัดระวัง
แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ แมนฯซิตี สโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลกภายใต้การบริหารงานของ ชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน เจ้าของชาว สหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ เมื่อเซ็นเช็คให้กับ มาร์ค ฮิวจ์ส ใช้เสริมทัพ 120 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,720 ล้านบาท) ซื้อนักเตะ 6 คนจากสโมสรคู่แข่งในเวที พรีเมียร์ชิป ทั้ง แกเร็ธ แบร์รี, โรเก ซานตา ครูซ, คาร์ลอส เตเบซ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โคโล ตูเร และ โจลีออน เลสค็อตต์
ส่วนอันดับ 2 ตกเป็น ลิเวอร์พูล ที่มีตัวแดงในบัญชีจนต้องเบิกงบค่าเหนื่อยมาใช้ จ่ายไปถึง 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,240 ล้านบาท) ซื้อนักเตะ 3 คนคือ เกล็น จอห์นสัน, อัลแบร์โต อควิลานี และ โซติริออส เกียร์เจียกอส ทว่าอันดับ 3 อาจจะเป็นการครองตำแหน่งร่วมกันของ ซันเดอร์แลนด์ และ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์
ซันเดอร์แลนด์ สโมสรเล็กใจใหญ่ ที่กระชาก สตีฟ บรูซ มาคุมทัพ ควักเงินไปถึง 32 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,792 ล้านบาท) จากการซื้อ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์, ลี แคทเทอร์โมล, ดาร์เรน เบนท์ และรายล่าสุด ไมเคิล เทอร์เนอร์ กองหลังเนื้อหอมจาก ฮัลล์ ซิตี ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 672 ล้านบาท) ส่วน ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ใช้ไป 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,680 ล้านบาท) ซื้อ ปีเตอร์ เคราช์, เซบาสเซียน บาสซง, ไคล นอจ์ตัน และ ไคล วอคเกอร์ เห็นผลทันตามสำหรับ "ไก่เดือยทอง" เพราะออกสตาร์ทด้วยผลงานสุดหรูชนะ 4 นัดรวด
แต่ก่อนตลาดปิด สเปอร์ส น่าจะได้นักเตะอีก 2 คนคือ มาร์ติน เปตรอฟ ปีกซ้ายจาก แมนฯซิตี และ นิโก ครันชาร์ กองกลางจาก ปอร์ทสมัธ แฮร์รี เรดแน็ปป์ จำเป็นต้องรีบตัดสินใจซื้อเข้ามา เพราะ ลูกา โมดริช เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโครเอเชีย โชคร้ายกระดูกน่องแตกต้องพักยาวร่วม 2 เดือน
อีก 3 ทีม "บิ๊กโฟร์" ไม่ใช่พระเอกในช่วงปิดฤดูกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าย 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,120 ล้านบาท) ซื้อ อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ กาเบรียล โอแบร์กตอง ทั้งที่ขาย คริสเตียโน โรนัลโด ได้เงินถึง 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,480 ล้านบาท), เชลซี 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1 พันล้านบาท) ได้ ยูริ ซีร์คอฟ และ อาร์เซนอล 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 560 ล้านบาท) ซื้อ โทมัส เฟอร์มาเลน และ เบอร์มิงแฮม ซิตี จ่ายไปมากที่สุดในบรรดา "น้องใหม่" ก็คือ 18.5 ล้านปอนด์
ทำให้ แมนฯซิตี กลายเป็นทีมที่น่าจับตามอง เพราะออกตัวชนะ 3 นัดรวด แถมยังไม่ถูกเจาะไข่แดงอีกด้วย มีแววที่จะเดินรอยตาม เชลซี เมื่อฤดูกาล 2003-04 หลังการมาของ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ที่ทุ่มเงินมากกว่า 100 ล้านปอนด์ ให้กับ เคลาดิโอ รานิเอรี เสริมทัพในปีแรก แต่ไร้แชมป์ติดมือ ก่อนจะมาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิป ในปีถัดมาภายใต้การคุมทัพของ โฮเซ มูรินโญ ที่ใช้เงินเสริมทัพไปอีก 89 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,984 ล้านบาท)
ถือเป็นปีที่สุดแสนจะท้าทายและน่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับ "เรือใบสีฟ้า" หากสามารถคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งมาครองได้สำเร็จในบั้นปลายของฤดูกาลนี้ หลายคนที่เคยสบประมาทพวกเขาเอาไว้ว่า "เงิน ไม่สามารถซื้อความสำเร็จ รวมถึงทีมที่ดีที่สุด" คงจะต้องกลืนน้ำลายดังเอือก