จอห์น เทอร์รี กองหลังกัปตันทีม เชลซี ยอมรับเคยคิดย้ายร่วมทัพแมนเชสเตอร์ ซิตี สโมสรร่วมเวที พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ก่อนจะเปลี่ยนใจในท้ายที่สุด เพราะเงินไม่สามารถซื้อความสัมพันธ์อันดีได้ จากการตีข่าวของ “เดอะ ซัน” (THE SUN)
แมนฯ ซิตี ตามล่าตัว เทอร์รี อย่างหนัก ถึงขนาดส่ง มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือเลือดเวลส์ แอบไปเจรจากับนักเตะแบบไม่กลัวผิดกฎในขณะพักผ่อนช่วงปิดซีซันอยู่ที่ประเทศดูไบ อย่างไรก็ตามกองหลังวัย 28 ปี สยบข่าวลือทั้งหลายทั้งปวงด้วยการเดินทางไป สหรัฐฯ เพื่ออุ่นเครื่อง จนพาต้นสังกัดคว้าแชมป์สี่เส้า เวิลด์ ฟุตบอล ชาลเลนจ์ ด้วยชัยชนะ 3 นัดรวด
ล่าสุด เทอร์รี ยืนยันแล้วว่าจะปักหลักอยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไป พร้อมโต้ข่าวที่ว่าใช้กระแส แมนฯซิตี บีบ เชลซี เพื่อให้เสนอค่าเหนื่อยก้อนโตในสัญญาฉบับใหม่ทั้งที่ของเดิมยังเหลืออีกถึง 3 ปี แต่ก็ยอมรับว่าเคยคิดที่จะย้ายร่วมทัพ “เรือใบสีฟ้า” เหมือนกัน
กัปตันทีมชาติอังกฤษ เผยว่า “แน่นอนผมทบทวนเกี่ยวกับทุกสิ่งและภูมิใจมากที่ แมนฯซิตี ให้ความสนใจ แต่เมื่อต้นสังกัดบอกว่าเงินไม่สำคัญและจะไม่ขายคุณออกไป มันเหลือเชื่อมากที่ได้ยินจากเจ้านายและเจ้าของทีม เพราะความสัมพันธ์นั้นไม่สามารถซื้อได้”
“คุณไม่สามารถตั้งราคาของทุกอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นนักเตะคนอื่นรวมถึงสตาฟโค้ช เจ้านาย, เพื่อน และครอบครัว รู้ดีว่าผมจะตัดสินใจอย่างไร ทุกคนรู้ว่าผมรักทีมมากแค่ไหน ดังนั้นการได้คุยกับทุกคนถือเป็นสิ่งที่สำคัญและคุณจะได้คำตอบที่จริงใจที่สุด” เทอร์รี กล่าวในที่สุด