สงสัย “ไทเกอร์” ใช้สารต้องห้าม หมอถูกรวบสอบ

ไทเกอร์ วูดส์ ก้านเหล็กมือ 1 ของโลก ที่ถูกเปลี่ยนฉายาว่าเป็น “พญาเสือกระหายรัก” จากข่าวฉาวคาวโลกีย์ ยังไม่หมดเคราะห์หมดโศก เมื่อมีรายการจากหนังสือพิมพ์ “นิวยอร์ก ไทม์ส” (New York Times) ว่าพัวพันการใช้สารต้องห้ามในวงการกีฬา จากการเยียวยาหัวเข่าให้หายเร็วขึ้นหลังเข้ารับการผ่านตัดเมื่อปี 2008

ไทเกอร์ เข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าซ้าย หลังจากคว้าแชมป์ ยูเอส โอเพน เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2008 ก่อนจะคืนสนามในศึก “แอคเซนเจอร์ แมตช์ เพลย์ แชมเปียนชิป” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 14 รายการ ได้รับการดูแลจาก แอนโธนีย์ กาเลีย นายแพทย์ชาวแคนาดา อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่าถูกควบคุมตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและตั้งข้อสงสัยว่าใช้ยาต้องห้ามกับบรรดานักกีฬา

กาเลีย ถูกตั้งข้อหาสั่งจ่ายยา “แอคโตเวอจิน” (Actovegin) ซึ่งห้ามจำหน่ายในสหรัฐฯ เป็นสารสกัดโปรตีนจากเลือดลูกวัวและได้มีการนำยาชนิดนี้มาใช้เพื่อรักษาอาการข้อเข่าเสื่อม หรืออีกนัยหนึ่งคือสารกระตุ้นเพราะมีสรรพคุณช่วยเยียวยาอาการบาดเจ็บและเพิ่มศักยภาพ ให้กับนักกีฬาทั้งใน อเมริกา และ แคนาดา มาแล้วมากมายหลายคนไม่ว่าจะเป็น ดารา ทอร์เรส นักกีฬาว่ายน้ำ โอลิมปิก, โดโนแวน เบลีย์ นักวิ่ง โอลิมปิก, คริส ซิมม์ส ควอเตอร์แบ็กในศึกเอ็นเอฟแอล รวมถึง ไทเกอร์ นอกจากนี้ยังเคยเป็นแพทย์ประจำทีมโตรอนโต อาร์โกนอตส์ ลีกฟุตบอลอาชีพของแคนาดา

เวลานี้ กาเลีย ได้ถูกเอฟบีไอสอบสวน ซึ่งเจ้าตัวปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะการใช้ยาตัวดังกล่าวกับนักกีฬาถือว่าผิดกฎหมาย แม้ว่าจะมีบัญชีรายชื่อนักกีฬาที่เข้ารับการรักษาอยู่ในคอมพิวเตอร์ แต่ข้อมูลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งทางสหรัฐฯ และแคนดา จึงมีการสั่งให้ตำรวจสอบสวนเชิงลึกถึงนักกีฬาแต่ละคนที่ได้รับตัวยาและอาจจะมีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด การสอบสวนอาจจะสาวไปถึงตัว ไทเกอร์ เพราะไปเข้ารับการเยียวยาหัวเข่าให้หายเร็วขึ้น นายแพทย์ผู้นี้ยังเดินทางไปหาที่บ้านถึง 4 ครั้งในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม

หนังสือพิมพ์ “นิวยอร์ก ไทมส์” ได้ติดต่อไปยัง มาร์ค สไตเบิร์ก ตัวแทนของ ไทเกอร์ แต่ได้ตอบกลับทางอีเมลว่า “อย่าได้รายงานเรื่องดังกล่าวและเชื่อมโยงมาเกี่ยวข้องกับ ไทเกอร์ วูดส์ อย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิสูจน์ เวลานี้ควรปล่อยให้เขาได้หยุดพักจากเรื่องราววุ่นๆ บ้าง”

กาเลีย วัย 50 ปี ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมอเทวดา เพราะใช้การรักษาแบบสเตมเซล ทำให้นักกีฬาฟื้นตัวเร็วขึ้น ทนายความระบุถึงข้อกล่าวหาลูกความตนเองว่า “นายแพทย์ กาเลีย ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาหรือการกระทำที่ต้องห้ามในทางการแพทย์ เป็นไปไม่ได้ที่คุณหมอซึ่งมีชื่อเสียงในระดับแถวหน้าของวงการจะเอาชื่อเสียงของตนเองไปเสี่ยง”