ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “แม่หนุ่มวิศวกรไทย” ชาวโคราชสุดดีใจ อุปทูตไทยต่อสายให้คุยกับลูกชายเป็นครั้งแรกหลังถูกกัมพูชาจับตัวไป บอก “แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ทางกัมพูชาดูแลเป็นอย่างดี” แม่ฝากบอก “ให้ลูกรักษาสุขภาพอย่าอ่อนแอ ให้เข้มแข็ง” เผยแม่เครียดต้องกินยานอนหลับทุกวัน ชี้รัฐบาลไทยควรให้ความช่วยเหลือเร็วกว่านี้ ต้องเห็นใจคนติดอยู่ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ พร้อมขอพรย่าโม-สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองลูกชาย ระบุกลับมาคราวนี้ไม่ให้ไปทำงานที่เขมรอีกแล้ว ขณะ กต.รุดพบแม่ที่โคราช เผยอุปทูตไทยต่อสายจากคุกเขมรให้คุยกับแม่
วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.45 น.ที่วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา อุปทูตไทยประจำกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา ได้ติดต่อทางโทรศัพท์มายัง นางสิมารักษ์ ณ นครพนม อายุ 57 ปี ข้าราชการครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้าแผนกวิชาพณิชยการ วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ อายุ 31 ปี ชาว จ.นครราชสีมา วิศวกรประจำหน่ายงานจราจรอากาศกัมพูชา หน่วยจราจรทางอากาศบริษัทควบคุมการบิน บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด (CATS) ในเครือบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัวไป
โดย อุปทูตไทยประจำกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา แจ้งว่า ตอนนี้อยู่กับลูกชายที่กัมพูชา จากนั้นได้ให้นางสิมารักษ์ได้คุยโทรศัพท์กับลูกชาย ซึ่งนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ บอกกับแม่ว่า สบายดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ทางการกัมพูชาดูแลเป็นอย่างดี โดยได้พูดคุยกับแม่ประมาณ 2-3 นาที ก่อนวางสายโทรศัพท์
หลังคุยโทรศัพท์กับลูกชาย นางสิมารักษ์กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้ยินเสียงลูกชาย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้พูดคุยกันหลังจากลูกถูกจับตัวไป แต่ไม่กล้าสอบถามอะไรมากเกรงว่าลูกจะได้รับอันตราย ได้ยินแค่เสียงก็ดีใจแล้ว
นางสิมารักษ์ ณ นครพนม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า ทุกวันนี้เครียดเรื่องลูกมาก ต้องกินยานอนหลับทุกวันเพราะคิดถึงลูก เกรงว่าลูกจะลำบาก หากทางกระทรวงการต่างประเทศจะให้เดินทางไปเยี่ยมลูกที่กัมพูชาก็พร้อมเดินทางไปทันที แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ทำพาสปอร์ต หากได้เห็นหน้าลูกจะดีใจเป็นอย่างมาก สิ่งที่เครียดคงหายไปหมด ขณะนี้มีแต่เพื่อนๆ และญาติพี่น้องที่คอยให้กำลังใจ
แต่หากเดินทางไปเยี่ยมลูกไม่ได้ก็จะฝากคำพูดผ่านเจ้าหน้าที่ถึงลูกว่า ให้ลูกรักษาสุขภาพอย่าอ่อนแอ แม่รู้ว่าลูกเข้มแข็ง ความรู้สึกลึกๆ เราแม่ลูกสื่อถึงกันได้อยู่แล้ว ลูกจะรู้ความรู้สึกของแม่และเป็นห่วงแม่ตลอด ว่าสุขภาพแม่จะแย่ แม่ลูกเรารู้กันสองคนว่าเป็นอะไรรู้สึกอย่างไรอยู่ เวลาแม่ไม่สบายลูกก็จะให้เพื่อนมาดูแล ซื้อข้าวมาเยี่ยมให้แม่
ส่วนเรื่องยารักษาโรคภูมิแพ้หอบหืดของลูกชายนั้นก็คงต้องพึ่งแพทย์จัดให้ ตัวเองคงไม่ได้ฝากกับเจ้าหน้าที่ไป อยากบอกลูกว่าแม่คิดถึง กลับประเทศไทยเราดีกว่า เมื่อได้กลับมาครั้งนี้แล้วหากทำงานที่บริษัทนี้ได้ก็ให้หางานทำที่กรุงเทพฯ ไม่ให้กลับไปกัมพูชาอีกแล้ว เพราะลูกเป็นคนดีมีความสามารถ สมัครงานที่ไหนเขาก็คงจะรับ
นางสิมารักษ์กล่าวอีกว่า ได้ไปขอพรจากคุณย่าโมและสิ่งศักดิ์ให้คุ้มครองลูก และทำบุญบริจาคโลงศพ เพื่อให้ผลบุญกุศลส่งไปยังลูกชายไม่ให้ลำบาก ที่ผ่านมาทุกครั้งที่ลูกชายกลับมาพักผ่อนที่บ้านโคราช จะไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พ่อเขาที่เสียชีวิตไปแล้วตลอด แต่ล่าสุดไม่ได้ไปทำบุญเนื่องจากเพื่อนจากกัมพูชาเดินทางมาเที่ยวด้วย จึงไม่มีเวลาไปทำบุญ
“อยากฝากไปยังรัฐบาลไทยว่า น่าจะมีการดำเนินการช่วยเหลือให้เร็วกว่านี้ ดีกว่านี้ กระตือรือร้นมากกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ทำช้าไป เห็นใจคนที่ต้องทนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ บ้าง” นางสิมารักษ์กล่าว
ต่อมาเวลา 11.45 น. ตัวแทนจากกระทรวงต่างประเทศ นำโดย น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ นายธนพล หวังอ้อมกลาง หัวหน้าฝ่ายอำนวยการกองหนังสือเดินทาง กรมการกงสุล และ นายอัคร์วุฒิ จิตรปฏิมา นักการทูตชำนาญการพิเศษ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเข้าพบ นางสิมารักษ์ ณ นครพนมพร้อมมอบกระเช้าของขวัญเป็นกำลังใจ ที่ห้องประชุมสำนักงานผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา ซึ่งได้พูดคุยกันโดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปร่วมฟังแต่อย่างใด
จากนั้น น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้ (17 พ.ย.) อุปทูตไทยประจำกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ในห้องคุมขังเรือนจำแห่งหนึ่งของประเทศกัมพูชา และได้ต่อสายโทรศัพท์ให้นายศิวรักษ์ได้พูดคุยกับมารดาเป็นครั้งแรกดังกล่าว