ยะลา - พุทธศาสนิกชนชาวยะลากว่า 1,000 คน ร่วมงานประเพณีชักพระ ประจำปี 2552 ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ ฝ่ายปกครอง โดยได้นำเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และ รีโมทคอนโทรล มาใช้ในรัศมีรอบ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุร้าย
วันนี้ (5 ต.ค.)ที่บริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เทศบาลนครยะลาได้จัดงานประเพณีชักพระ ประจำปี 2552 ขึ้น ซึ่งมีขบวนเรือพระจากวัดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดยะลา และ ใกล้เคียงเข้าร่วมในงานเป็นจำนวนมาก โดยขบวนเรือพระได้เคลื่อนขบวนออกจากศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลาและได้แห่เรือพระไปรอบ ๆ เขตเทศบาลนครยะลา ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนร่วมชมขบวนเรือพระเป็นจำนวนมาก
พระเพณีชักพระ จะมีขึ้นใน วันแรมค่ำ 1 เดือน 11 ซึ่งถือเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนกระทำกันหลังวันออกพรรษา1วันโดยการพร้อมใจกันอาราธนาพระพุทธรูปขึ้นประดิษฐานบนบุษบกที่วางอยู่เหนือรถ เรือ หรือ ล้อเลื่อน แล้วแห่แหนชักลากไปตามลำน้ำ หรือ ตามถนนหนทาง เทศบาลนครยะลา ได้มีการจัดงานประเพณีชักพระขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2546 จนถึงปัจจุบัน และเป็นที่สนใจของพุทธศาสนิกชน รวมทั้งวัดต่าง ๆ ทั้งในจังหวัดยะลา และ พื้นที่ใกล้เคียง ส่งเรือพระเข้าร่วมชุมนุม เป็นจำนวนมาก
การจัดงานในครั้งนี้ มีการดูแลรักษาความปลอดภัย จากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ทหารพราน และ ฝ่ายปกครอง กันอย่างเข้มงวด มีการตรวจเข้มผู้ที่จะเข้าไปยังบริเวณงานทุกคนไม่มีข้อยกเว้น และ ได้นำเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และ รีโมทคอนโทรล มาใช้ในรัศมีรอบ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุร้ายได้
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า การจัดงานประเพณีชักพระ เป็นงานที่ทางเทศบาลนครยะลา ได้จัดขึ้น เป็นงานที่ดีอีกงานหนึ่ง สำหรับประเพณีชักนั้นพระถือเป็นการอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่สืบต่อไปและยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และ วัด อีกทั้งเป็นการปลูกฝังคุณธรรม ความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ
โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย ชุมนุมเรือพระ การสมโภชเรือพระ การประกวดขบวนแห่เรือพระ การแข่งขันตีตะโพน การแข่งขันซัดต้ม การประกวดกลองยาว และ การแสดงมหรสพ มีกำหนดการจัดงาน ตั้งแต่วันที่ 5 - 7 ตุลาคม 2552 ที่บริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา
ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยให้กับขบวนเรือพระ และ ประชาชนที่มาเที่ยวในงานนั้น ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ ทหาร และ ฝ่ายปกครอง ให้ปฏิบัติงานในการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และ ให้เพิ่มความระมัดระวัง เพื่อรักษาความความสงบสุขให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
