อุบลราชธานี - อดีตเด็กกำพร้าชาวไทย ซึ่งพ่อแม่นำไปมอบให้บาทหลวงหาผู้อุปการะชาวต่างชาติ บินลัดฟ้ามาพบพ่อแม่ที่แท้จริงที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยบรรยากาศการพบหน้าครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี ต่างคนต่างร่ำไห้ ก่อนแลกเปลี่ยนรูปถ่าย โดยสาวไทยที่นักธุรกิจเดนมาร์กรับเลี้ยงดูสัญญาจะเดินทางมาเยี่ยมพ่อแม่อีกในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 113 หมู่ที่ 2 บ้านแมด ต.แมด อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ น.ส.ศิริรัตน์ ไกยรัตน์ หรือเน็ต อายุ 19 ปี เด็กกำพร้าที่บาทหลวงวัดโรมันคาทอลิก จ.อุบลราชธานี จัดหาพ่อแม่บุญธรรมชาวเดนมาร์ก เพราะพ่อแม่ชาวไทยมีฐานะยากจนไม่สามารถเลี้ยงดูได้เดินทางมากับเพื่อนชาวเดนมาร์กและล่ามแปลภาษา เพื่อมาพบกับนางแดง ไกยรัตน์ อายุ 40 ปี มารดา หลังจากไม่ได้พบกันตั้งแต่ น.ส.ศิริรัตน์ยังแบเบาะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อแม่ลูกได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกต่างโผเข้ากอดกัน ก่อนเข้าไปร่วมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณีท้องถิ่นของอีสาน ระหว่างหมอพราหมณ์ทำพิธีเรียกขวัญ นางแดงผู้เป็นแม่ได้ร่ำไห้ดวงตาแดงกร่ำอยู่ตลอดเวลา ส่วน น.ส.ศิริรัตน์ ซึ่งไม่เข้าใจภาษาที่หมอพราหมณ์ใช้ จึงเพียงแต่ส่งยิ้มให้กับเพื่อนบ้านที่มาร่วมในพิธี
เมื่อเสร็จพิธีบายศรีสู่ขวัญ ญาติได้จูงแขน น.ส.ศิริรัตน์ ออกจากบ้านนางแดงมาที่บ้านนายสมบัติ ขวัญแก้ว อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ และได้แยกทางกับนางแดงมานานแล้ว เมื่อพ่อลูกได้พบหน้ากันต่างแสดงความยินดีที่มีโอกาสได้พบกัน แต่เมื่อนายสมบัติเล่าถึงเรื่องราวความหลังของการพลัดพรากของพ่อแม่ลูกเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน น.ส.ศิริรัตน์ ถึงกับร่ำไห้สะอึกสะอื้น โดยเพื่อนและล่ามชาวไทยต้องช่วยกันปลอบใจอยู่พักใหญ่
นายสมบัติได้เปิดเผยสาเหตุที่ต้องนำ น.ส.ศิริรัตน์ไปให้บาทหลวงช่วยเลี้ยง เพราะหลังนางแดงคลอด น.ส.ศิริรัตน์ได้ไม่นาน ทั้งคู่ได้หย่าร้างกัน ต่อมานางอำวังแม่นายสมบัติได้ไปขอ น.ส.ศิริรัตน์จากนางแดงมาเลี้ยง แต่นางอำวังเลี้ยงไม่ไหว เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน จึงนำไปมอบให้บาทหลวงช่วยหาพ่อแม่บุญธรรมให้ หลังจากนั้นไม่นาน นายสมบัติคิดถึงลูก จึงไปติดต่อจะนำกลับมาเลี้ยง
แต่บาทหลวงบอกว่า ได้มอบลูกสาวให้ครอบครัวแถวจังหวัดลพบุรีรับไปเลี้ยงดูแล้ว เมื่อแต่งงานมีครอบครัวใหม่ก็ได้ตั้งชื่อลูกสาวกับภรรยาใหม่ว่า “ศิริรัตน์” ด้วยความคิดถึงลูกสาวคนแรกที่ต้องพลัดพรากจากกันไป
นายสมบัติเล่าอีกว่า รู้สึกดีใจที่ได้พบหน้าลูกสาวจนพูดอะไรไม่ออก เพราะไม่คิดว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้พบหน้ากันอีก จึงแลกเปลี่ยนรูปถ่ายระหว่างกันไว้ดูยามคิดถึงด้วย
ด้าน น.ส.ศิริรัตน์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้พบพ่อและแม่ที่แท้จริง ซึ่งตนใช้เวลาตามหาอยู่นานหลายปี สำหรับหลักฐานที่ใช้ตามหาที่มีอยู่ชิ้นเดียวคือใบแจ้งเกิด โดยติดต่อผ่านหนังสือพิมพ์และรายการค้นหาคนหายทางสถานีโทรทัศน์ประเทศเดนมาร์ก และได้รับการประสานเมื่อเดือนตุลาคม 2552 ว่า สามารถติดต่อพ่อแม่ที่แท้จริงได้แล้ว จึงได้เดินทางมาพบในวันนี้
“ปัจจุบันพักอยู่ที่ประเทศเดนมาร์ก โดยพ่อแม่บุญธรรมมีธุรกิจเกี่ยวกับการค้าเหล็ก ส่วนเมืองไทยก็น่าอยู่มาก ถ้าวันใดรู้สึกคิดถึงพ่อแม่ก็จะโทรศัพท์มาหา หากมีเวลาก็จะเดินทางมาเยี่ยมด้วยตนเองอีก” น.ส.ศิริรัตน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่าง น.ส.ศิริรัตน์ เดินทางมาพบพ่อแม่ทางสถานีโทรทัศน์ประเทศเดนมาร์ก ได้ส่งช่างภาพและพิธีกรมาบันทึกเทปการพบปะระหว่างพ่อแม่ลูกไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน และจะนำออกอากาศฉายให้ชาวเดนมาร์กดูราว 5-6 เดือนข้างหน้านี้
