แมนโคตร! เวชระเบียน รพ.เลิดสิน โหดชกลุงวัย 64 ล้มฟาดราวเหล็กสลบเหมือดคาโรงพยาบาล ฉุนถูกถามแฟ้มประวัติคนไข้ เหยื่อเผยเคยมีปากเสียงเพราะพฤติกรรมทรามชอบลักไก่ลัดคิวให้พรรคพวกรักษาก่อน
วานนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. นายพิชัย อรุณไวกิจ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ซอยจรูญพลขันฑ์ แขวงยานนาวา เขตสาทร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อังกูร ศิริปริญญานันท์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ยานนาวา เพื่อแจ้งความว่าถูกเจ้าหน้าที่เวชระเบียนของโรงพยาบาลเลิดสิน ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บในโรงพยาบาลดังกล่าว
นายพิชัยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ตนมีอาการแน่นหน้าอก ปวดหัว เนื่องจากป่วยเป็นโรคหัวใจและความดันสูงอยู่แล้ว จึงเดินทางไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลดังกล่าว โดยแพทย์ก็ตรวจเช็กอาการภายในห้องฉุกเฉิน หลังจากตรวจเสร็จเรียบร้อย แพทย์ก็ได้ให้ยานอนหลับตนมา แต่ไม่ได้ให้ยาคลายเครียดมาด้วย จึงสอบถามว่าทำไมไม่ได้ยาคลายเครียด แพทย์แจ้งว่าไม่ได้อยู่ในอำนาจที่ห้องฉุกเฉินสามารถสั่งจ่ายได้ หากต้องการยาคลายเครียดก็ให้ไปเอาแฟ้มประวัติการรักษาที่แผนกเวชระเบียนมายื่น
นายพิชัยให้การต่อว่า ตนก็เดินไปที่แผนกเวชระเบียนเพื่อที่จะขอแฟ้มประวัติ ก็เจอเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องแฟ้มประวัติจัดคิวคนไข้ เป็นผู้ชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 28 ปี ตนจึงสอบถามเรื่องแฟ้มประวัติตน เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็บอกว่าส่งไปแล้ว ตนจึงเดินกลับไปที่ห้องฉุกเฉิน แต่ทางแพทย์กลับบอกว่าแฟ้มยังมาไม่ถึง เลยเดินกลับไปที่แผนกเวชระเบียนอีกครั้งพร้อมบอกเจ้าหน้าที่คนเดิมว่าแฟ้มยังไปไม่ถึงเลย
“พอผมพูดไปแบบนั้น เขาก็แสดงอาการฉุนเฉียว แล้วตะคอกใส่ผมว่า คุณอยากมีปัญหากับผมเหรอ ผมตอบกลับไปว่าไม่ได้อยากมีปัญหา แต่ผมต้องการรักษาโรคเท่านั้น จากนั้นก็มีปากเสียงกัน ก่อนที่เขาจะเอาเหล็กยาวประมาณ 1 ฟุต ขว้างใส่ผม ต่อหน้าคนไข้หลายๆ คนที่มารอรับการรักษา แต่เหล็กพลาดไปโดนเคาน์เตอร์จ่ายยา เท่านั้นยังไม่พอ เขายังวิ่งมาต่อยผมเข้าที่ขมับซ้ายจนผมล้มไปฟาดกับราวเหล็กจนสลบ พอผมรู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงคนไข้แล้ว ตอนนั้นก็ได้ยินพยาบาลพูดกันว่า “เป็นลมๆ ผมเลยทำทีขอเข้าห้องน้ำ แล้วหนีออกมาโทร.บอกภรรยา ก่อนมาแจ้งความ” นายพิชัยให้การ
นายพิชัยกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยมีปัญหากับเจ้าหน้าที่คนนี้มาแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวชอบเอาบัตรคิวของคนรู้จักไปแซกคนไข้คนอื่นเพื่อลัดคิวให้เป็นประจำ จนตนมีเรื่องเถียงกับเจ้าหน้าที่คนนี้เป็นประจำ จึงกลายเป็นเรื่องระหองระแหงกันเรื่อยมา จนกระทั่งวันนี้มาเจอกันอีกครั้งจึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ด้าน พ.ต.ท.อังกูร กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับแจ้งความลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลที่เกิดเหตุ โดยในวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค.นี้ จะพาตัวผู้เสียหายไปชี้ตัวเจ้าหน้าที่เวชระเบียนคู่กรณี จากนั้นจะเชิญตัวมาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริงก็ดำเนินคดีต่อไป
