xs
xsm
sm
md
lg

อปพร.โคราช-การ์ด พธม.วอนช่วย! ลูกสาว 13 ปีหายจากบ้าน 4 เดือนไม่รู้ชะตากรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประเสริฐ แก้วกระโทก อายุ 53 ปี อปพร.โคราชและการ์ดพธม.วอนสื่อ-หน่วยงานรัฐเกี่ยวข้องช่วยเหลือตามหาลูกสาววัย 13 ปี หายจากบ้านนานร่วม 4 เดือนไม่รู้ชะตากรรม วันนี้ (22 ธ.ค.
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “อปพร.”เ ทศบาลนครโคราชและการ์ดพันธมิตรฯ วัย 53 ปี วอนสื่อ-หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือตามหาลูกสาววัย 13 ปี หายจากบ้านไปกับเพื่อนหญิงนานร่วม 4 เดือนยังไม่รู้ชะตากรรม หวั่นถูกหลอกไปในทางไม่ดี ฝากบอกลูกสาวพ่อเป็นห่วงมากขอให้กลับมาอยู่บ้าน ซ้ำร้ายสุขภาพไม่แข็งแรงเผยเข้าร่วมกู้ชาติเป็นการ์ดพธม.ถูกระเบิดเจ็บสาหัสในเหตุการณ์ 7 ตุลาทมิฬ รัฐบาลหุ่นเชิดทรราชล้อมปราบฆ่าประชาชนข้างรัฐสภา

วันนี้ (22 ธ.ค.) นายประเสริฐ แก้วกระโทก อายุ 53 ปี อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) เทศบาลนครนครราชสีมา อยู่บ้านเลขที่ 328 ซอยสืบศิริ 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือผ่านผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือตามหาลูกสาววัย 13 ปี ที่หายออกจากบ้านไปเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว หลังจากที่ผ่านมาพยายามตามหาลูกทุกหนทุกแห่งที่คิดว่าลูกสาวจะไปก็ไม่พบ

นายประเสริฐเล่าให้ฟังว่า ได้อยู่กินกับ นางคำเอ้ย คำแสง จนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือ ด.ญ.ประภาศรี แก้วกระโทก หรือ “น้องเฟิร์น” อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม. 1 โรงเรียนบ้านบุพัฒนา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และได้เลิกรากันกับ นางคำเอ้ย แม่ของน้องเฟิร์น เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตนและลูกสาวได้ย้ายจากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา

โดยได้พยายามเลี้ยงดูลูกสาวใส่ใจดูแลให้ความอบอุ่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งลูกสาวก็มีความประพฤติดี เป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่อมาโดยตลอด แต่มาช่วงหลังไปคบหากับเพื่อนและทางโรงเรียนแจ้งว่าไม่ไปเรียนหนังสือ พ่อก็ดุด่าลูกบ้างแต่ไม่เคยลงไม้ลงมือกับลูกเพราะอยากให้ลูกไปโรงเรียน สุดท้ายลูกสาวก็ยอมไปเรียนหนังสือ

จนกระทั่งประมาณเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ลูกสาวได้พาเพื่อนรุ่นพี่ คือ น.ส.วิชุดา ปวงกลาง อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 14 ต.ใหม่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ซึ่งไม่ได้เรียนหนังสือ มานอนพักที่บ้านตนก็ไม่ต่อว่าอะไร เพราะคิดว่าลูกคนอยากจะมีเพื่อน ต่อมาประมาณ 1 อาทิตย์ ทั้ง 2 คนก็หายออกจากบ้านไปไม่กลับมานอนที่บ้าน ตนพยายามออกตามหาทั้งที่บ้านของ น.ส.วิชุดา ที่ อ.โนนสูง พบแต่คุณยายของ น.ส.วิชุดาแจ้งว่าไม่เจอเด็กทั้ง 2 คนและทางบ้านก็พยายามออกตามหา น.ส.วิชุดาเช่นกัน


จากนั้นตนได้ไปตามหาทุกหนแห่งทั่วเมืองโคราชที่คิดว่าลูกจะไปก็ไม่พบ กระทั่งเดือน ก.ย. มีคนมาแจ้งว่า เคยพบลูกสาวอยู่ร้านคาราโอเกะ บนห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง กลางเมืองโคราช ตนก็ไปตามหา จนเจอลูกแล้วบอกให้กลับบ้าน ลูกกลับมาอยู่บ้านได้ 1-2 วันก็หายออกไปอีก ตั้งแต่นั้นมาก็เคยไม่พบหน้าลูกอีกเลย ไม่รู้จะไปตามที่ไหนอีก จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจก็รับปากว่าจะช่วยตามหาลูกให้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวลูกสาว

“ทุกวันนี้ไม่ลดละความพยายาม ยังคงออกตามหาลูกสาวอยู่ทุกวัน ไปถามตามบ้านเพื่อนบ้าง หรือไปตามร้านอาหารสถานบันเทิงต่างๆ บ้าง เผื่อจะเจอลูกแต่ก็ไม่ได้ร่องรอยอะไรเลย ตอนนี้เป็นห่วงลูกสาวมาก เพราะเขาเป็นคนอ่อนไหวเชื่อคนง่าย และยังเป็นเด็กไม่รู้เท่าทันคน เกรงว่าลูกสาวและเพื่อนรุ่นพี่ของเขาจะถูกคนหลอกไปทำในสิ่งที่ไม่ดี นอนกลุ้มใจคิดถึงลูกทุกวันจนเกิดอาการเครียด ก็อยากบอกลูกว่า พ่อคิดถึงลูกมาก อยากให้กลับบ้านมาอยู่ด้วยกัน และอยากรู้ว่าลูกเป็นอยู่อย่างไร ไปตกระกำลำบากที่ไหนขอให้พ่อได้รู้บ้าง” นายประเสริฐกล่าวทั้งน้ำตาของหัวอกคนเป็นพ่อ

นายประเสริฐกล่าวอีกว่า ปัจจุบันสุขภาพของตนไม่ค่อยแข็งแรง เพราะประสบเหตุการณ์สลายการชุมนุมอย่างรุนแรงของรัฐบาลจากการเข้าร่วมชุมนุมกู้ชาติกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่กรุงเทพฯ ช่วง 193 วัน ปี 2551 โดยตนทำหน้าที่เป็นการ์ดพันธมิตรฯ คอยดูแลความสงบเรียบในการชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรฯ ซึ่งในเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ตุลาทมิฬ ที่บริเวณข้างรัฐสภา ตนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งจากการปะทะและถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณแผ่นหลัง แขนหัก เอ็นหัวเข่าขาด ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานนับเดือนและต้องผ่าตัดใหญ่

หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว ในช่วงแรกตนยังเดินไม่ได้เพราะปวดหลังและปวดขามากต้องใช้รถเข็ญและใช้ไม้พยุงตลอดเวลา ตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้วพอเดินไปไหนมาไหนได้และไปทำงานได้ แต่ยังเดินไม่ถนัด ซึ่งหากตนเป็นอะไรไป ก็ไม่รู้ว่าลูกสาวจะเป็นอย่างไรและเขาจะอยู่กับใคร


“ทุกวันนี้จึงอยากให้ลูกกลับมาหามาก เพราะเป็นห่วงเขา หากพลาดพลั้งอะไรไปชีวิตต่อไปอาจจะต้องลำบาก หรือวันหนึ่งถ้าไม่มีพ่อ พ่อไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครดูแลลูกจะเป็นอย่างไร จึงอยากวิงวอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และ หากใครพบเห็นลูกสาวขอให้โทรศัพท์แจ้งมาที่ หมายเลขโทรศัพท์ 08-2866-0711 หรือ 08-1063-9882 ด้วยจักขอบพระคุณเป็นอย่างมาก” นายประเสริฐกล่าว

ลูกสาว ด.ญ.ประภาศรี แก้วกระโทก หรือ “น้องเฟิร์น”
น้องเฟิร์นกับ เพื่อนรุ่นพี่ที่หายไปด้วยกัน




กำลังโหลดความคิดเห็น