ASTVผู้จัดการรายวัน- ศึก พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะได้ฤกษ์เปิดฉากในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ส่อแววยกระดับความเข้มข้นเป็นเท่าตัวเมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี สโมสรที่รวยที่สุดในโลก พร้อมทุ่มเงินแบบไม่อั้นทะลุ 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,500 ล้านบาท) เพื่อตั้งเป้าก้าวไปคว้าแชมป์ลีกสูงสุดให้จงได้ ขนาด โฮเซ มูรินโญ กุนซือระดับเขี้ยวลากดินของวงการ ก็ยังมองว่า "เรือใบสีฟ้า" มีโอกาสสูงไม่น้อยที่จะก้าวไปถึงฝั่งฝันคว้าแชมป์ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1968
ในช่วงซัมเมอร์นี้ แมนฯซิตี หว่านเม็ดเงินราว 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,500 ล้านบาท) คว้ากองหน้าระดับพระกาฬของ พรีเมียร์ชิป มาเสริมทัพถึง 3 คนทั้ง โรเก ซานตา ครูซ ค่าตัว 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 990 ล้านบาท), คาร์ลอส เตเบซ ค่าตัว 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,375 ล้านบาท) และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ค่าตัว 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,375 ล้านบาท) พร้อมกับแพ็คกองกลางให้แน่นด้วยการคว้า แกเร็ธ แบร์รี ดีกรีทีมชาติอังกฤษ อีก 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 660 ล้านบาท)
ถือเป็นการก้าวครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อับ นาห์ยาน มหาเศรษฐีเจ้าของทีมชาวอาหรับ ตั้งความหวังกับ แมนฯซิตี เอาไว้สูงแค่ไหน และยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดแค่นั้น เมื่อ มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือที่พาทีมจบด้วยอันดับ 10 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เตรียมคว้า 2 กองหลัง โคโล ตูเร ของ อาร์เซนอล และ โจลีออน เลสค็อตต์ ของ เอฟเวอร์ตัน มาขันแนวรับให้แน่นเข้าไปอีก หลังทำท่าพลาดหวังจาก จอห์น เทอร์รี่ กัปตันเชลซี ทำให้ยอดบัญชีรายจ่ายจะสะพัดพุ่งเกิน 100 ล้านปอนด์ อย่างแน่นอน
ทำให้สื่อหลายสำนัก บรรดาเกจิ และคนในวงการลูกหนัง ต่างมองว่า แมนฯซิตี มีโอกาสสูงที่จะเขย่าบิ๊กโฟร์รวมถึงตำแหน่งแชมป์หัวมงกุฎให้สั่นสะเทือน เมื่อ "แชมป์เก่า" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสีย 2 นักเตะอาวุธหนักทั้ง คริสเตียโน โรนัลโด และ เตเบซ, ลิเวอร์พูล ได้แค่ เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาทีมชาติมาเสริมทัพแค่คนเดียว, เชลซี ดูจะน่ากลัวที่สุดเมื่อนักเตะตัวเก๋ายังอยู่กันอย่างเป็นกลุ่มก้อนแถมได้ ยูริ ซีร์คอฟ ปีกรัสเซีย มาเสริมทัพ และ อาร์เซนอล ที่เก้าอี้ดูจะสั่นคลอนที่สุด เพราะเสีย อเดบายอร์ ดาวยิงตัวหลักออกไป
มูรินโญ กุนซือ อินเตอร์ มิลาน ที่เคยพา เชลซี ท้าทายอำนาจแย่งแชมป์ พรีเมียร์ชิป 2 สมัยซ้อนมาจาก แมนฯยูไนเต็ด กล่าวว่า "อเดบายอร์ ยืนคู่หน้ากับ เตเบซ ช่างเป็นแนวรุกที่เหลือเชื่อมาก นอกจากนี้ยังมี ซานตา ครูซ และ โรบินโญ แน่นอนอาจจะส่งให้ แมนฯซิตี เป็นแชมป์ก็ได้ นี่ไม่ใช่การซื้อถ้วยรางวัล แต่เป็นการซื้อนักเตะที่คาดว่าจะพาทีมไปถึงฝั่งฝัน อย่างไรก็ตามถึงเวลาต้องพิสูจน์ตัวเองแล้ว เพราะว่ายากไม่น้อยและเงินต่างหากที่ไม่สามารถซื้อโค้ชกับทีมที่ดีที่สุดได้"
เมื่อพิจารณาดูแล้วก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะ แมนฯซิตี เมื่อฤดูกาลที่แล้วซัดไปได้ถึง 58 ประตูเป็นรองเพียงแค่พวก "บิ๊กโฟร์" เท่านั้น ยิ่งได้ ซานตา ครูซ, เตเบซ และ อเดบายอร์ มาแบ่งเบาภาระของ โรบินโญ และ สตีเฟน ไอร์แลนด์ อีก เหลือเพียงแค่แนวรับที่ ฮิวจ์ส ต้องขบคิดอย่างหนักว่าจะได้ใครมาเสริมทัพเพื่อแก้ปัญหาเสียถึง 50 ประตูเมื่อปีที่แล้ว แนวโน้มว่าจะเป็น ตูเร เนื่องจาก อาร์เซนอล เตรียมใช้งานของ โทมัส เวอร์มาเลน กองหลังทีมชาติเบลเยี่ยม ที่ซื้อมาใหม่จับคู่กับ วิลเลียม กัลลาส์ แทน
ส่วน โรบินโญ แนวรุกชาวบราซิเลียน ดาวยิงประจำทีม 14 ลูกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เชื่อว่าหากทีมเสริมทัพอีกน่าจะก้าวไปถึงแชมป์ลีกได้สำเร็จ "อาจจะเป็น ลิโอเนล เมสซี, สตีเวน เจอร์ราร์ด หรือ เดโก ผมไม่รู้ว่าใครจะมาเสริมทัพอีก มันยากจะคาดเดา แต่ปีนี้เราได้นักเตะฝีเท้าดีมาร่วมทีมหลายต่อหลายคน และน่าจะช่วยให้เราคว้าแชมป์ลีกได้ในปีนี้ เราต้องการแชมป์อย่างยิ่ง แต่หากไม่สำเร็จก็พอใจหากได้ตำแหน่ง 1 ใน 4 ของตาราง"
แม้ว่า แมนฯซิตี จะอุ่นเครื่องไม่สวยด้วยการพ่ายต่อ ไกเซอร์ ชีฟส์ 0-1 ปิดท้ายการเหินฟ้ามา แอฟริกาใต้ ในทัวร์นาเมนต์ โวดาคอม ชาลเลนจ์ โดยถือเป็นความปราชัยนัดที่ 2 หลังก่อนหน้านี้ก็แพ้ ออร์แลนโด ไพเรทส์ 0-2 แต่คงไม่สามารถนำมาชี้วัดอะไรได้ อย่างไรก็ตามจากนี้งานหนักอยู่ที่ ฮิวจ์ส ในฐานะกุนซือที่จะผสามผสานนักเตะใหม่และเก่าเข้าด้วยกันเพื่องัดศักยภาพออกมาช่วยทีมให้มากที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นปีสุดท้ายของเขาในถิ่น เดอะ ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ ก็เป็นได้
